วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

New York, I Love You : เรื่องของความรัก และการเรียนรู้ที่จะอยู่กับรัก

Rating:★★★★
Category:Movies
Genre: Romantic Comedy


ว่าไหมว่าขณะที่เราดูหนังแต่ละเรื่อง หรือแต่ละรอบของหนังเรื่องเดิมๆ พื้นอารมณ์ความรู้สึกที่เรามีขณะนั้น มีส่วนมากๆ กับความรู้สึกที่จะเกิดจากการดูหนังเรื่องนั้น หรือรอบนั้น

ฉันไปดู New York, I love you ประสาสาวโสด เมื่อเสาร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๒

ก็รู้มาก่อนว่าจากหนังเรื่องนี้เราจะได้ฟิลลิ่งคล้ายๆ Paris, Je t’aim (Paris, I love you) ซึ่งฉันก็มาดูในโรงเครือเอเพ็กซ์นี่แหละ จำได้เลือนๆ ว่าก็เป็นการเล่าเรื่องความรัก ดีๆ บ้าง สะเทือนใจบ้าง (ก็ความรักมันออกจะมีมิติรอบตัว) แต่ไม่รู้ว่าเพราะดูเรื่องนั้นมานาน จนความจำชักเลือน หรือเพราะความรู้สึกอบอุ่นที่เริ่มก่อตัวในใจ ฉันถึงรู้สึกว่าเรื่องรักในนิวยอร์กมันน่ารัก สดใส จับใจ มากกว่าหนังรักของปารีสไปซะได้

ความรักในหนังทั้งสองเรื่องเกิดในเมืองใหญ่อันแสนจะสับสน เพราะเป็นที่ที่ผู้คนจากทั่วโลกมุ่งตรงมาเพื่อหาที่ทาง หาโอกาส และความสำเร็จของตัวเอง ความพยายามแก่งแย่งและเอาเปรียบกันนี้แหละที่ทำให้เกิดภาวะแล้งรัง จะรักใครก็ไม่กล้า จะพูดกับใครก่อนก็กลัว เพราะต่างก็เป็นคนแปลกหน้า ไม่รู้จักกัน ไม่วางใจกัน ไม่เชื่อในตัวกันและกัน

จะว่าไปแล้ว ถ้าเราก้าวพ้นความรู้สึกระแวงที่เว่อร์กว่าสัญชาตญาณระแวงภัยนี้ไปเสีย บางที แม้ไม่ใช่ความรักดีๆ ที่เราได้พบ แต่สิ่งที่ได้เจออาจจะเป็นมิตรภาพที่ดี มีค่ามากกว่าความรักห่วยๆ ที่เคยไขว่คว้ามาเพราะความหน้ามืดเสียอีก

หนังเรื่องนี้ไม่ได้แค่เตือนฉันให้เปิดประตูต้อนรับคนแปลกหน้า แต่ยังบอกอีกว่าเมื่อเขาก้าวเข้ามา มอบความรู้สึกดีๆ และความปรารถนาดีให้กับฉันถึงในบ้านแล้ว ฉันก็ควรบำรุงถนอมรักษาน้ำใจไมตรี และความรู้สึกดีๆ ที่เขามีต่อฉัน (และฉันมีต่อเขา)เอาไว้ให้เป็นอย่างนั้นอีกนานๆ

ในความรู้สึกของฉัน ไม่ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ในปารีส นิวยอร์ก บางกอก หรือเชียงใหม่ ความรัก แม้จะมีอยู่รายรอบตัวเรา แต่รักดีๆ (และสำหรับเราเท่านั้น) ไม่ใช่ของหาง่าย ไม่สะดวกซื้อสะดวกหา เหมือนของกินใน(หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา ที่)เซเว่นอีเลเว่น

และถึงแม้ความรักจะแข็งแรง แต่ก็เป็นสิ่งเปราะบาง แตกหักง่าย ซ่อมดียังไงก็ไม่มีทางเนียนสวยเหมือนเดิม


เพราะอย่างนั้น ถ้าไม่อยากอยู่โดยไม่มีความรัก ก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความรัก..อย่างมีความสุขด้วย (เรื่องนี้สำคัญมาก)





บันทึก:
• หนัง New York, I love you เล่าเรื่องรัก ๑๑ เรื่อง แต่....ทำไมไม่มีรักของเกย์เลยละค๊า????
• เรื่องที่ประทับใจคือเรื่องของหนุ่มเชน กับสาวยิว ความสับสนในดวงตาของนาตาลี พอร์ตแมน ทำให้เรา lost ได้อีกแล้ว และเธอคนนี้คือสาวไม่มีผมที่สวยที่สุดจริงๆ
• เรื่องของออร์แลนโด บลูม กับ crime and punishment ก็น่ารักดี (เอามากๆ) ทั้งๆ ที่ฉันก็ไม่คิดจะอ่านนิยายเรื่องนี้ให้จบเหมือนกัน (ดูตอนนี้แล้วอยากใช้ไอโฟนขึ้นมามั่ง อย่างตะหงิดๆ)
• ตอนอีธาน ฮอว์ก จีบสาวไม่ติดใจ แต่ชอบท่าสูบบุหรี่ของแม็กกี้คิวเอามากๆ ยิ่งตอนเธอพูดจีนในอีกตอน ยิ่งเซ็กซี่
• ตอนหนุ่มน้อยควงสาววีลแชร์ไปงานพรอม ข้ามไปได้เลย
• ตอนของจูลี่ คริสตี้ มีเสน่ห์ที่สุดในความรู้สึก ทั้งแอคติ้ง ฉาก แสง มุมกล้อง แล้วก็ความหลอน อู้ยยย อยากดูเต็มๆ (ชอบตัวละครตัวนั้นมากๆ เลย)
• ตอนที่พอร์ตแมนเขียนบทให้เด็กผิวขาวมีพ่อเป็นหนุ่มนักเต้นผิวดำก็ดี อบอุ่นจังเลย
• ตอนศิลปินโทรมๆ กับซูฉี เป็นตอนที่สะเทือนใจมาก เห็นไหม ความรักไม่ให้เวลาเรานานหรอกนะ
• ตอนคุณปู่คุณย่าเป็นตอนที่น้ำตาเกือบไหล เป็นตอนที่อยากให้เพื่อนคนหนึ่งมาดูด้วยกัน คิดว่าเขาคงชอบมากเหมือนกัน
• อีกตอนที่ชอบคือ ซีเคว้นซ์ที่ผู้ชายกับผู้หญิงออกมายืนสูบบุหรี่นอกร้านอาหารแล้วคุยกัน ใช่อะ คิดว่าใช่ อยู่กันไปนานๆ แล้วผู้ชายจะลืมอะไรบางอย่างไปแบบอีตาคนนี้แหละ (รู้ตัวแล้วอย่าลืมอีกให้มันบ่อยนักนะคะทูนหัว)
• อยากถ่ายหนังแบบยายคนนั้นบ้างจัง
• ดีใจที่ได้ไปดู
• จะดีใจกว่านี้ไหม ถ้าไม่ได้ดูคนเดียว?

43 ความคิดเห็น:

  1. อือ
    สอบเสร็จถ้ายังฉายอยู่ก็ว่าจะไปดู

    ตอบลบ
  2. น่าอิจฉาจัง คุณม๊อยส์ได้ดูหนังดีๆ บ่อยๆ หลังๆนี้ผมเหมือนดูไม่มีเวลาให้กับตัวเอง ก็ไม่รู้ทำไม? ยุ่งก็ไม่ยุ่ง เลยไม่ค่อยได้ดูหนัง.

    ตอบลบ
  3. แปลก นึกไม่ออกว่าหนังเป็นยังไง อ่านที่เอ็งเขียนก็นึกไม่ออก

    ตอบลบ
  4. อารมณ์คล้ายๆกับ Lost in translationเปล่านะ?

    ตอบลบ
  5. P'Moi...

    I forget that I will go to watch it. I'm in hard time and I absolutely forgot that I plan to go to see this movie.
    It was limited launch in the US movie theater. And now it's gone. T T

    ตอบลบ
  6. ก็ไม่ได้กะให้อ่านแล้ว enlighten ว่าหนังเป็นยังไงนี่น้า

    ตอบลบ
  7. ไม่นะ
    Lost in Translation มันเป็นความอึดอัดที่ไม่มีใครสื่อสารด้วย พอเจอคนที่เข้าใจก็เลยรู้สึกเหมือนต้นไม้้ได้น้ำ

    แต่เรื่องรักทั้ง 11 เรื่องใน New York, I love you. มันให้ฟีลลิ่งที่ต่างกันไปน่ะ
    เหมือนช็อกโกแลต (ของฟอร์เรสต์ กัมพ์) แต่ละคำมันให้รสต่างกัน

    ตอบลบ
  8. ฉันไปดูเรื่องนี้รอบสื่อ แต่ดูคนเดียวล่ะ ชอบเรื่องนี้กว่า Paris Je 't'aime คงเป็นเพราะความน่ารัก อบอุ่นของหนังมั้งที่มันมีมากกว่า และความเชื่อมโยงของตัวละคร ขณะที่ปารีสเป็นเอกเทศของตัวเอง บางตอนของปารีสก็เซอร์มาก จนมึน ชอบเรื่องที่พี่ชุนจิ อิวาอิ กำกับ สไตล์ชัดเจนมาก ที่สำคัญคือออแลนโด บลูม น่ารัก อีกเหตุผลของความอินกว่าปารีส สงกะสัยเป็นเพราะเคยไปเดินชะแว้บๆ ในนิวยอร์คมาวันสองวัน น่าจะมี Bangkok I Love You บ้างเนอะ อยากดู

    ตอบลบ
  9. ชั้นว่าเพราะเค้าเอาออร์แลนโดมาทำเซอร์อะดิ ถึงถูกใจป้า

    นี่ ตอนนี้ดู Hotaru no Akari อยู่ กำลังกรี๊ดมากมาย

    ตอบลบ
  10. ป้านุชๆ คนที่เล่นในตอนจูลี่ คริสตี้ ที่เป็นเบลล์บอลอะ
    ร่างกายเค้าพิการอย่างที่เห็นในหนังหรือป่าวอะ?

    ตอบลบ
  11. ไม่รู้ว่ะ สงสัยต้องไปหาเบื้องหลังมาอ่าน แล้วแกชอบใครในโอตารุล่ะ พี่หัวหน้าหรือเปล่า

    ตอบลบ
  12. เออชอบโฮตารุ ชั้นว่า ชั้นก็คือโฮตารุแหละ
    (สาวรักคุด) แต่เป็นเวอร์ชั่นที่แก่กว่านั้นประมาณ......3 ปี

    อิ อิ

    ตอบลบ
  13. อ่อ ชอบบุโจ (พี่หัวหน้า)
    ชอบสาวในอุดมคติ (หน้าสวยจัง)
    ชอบยามาดะซัง (เปรี้ยวได้ใจ-แต่พูดภาษาอังกฤษฟังไม่รู้เรื่องเรย)
    ไม่ชอบแค่คนเดียวคือ มาโกโตะ (หน้าตาท่าทางอย่างนี้ แถวบ้านไม่มีใครหลง)

    ตอบลบ
  14. กระต่ายเขียวชอบดูหนังแนวไหนอะ?

    ป.ล. เราก็อิจฉากระต่ายเขียว
    ที่มีเพื่อน(ร่วมบ้าน)เป็นยอดชาย ^_^

    ตอบลบ
  15. กลับมาดู DVD เมืองไทยก็ได้ ดาเลีย
    ใกล้จะกลับแล้วไม่ใช่หรอจ๊ะ?

    ตอบลบ
  16. ยังไม่ได้ดู แต่สงสัยเรื่องนี้ด้วยว่าทำไมน๊า :)

    // Paris, Je t' aime มันมีความห่างเหินยังไงไม่รู้อ่ะ ตอนที่เราดูก็ชอบน้อยเรื่องย่อยในนั้นนะ
    อ่านที่ม้อยเขียนแล้วอยากดูจัง ...

    ตอบลบ
  17. ยังอยู่นะโม่
    เสาร์อาทิตย์เหลือรอบเที่ยงกับหกโมง หรือหกโมงครึ่งนี่แหละ

    ตอนแรกว่าจะพาเพื่อนไปดูด้วยกันอีกรอบ
    ปรากฏเพื่อนมาถึงบ่ายสอง เลยต้องเป็น Kafoo ไป

    ตอบลบ
  18. เท่าที่จำได้
    เราโดนกับเรื่องแม่ที่ต้องไปเลี้ยงลูกให้คนอื่น

    เรื่องอื่นๆ แทบจะมะด้ายเลย

    ตอบลบ
  19. ...ไม่อยากเชื่อว่าไม่เคยเขียนถึง Paris, Je t'aim
    กลับไปค้นบล็อกเก่าใน msn ก็ค้นไม่เป็นแล้วอะ
    T-T

    ตอบลบ
  20. เพิ่งรู้ว่าเป็นสาววายเหรอค๊า????

    ตอบลบ
  21. เก่งนะ ตั้ง 11 ตอน ยังสื่อออกมาได้ดี

    ต้องไปหามาดูบ้าง จะหลับมั๊ยนะ

    ตอบลบ
  22. ชอบแม็กกี้คิวในเรื่องนี้มากๆ
    ชอบภาพของศิลปินอ้วนๆ ฉุๆ คนนั้นด้วย ซูฉีไม่น่าเอาไปภาพทำเสียอย่างนั้นเลย..เสียดาย

    ตอบลบ
  23. ไม่ใช่
    คือ หมายความว่าข้านะไปดูมาแล้ว แต่จำอะไรไม่ได้ หลายตอนที่เขีียนถึงก็นึกไม่ออก เหมือนยังไ่ม่ได้ดูว่ะ

    ตอบลบ
  24. เค้าเอาโชยุมาทำเขียนรูปได้นี่เก่งโคตร
    ดีที่ไม่ไปเขียนในร้านอาหารไทย

    (เพราะถ้าใช้น้ำปลาอาจจะเหม็นโฉ่)

    พี่ว่าซูฉีโทรมไปไหมคะ
    แต่ม้อยว่าเค้าเซ็กซี่เพราะดูโทรมนิดๆ อย่างนี้แหละ

    ตอบลบ
  25. ไม่น่าเชื่อว่าจะจำไม่ได้เอาขนาดนั้น
    ไม่มีติดอยู่ในใจสักเรื่องเลยหรอ?

    ตอบลบ
  26. ในเรื่อง ซูฉีเป็นพนักงานขายของในร้าน
    แต่งตัว แต่งหน้าอย่างนี้ ก็สมจริงดีแล้วครับ

    ตอบลบ
  27. ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่ต่างกันเท่าไหร่จ๊ะม้อย

    อ้อ แต่หนัง ปารีส ฉันรักคุณ เพลงเพราะนะ
    ไม่รู้ว่านิวยอร์ค ฉันรักเธอ เพลงเป็นไงบ้าง

    ตอบลบ
  28. เหมือนไม่ได้ดูเลยแหละ

    เที่ยวที่แล้วดูหนังตอนรอไปโน่นไปนี่
    Woodstock ดูไม่จบออกก่อนสัก 10 นาที ต้องรีบไป
    อีกเรื่องที่เทศกาลหนังไม่เก็ทจริงๆ
    ชอบ This is it อีกอย่างไม่นึกว่าโรงดิจิตอลมันจะชัดได้ขนาดนั้น

    ตอบลบ
  29. อยากดูหนังเยอะ ๆ แบบน้องม้อยจัง แต่ไม่ค่อยมีเวลาเลย
    คิดถึงหนังทีไรก็ชอบคิดถึงตอนเป็นโสด เพราะตอนนั้นดูหนังเยอะซะจนใจกระเจิง
    ขอบคุณมากที่รีวิวให้อ่าน

    ตอบลบ
  30. บางกอก ... กรูรักมรึงว่ะ

    ยังไม่ได้ดูล่ะซี ... เอามั่ย?

    ตอบลบ
  31. เอา เพื่อน..กูรักมึงว่ะ มาก่อนเลย

    ตอบลบ
  32. คุณพี่ ภาพชีวิตคุณน้องตอนนี้ไม่เหมือนเดจา-วูสำหรับคุณพี่หรอกหรอคะ

    วันนึง ถ้าน้องหา ผ ได้
    มีลูกกะเค้าสักคนสองคน ก็คงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างนี้
    และแน่นอนว่าจะมาเปรี้ยว ปากเก่งอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้วเหมือนกัน

    (นอกเสียจากว่าจะได้ ผ เป็นผู้กำกับ)

    ตอบลบ
  33. เอ่อ ไอ้เรื่องนี้มันน่าดูไหม

    อยากดูเหมือนกัน This is it
    ว่าแต่ว่าตอนนั่งดู ฟิลลิ่งมันจะเหมียนตอนเราดู We will rock you ไหมวะ

    แบรบว่า ได้แต่คุ้น แต่ร้องตามไม่ได้เลย อรัยเงี้ย

    ตอบลบ
  34. ลืมแล้วสิโม่

    ถ้าได้ดูอีกรอบจะมารายงานนะ

    ตอบลบ
  35. woodstocks ก็น่าดูเอ็ง หนังเรื่อยๆ ที่มาที่ไปของเทศกาล และการเปลี่ยนแปลงของเด็กคนหนึ่ง

    This is it ดูแล้วทำให้รู้สึกว่า กว่าจะเป็นได้อย่างนั้น ,ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม, มันไม่ได้มาง่ายๆ
    หนังอาจโปรโมทเพื่อให้รู้สึกว่าเขาเป็น king of pop ให้คนฟังคนดูจำและยอมรับ แต่มันก็ไม่ได้มาแบบสั่วๆ มั่วๆนะ ถ้าจะสร้างก็สร้างกันอย่างมืออาชีพ

    ตอบลบ
  36. อะโห ปกรณ์พูดขนาดนี้
    ต้องไปหาแผ่นผีมาดูซะแระ (This is it)

    ตอบลบ
  37. ไปดูในโรง เสียงกระหึ่มดี
    ตอนดูก็คิดว่า ถ้าโรงหนังฉายพวกคอนเสิร์ต คนจะมาดูเปล่า

    ตอบลบ
  38. จะไปดูเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เปิดดูรอบจาก นสพ ว่ามีรอบ18:30 พอไปถึงปรากฏว่ามีแต่รอบ12:00 ไม่รู้จะมีเวลาไปดูรึเปล่าก่อน หนังออกโรง ขอบคุณครับมี่ช่วยreview ทำให้มีความพยายามที่จะไปดูให้ได้อีกครั้งนึง ..I luv NY ...always

    ตอบลบ
  39. ชมยังไม่เห็นดีวีดีของที่นี่นะคะ

    ตอบลบ
  40. อิ อิ

    เมืองไทยไม่เหมือนอเมริกานี่น้า

    ตอบลบ
  41. Correct, we can find everything in Thailand.

    I download NY, I love you from Bit website.
    Guess what, my PC got a virus. - - "

    ตอบลบ
  42. ไวรัส เป็นเรื่องธรรมชาติ (หรือเปล่า?)

    ตอบลบ