เอจังฝากเยี่ยมต้นหมาก
บ่ายวันอาทิตย์ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๒
ในที่สุดก็ได้เห็น Angkor Wat กับตา
นี่คือ ๑ ใน ๗ สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่สร้างขึ้นหลังพุทธศตวรรษที่ ๑๗ โดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๒ (พ.ศ. ๑๖๕๖-๑๖๙๓) เพื่ออุทิศถวายแด่พระวิษณุหรือพระนารายณ์ เพราะตะแกนับถือลัทธิไวษณพนิกาย (แถมเชื่อว่าตัวเองเป็นอวตารของพระวิษณุอีก)
นามแท้จริงของปราสาทจารึกไว้ว่า "พระพิษณุโลก" หรือ "วิษณุโลก" ส่วนชื่อ นครวัด นี่ เขามาติ๊ต่างเรียกกันภายหลัง
เรื่องวัตถุประสงค์ในการสร้างปราสาทหลังนี้ยังเป็นที่คลุมเครือ คือบางหลายคนก็เชื่อว่านี่เป็นการสร้างสุสานของพระองค์เอง (เหตุหนึ่งเพราะปราสาทหันหน้าไปทางตะวันตก อีกเหตุตรงกลางของปรางค์องค์กลางที่สูงที่สุด มันเหมือนมีแท่สำหรับตั้งศพ ใต้นั้นบรรจุทราย มีการคาดเดาว่าทรายมีไว้สำหรับรับน้ำเหลืองจากศพ ไม่ให้ไหลเลอะเทอะนั่นเอง-แต่อันนี้ก็ไม่ได้เข้าไปเห็นกะสองตาหรอกนะ แค่เดินรอบๆ ก็มืดแล้ว)
คือเมื่อตาย ก็เอาศพมาไว้ที่นี่ แล้วก็จะได้กลายเป็นพระวิษณุไปจริงๆ อะไรอย่างนั้น
(ในช่วงชีวิตของสุริยวรมันที่ ๒ พระองค์ยังคลั่งสร้างอีกหลายปราสาท-สมัยนั้นอาจดูบ้าและโหด กับการเกณฑ์แรงงานคนมาขนหิน มายกหิน มาแกะสลักหิน แต่คิดๆ ดูก็เหมือนท่านลงทุนทำไว้ให้รุ่นหลังๆ-ไม่รู้เป็นลูกหลานหรือเปล่าหรอก-ได้เก็บดอกเก็บผลกิน ต่างชาติอย่างเราจะเข้าไปดูเปล่าๆ ปลี้ๆ ไม่ได้หรอก ต้องจ่ายคนละ ๒๐ ดอลลาร์ต่อวันเสียก่อน)
เป็นอะไรที่ใหญ่โตมโหฬารมากมาย ลองคิดดู ปราสาทหลังนี้ (โปรดหาลิงค์ใน Google Earth ดูเอานะ) สร้างขึ้นในสมัยที่ยังไม่มีรถแบ็คโฮ ไม่มีแม้แต่รถอีแต๋นสำหรับขนหิน ไม่มีเครนยกหิน อะไรทำให้มนุษย์เป็นพัน ใช้เวลาจำนวนมากในชีวิตมาขนหิน จากที่หนึ่งไปที่หนึ่ง นั่งตอกแซะหินทุกวันให้กลายป็นลวดลายละเอียดลออ เป็นนางอัปสรายิ้มพริ้มพราย
แค่แรงศรัทธาในเทพเท่านั้นหรือ?
รูปนี้สวย
ตอบลบแหม..สองสาว
ตอบลบโอ๊ะ โอ
ตอบลบอลังการเนอะ
ตอบลบน่าร้ากก
ตอบลบใจเย็นนะ ยังเขียน caption ไม่เสร็จเยย
ตอบลบอ้าว เหร อ ... ว้่า มาเร็วไป อิอิ
ตอบลบเหมือนนางฟ้ามาเจิม
ตอบลบอิอิ
เสร็จแล้ว เชิญเรย
หมายถึง วิว หรือ คน?
ตอบลบอยากได้อะไรที่จับต้องได้ . . .
ตอบลบสวยยยย . . . ชอบเมฆดำ ฟ้าครึ้ม
ตอบลบหว๋ายยยยยย
ตอบลบคนถ่ายต้องจ่ายให้แบบมิใช่รึ?
ตอบลบเพราะว่า ชั้นทำให้สองคนนี้มีรูปพอร์เทรตดีๆ (ไปใส่เฟซบุ๊ค) เยอะมาก
ตอบลบมากๆๆๆๆๆ ไงล่ะยะ
งั้นรอสบู่โซฟิเทล
ตอบลบทั้งคู่
ตอบลบ-"-
ตอบลบรูปนี้ก็ดูเหมือนใช้เลนส์ไวด์ๆนะ
ตอบลบลายสวยดีจัง
ตอบลบทำไมไม่เอามุมนี้บ้างล่ะแก....สวยๆ
ตอบลบเิ่อิ่ม..เิอิ่ม...
ตอบลบโดนเกณฑ์ไง
ตอบลบพลาดได้ไง
ตอบลบขาสั่นพั่บๆเลยแหละ ขั้นกะไดมันแคบมาก
ก็มีอะแก
ตอบลบแต่แขนบึ้มหน้าบานมาก
ต้องครอบให้แน่นเข้าไว้
ป้าอย่าพูดงี้ดิ
ตอบลบเด๋วน้องก็กลับไปอีก
เหมือนต้องกลับไปหลวงพระบางอีก
ไปเก็บตกไง (ตกไปเยอะะะะ)
กลิ่นโซฟิเทลซิกเนเจ่อร์ชิมิ?
ตอบลบเอามาแลกกับสบู่คลับสามง่าม (หืนๆ)
เมื่อไหร่เมริงจะได้รับเชิญไปดูไบ
บางโรงแรมใช้เฮอเม็ดทั้งห้อง
แอร์เมสอะหรอ ชิส์
ตอบลบชอบโจ มาร์โลนมากกั่ว
ป.ล. ทริปดูไบคงไม่ตกถึงปากกรูหรอก
จะเก็บให้หมดคงต้องหาสามีเป็นไกด์แล้วร่ะ
ตอบลบโห . . . มือใหญ่
ตอบลบท่าจะ . . . . . . . . . ต รี น ใหญ่
น่าไปนะเนี่ย แต่บารายไม่มีน้ำ เป็นการชลประทานที่ล้มเหลว
ตอบลบชอบเหมือนกัน
ตอบลบสวยดี
ตอบลบเอิ่ม ก็ตอนนี้เค้าจะใส่น้ำไว้ทำไมล่ะคุณน้อง
ตอบลบเด๋วก็มีนักท่องเที่ยวตกไปตายได้อีก
เอิ่ม ก็ตอนนี้เค้าจะใส่น้ำไว้ทำไมล่ะคุณน้อง
ตอบลบเด๋วก็มีนักท่องเที่ยวตกไปตายได้อีก
เกณฑ์แล้วต้องทำ?
ตอบลบไม่อะ ข้าว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น
เช่น ศรัทธา
หรือไม่ คนยุคนั้นก็ยังไม่มีใครมาเป่าหูเรื่องอิสรเสรีภาพ
ไม่มีใครพูดถึงหลักมานุษยธรรม การกดขี่แรงงาน และก็ความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์
...อ่า จะได้ไป "ถึง" จริงๆ ชิมะ?
ตอบลบไดอาล็อกนี้
ตอบลบเลียนแบบแอนนา สก็อต หนิ
น่าลองยิงแฟลชช่วย หรือมีรีเฟล็กซ์ข้างหน้า
ตอบลบอาจจะเริ่ดกว่านี้
คงไม่มากพอจะสร้างอะไรอลังการได้ขนาดนั้น คนต้นคิดอาจศรัทธาแรงกล้าเพราะไม่ต้องทำ แต่พวกแรงงานคงเซ็งๆ
ตอบลบสมัยนี้ไม่แน่เพราะมีจานดาวธรรมระดมทุนได้สบาย
กระทบกระเทียบเปรียบเปรยนะ
ตอบลบลออจริงๆ
ตอบลบน่าจะเป็นรูปราหูนะคะพี่ม้อย
ตอบลบเลวได้อีก
ตอบลบเกลียดอีพวกนี้จริงๆ -*-
ตอบลบฤดูกาลนี้ ลองโจ มาร์โลน ฟอร์ ลาแมร์ซิจ๊ะ
ตอบลบเออ ไมเขาสูบน้ำออกว่ะ ตอนช้านไป มีน้ำนะ
ตอบลบอยากให้ลองก็ส่งมาเด่ะ
ตอบลบเชี่ย ทุกวันนี้ใช้แต่ของแจก กะของฟรี
จนกรอบ
ตอบลบเออ น่าคิดนะ
ตอบลบ1. เพราะมีคนกระโดดลงไป
2. เพราะมีคนมาปล่อยปลา
3. เพราะอยากให้เห็นก้นบาราย
4. ???
เออ เป็นได้
ตอบลบก้นบารายกับขอบๆข้าง เขาแกะสลักอะป่าวแก เพราะตอนชั้นไป มันไม่เห็นอะ
คือนึกไปถึง ลำธารสายนึงในเสียมเรียบแหละ (จำชื่อไม่ได้ว่ะ)
ที่พื้นเป็นหิน เขาแกะสลักเป็นรูปนางอัปสรา เป็นศิวลึงก์เต็มไปหมดเลย
อะไรจะขนาดนั้นว่ะนั่น
คาดว่าเขาคงจะแกะตอนหน้าแล้งที่น้ำแห้งขอดอะ
ไม่ได้สังเกตว่ะป้า
ตอบลบไปคราวนี้ขอบอกว่าเที่ยวอย่างหูตาเหลือก
ไกด์บุ๊คก็ไม่อ่านไปอีกตามเคย (สันดราน-พลาดอะไรที่หลวงพระบางมาไม่รู้จักจำ)
ชั้นไปคราวนี้มันหน้าน้ำ แม่น้ำเสียมเรียบงี้ล้นเอ่อ เลยไม่เห็นอะไรที่เป็นลำธารที่ป้าพูด
แต่ชั้นเชื่อว่าลำธารของป้ามันคือแม่น้ำเสียมเรียบนี่แหละ แต่คงเป็นหน้าแล้งอะ
ไม่ๆ ไม่ใช่แม่น้ำเสียมเรียบ
ตอบลบมันเป็นลำธารจริงๆ ต้องนั่งรถออกไปไกลอยู่ (ไม่ได้อยู่ในตัวเมือง)
แล้วตอนชั้นไปมันก็เป็นหน้าน้ำด้วย ช่วงเดือนตุลาพฤศจินี่แหละแก
ความจริงช้านจดบันทึกไว้ แต่ไม่ได้เอามานี่ด้วย เลยจำไม่ได้ว่ามันชื่อไร
สวย
ตอบลบนับถือด้วยหินทรายทั้งนั้น
ตอบลบน่ากอดด
ตอบลบสวยอีก
ตอบลบมานคงอยากแกะหิน สกัดหินมาก แต่ทำไมไม่ยอมทำที่ฝาบ้านตัวเองฟระ ฮ่วย
ตอบลบคราดนี้มีแดด
ตอบลบอันนี้ละป่าว
ตอบลบ----------
แม่น้ำที่มีว่า (มีศิวลึงก์เต็มไปหมด) น่าจะเป็น กบาลสะเปียน น้อ
เห็นว่าเค้าไม่มีน้ำแห้งนะครับ
เค้าแกะทีละครึ่ง ด้วยการกั้นน้ำให้มันหันเหไปอีกฟาก
---------
(ผีบอก)
หรือว่าฝาบ้านเค้าเป็นไม้ไผ่สักฟาก
ตอบลบ(ฮ า)
โผส คล้าย นางอัปสรา เชียวนะ
ตอบลบมันเป็นสัจธรรม
ตอบลบต้องปีนค่ะต้องปีน
ตอบลบถึงวันนี้ก็ยังสงสัยว่าคนเขมรเค้าเดินขึ้นกันยังไง...เอิ๊กกก
^______^
ตอบลบชอบแสงที่ผมค่ะ
ตอบลบนึกถึงหนังสือเรื่องคุณพ่อขายาว
ตอบลบน่ารักมากกกกก
ตอบลบหมายถึงโพสหรอ?
ตอบลบอยากฟัดค่ะ
ตอบลบอยากฟัดค่ะ
ตอบลบ