วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ตื่นเช้าไปชม Botanic Gardens





เสาร์ที่ 19 มีนาคม 2554

เช้าที่สองบนเกาะสิงคโปร์ บริหารการเที่ยวชมด้วยการนำคณะเดินไปสำรวจต้นหมากรากไม้ที่โบตานิก การ์เด้นส์ ซึ่งอยู่ห่างโรงแรมที่พักไปประมาณ 2 ป้ายรถเมล์ (ขากลับเลยนั่งรถเมล์กลับเลย)

ต้นไม้ในนี้น่าทึ่ง แต่เดินยังไม่ทั่วถึง เลยอยากกลับมาอีก
สักครั้งสองครั้ง

วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

สีสันชีวิตที่ลิตเติลอินเดีย






ศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2554

คิดๆๆ จะไปเที่ยวที่ไหนในสิงคโปร์ดี
...ไปเดินเล่นละแวกลิตเติลอินเดียกันเหอะ



ปล. เพราะความขี้เกียจจึงไม่ได้คัดสรรรูปให้เหลือในประมาณพอทนดู
ดังนั้นหากใครดูไม่จบจนรูปสุดก็ไม่ว่ากันนะคะ ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด

ออร์ชาร์ดน่าสนใจกว่าที่คิด






17-19 มีนาคม 2554

ถนนออร์ชาร์ดจัดเป็นย่านชอปปิ้งแท้จริง
แต่แม้ไม่มีเงินพอจะชอป แค่เดินช้าๆ จับตาดูความเคลื่อนไหวของชีวิตชีวาบนถนนเส้นนั้น
ก็สนุกแล้วล่ะ


วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

ชีวิตกระจิ๊ดริดเดียว





พฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2554

เหาะหนีหนาวจากบางกอก
มองลงมาข้างล่าง
เห็นชีวิตมีขนาดกระจิ๊ดเดีัยว

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

ของกินที่สิงคโปร์ : อร่อยหรูในโรงแรม



มะเขือเทศอร่อยจัง



เช้าวันที่ 18 กับ 19 มีนาคม 2554
ฝากท้องไว้กับบุฟเฟต์อาหารเช้าที่โรงแรม
ปลื้มใจกับข้าวผัด เห็ด และอื่นๆ (นี่ขนาดยังไม่ได้ลองชิมไข่ มิโซะซุป และค่องกี่ของเขาเลยนะ)

ถ่ายภาพมาเฉพาะที่นึกทัน คัดมาเฉพาะที่ชัด
จริงๆ แล้วบริโภคมากขนานกว่านี้มากมาย

ของกินที่สิงคโปร์ : อร่อยติดดิน


กัดแล้วเจอหมูสับปรุงรสลอยน้ำอยู่ข้างใน

กรี๊ดมาก อร่อย

17-19 มีนาคม 2554 : สิงคโปร์

ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไม่กินของในห้างหรอก เพียงแต่มันไปหิวได้จังหวะ "ไม่ไหวแล้ว" เอาตรงที่ไม่ใช่ฟู้ดคอร์ดหรูๆ ในห้าง แต่ก็ดีนะ ทำให้เราได้กินของที่อร่อยแบบไม่ได้คาดหวังความอร่อย แถมยังได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของคนสิงคโปร์ด้วย

ของแบบนี้ ถ้าอยู่แต่ในโรงแรม ไปยูนิเวอร์ซัลสตูดิโอ แล้วเดินมาช็อปปิ้งในห้างแถวออร์ชาร์ด รับรอง ไม่มีทางได้เห็น

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

ของกินที่สิงคโปร์ : อร่อยของกินเล่น



เสียดายเงินมาก เพราะไม่มีอะไรอร่อยเลย

เบียร์จีนรสชาติแย่ เทียบกันแล้วให้เบียร์ช้างเป็นเทพไปเลย ส่วนขนมกรุบกรอบนั่นเค็มจัดจนแทบไม่รู้รสอื่น

โลเกชั่นแปลกๆ เพราะซื้อมาชิมที่โรงแรมจ้ะ



17-19 มีนาคมที่ผ่านมามีโอกาสไปเที่ยวสิงคโปร์
เป็นทริปที่ทำให้คิดถึง foot massage แถวบ้านสุดๆ แต่ก็สนุกมาก
ก่อนจะโม้ให้ฟังว่าไปเห็นอะไรมาบ้างขอเปิดประเดิมด้วยรูปเรียกน้ำย่อยก่อนละกัน

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554

มุมของแมว







ค่ำแล้ว
ผู้คนยังเดินขวักไขว่
แมวหลับใหลไม่สนใจโลก




(จันทร์ที่ 14 มีนาคม 2554: สถานีบีทีเอส อโศก)

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2554

โตเกียวจิน ความสุขรายวันของคนคลานช้า

Rating:★★★★
Category:Books
Genre: Other
Author:สายฝน ทากาโอกะ



อาทิตย์ที่แล้ว ก่อนได้ยินข่าวที่ทำให้ไม่สบายใจไปอีกหลายวัน ฉันกำลังเพลินกับ "โตเกียวจิน ความสุขรายวันของคนคลานช้า" แล้วก็กำลังนึกรักคนเขียน สายฝน ทากาโอกะ ซึ่งไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นนาน 20 ปีแล้ว เริ่มต้นที่เกียวโต แล้วก็ย้ายเข้ามาอยู่เมืองใหญ่ที่แสนจะวุ่นวายอย่างโตเกียว

ครึ่งชีวิตในญี่ปุ่น เธอเติบโตจากการเป็นนักเรียน ผ่านช่วงวุ่นๆ ของการเป็นพนักงานบริษัทกราฟิกดีไซน์ ชีิวิตที่รีบเร่งกับการแข่งขันจนกลายเป็นนิสัย เมื่อเจ้าตัวนึกได้จึงลองปรับสปีดมาคลานช้าๆ เหมือนหอยทากที่ลูกชายเก็บมาเลี้ยงบ้าง

การเดินช้าทำให้สายฝนได้ชื่นชมกับวิวสองข้างทางที่ไม่เคยสังเกตเห็นจากสปีดของรถด่วน เธอค้นพบสถานที่สุดพิเศษส่วนตัว อาจไม่ใช่สถานที่ที่ใครๆ รู้จัก แต่ก็อบอุ่น และมีเสน่ห์เหลือหลาย จากนั้น ด้วยความสามารถในการเล่า เธอก็ถ่ายทอดความทรงจำแสนงามของสถานที่และฤดูกาลต่างๆ ในโตเกียวเป็นภาพถ่าย ภาพวาด และถ้อยคำ ให้เราได้สัมผัสถึงอย่างแสนจะอิ่มเอมและอิจฉา

อดไม่ได้ที่จะนึกอยากมีโอกาสไปคลานช้าๆ ที่โตเกียวแบบสายฝน คลานไปอย่างประณีต ทำความรู้จักกับโตเกียวด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า ไม่ปล่อยให้มีรายละเอียดอื่นใดหลุดรอดสายตา และได้ไปเยี่ยมเยือนมุมพิเศษของเธอสักครั้ง ....แต่โตเกียวและญี่ปุ่นคงจะเปลี่ยนไปจากที่สายฝนเล่าตั้งแต่แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในบ่ายวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2554 แล้วกระมัง

ฉันไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะช่วยอย่างไร
แค่อยากให้ซากุระบานไวๆ จะได้เป็นกำลังใจให้คนญี่ปุ่นลุกขึ้นสู้ชีวิตใหม่อีกครั้งในเร็ววันนี้



หมายเหตุ:
-ระหว่างอ่าน "โตเกียวจินฯ" สายฝน ทากาโอกะ ทำให้ฉันนึกถึง "จักรวาลในสวนดอกไม้" งานเขียนถึงต้นไม้ใบหญ้าของ คำ ผกา ในอวตารของ ฮิมิโตะ ณ เกียวโต (http://mandymois.multiply.com/reviews/item/134) อวตารที่ฉันรักมาก แต่เชื่อไหม ตอนนี้ฉันรัก สายฝน (และอยากได้พี่สาวแบบนี้) ยิ่งกว่ารักฮิมิโตะฯ เสียอีก
-เป็นผู้หญิงเต็มตัวนี่ช่างมีเสน่ห์ น่าหลงใหลเสียจริง
-ประทับใจมากกับเรื่องราวของช้าง ฮานาโกะซัง (ตอนนี้เรียกน้ำตาได้เลย)
-ก่อนอ่าน ฉันไม่เคยนึกรักเมืองโตเกียวอะไรนัก แต่อ่านแล้วอยากเห็นต้นแปะก๊วยสีทองเต็มเมืองโตเกียวจัง
-อยากไปชมดอกไม้ไฟที่เรนโบว์ บริดจ์ ด้วยซี
-ดังโหงะ ดังโหงะ อยากกินดังโหงะ โมจิอุ่นๆ อยากสูดโซบะในวันข้ามปี อยากทำการ์ดอวยพรปีใหม่
-ถ้าจะให้ไปอยู่ญี่ปุ่น ฉันไปนะ ไม่กลัว
-มีความเห็นว่าปกหนังสือเล่มนี้ไม่สวยเท่ารูปข้างในนะ



เยาวราชยังเหมือนเดิม





เสาร์ที่ 12 มีนาคม 2554
นั่งรถเมล์จากสะพานเหลืองไปท่าช้าง ผ่านเยาวราช
มองเผินๆ แล้ว เยาวราช(รถติด)เหมือนเดิม

วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2554

คนกับหุ่น : ใครเหมือนจริงกว่ากัน?




พฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554

ไปสำรวจพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ บางกอกมา
น่าทึ่งมาก เพราะว่าด้วยเทคนิคการทำสีกับจัดแสงของเขา หุ่นขี้ผึ้งที่เห็นกับตาไม่ได้เหมือนเป็นจริงเป็นจัง ดูมีชีวิตชีวาเท่ากับตอนที่ถ่ายเป็นรูปออกมาแล้ว

เวลาเราไปยืนโพสข้างๆ บางทีหุ่นยังเหมือนคนยิ่งกว่าเราด้วยซ้ำไป!



ปล. นานๆ มาที ขออนุญาตจัดเต็มนะคะ