วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

จากมะละกาถึงบาหลี ในนามของพระเจ้าและพริกไทย

Rating:★★★★★
Category:Books
Genre: Travel
Author:สมพงษ์ งามแสงรัตน์


ประสบปัญหาเล็กน้อยตอนจะเขียนรีวิว
คือมันต้องเลือกว่าหนังสือเล่มนี้อยู่หมวดไหน

คือ..ไม่ใช่ history แม้จะเล่าประวัติศาสตร์
..ยังไม่ใช่ art & photography แม้จะนำเสนอเรื่องราวของศิลปะ มีภาพสเก็ตช์สวยๆ ประกอบเรื่อง พร้อมด้วยภาพถ่ายสบายตา
..ไม่ใช่ literature & fiction แม้จะเขียนด้วยสำนวนแบบมีท่วงที มีอารมณ์ เหน็บแนมอย่างมีศิลปะ เล่าเรื่องยากๆ ซับซ้อนได้อย่างสนุึก..เพราะว่านี่มันไม่ใช่เรื่องแต่ง
..ไม่ใช่ outdoors & nature แม้จะเล่าถึงเรื่องเอาต์ดอร์ และธรรมชาติ
ทั้งยังไม่ใช่ religion & spirituality อีก แม้จะเล่าถึงความเชื่อ และรายงานศาสนาเปรียบเทียบ โยงมาอธิบายว่าทำไมคนที่เห็น จึงเป็นแบบที่เห็น

ก๊อเลยต้องจัดให้อยู่ในหมวด travel

แต่ถึงกระนั้นนี่ก็ไม่ใช่คู่มือท่องเที่ยว ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องบอกว่าเป็น “สารคดีท่องเที่ยว” ซึ่งไม่ได้เอาข้อมูลการเดินทางมาแผ่ซะเยอะเหมือนกะจะให้คนอ่านสะกดรอยตามไปถูก แต่เป็นการนำข้อมูลแบบ non-fiction หรือข้อเท็จจริงมานำเสนอในรูปแบบที่เป็นตัวของคนเขียนเอง

สมพงษ์ งามแสงรัตน์ เริ่มต้นเรื่องใต้ต้นมะละกาหรือมะขามป้อม (ความรู้ใหม่) แล้วพาเราไหลลื่นไปกับเรื่องเล่าที่กลายเป็นตำนาน ตัดสลับมารายงานสภาพบ้านเรือนจริงๆ ที่ได้พบเห็น ทั้งในรูปแบบของถ้อยคำ ภาพถ่าย แล้วก็ภาพสเก็ตช์ฝีมือสถาปนิก

จากมาเลเซีย เขาพาลัดล่องไปตาม เรื่อยไปตามหมู่เกาะใหญ่น้อยของอินโดนีเซียจนถึงบาหลี เล่าแบบคนมีพื้นความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรม ด้วยข้อมูลที่สะสมตามประสบการณ์ชีวิต (แกอายุราว ๔๗) ด้วยสำบัดสำนวนเหนือชั้นในการถ่ายทอดความคิดความเห็นส่วนตัว รวมทั้งบทวิพากษ์เปรียบเทียบบ้านเขา-บ้านเรา ประสบการณ์มันๆ จากการเดินทางคนเดียว เดินท่อมๆ บ้าง นั่งชิลล์บ้าง ติดดินแบบลูกผู้ชาย แต่ก็ไม่ยอมทนกับความลำบากมากนัก
(จะทนนั่งรถบัสวิ่งด้วยความเร็ว ๒๐ กม./ชม. หยุดขายของกันทุกป้ายไปทำไม ในเมื่อจองตั๋วแอร์เอเชียพันกว่าบาทเอง)

อ่านแล้วรู้สึกสนุก พานให้อยากเปิดเว็บ จองตั๋ว แล้วบินตามรอยเขาไปในทันที

(แทนที่จะดูตารางงานก่อนนะคนเรา)

เปิดหนังสือเหมือนเปิดประตูสู่โลกกว้างจริงๆ




บันทึก:
• อ่านเรื่องนี้แล้วสนุกดี เที่ยวมาเล อินโด แต่ได้เข้าใจไทย จีน สเปน โปรตุเกส และอังกฤษด้วย
• อ่านไปอ่านมาก็ให้รู้สึกสงสารอินโดนีเซียไม่น้อย
• ผลงานก่อนหน้านี้ของสมพงษ์มี จากเชียงรุ้งถึงฮอยอัน, ใต้เสื่อตาตามิ, หนึ่งวงในตงง้วน, หริทวาร ประตูสู่พระเจ้า, ลอยไปในกังตั๋ง
• คิดว่าต้องหา “ใต้เสื่อตาตามิ” มาอ่านเป็นเล่มต่อไป
• ถ้าอยากอ่านบ้าง โปรดรออีกแป๊บนึง ปลายเดือนนี้อมรินทร์จะจัด อมรินทร์บุ๊คแฟร์ ที่ศูนย์ประชุมฯ สิริกิติ์ แม่ทะเลบอกมา
• แต่ถ้าอยากสนับสนุนระบบร้านหนังสือไทย ก็แต่งตัวออกจากบ้านเลย เล่มนี้อิฉันซื้อจากซีเอ็ด



8 ความคิดเห็น:

  1. มี "ใต้เสื่อตาตามิ" อยู่ในครอบครองแล้ว แต่ยังไม่ได้ฤกษ์อ่านสักที
    ส่วนเล่มนี้ ผมเหล่ๆ มาหลายวันแล้ว แต่ยังไม่ซื้อครับ เดือนนี้ใช้เงินเยอะ
    ขอบคุณที่ช่วยยืนยันความน่าสนใจของหนังสือ
    ผมตัดสินใจง่ายขึ้น

    ตอบลบ
  2. งั้นพี่ป๊อกบอกหน่อย ใต้เสื่อตาตามิซื้อมาเพราะไร

    ม้อยว่ามันต้องดีแน่ เพราะพี่คนเขียนแกไปเรียนที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ปี ๒๙-๓๓
    แล้วแกทำงานย้อมคาตาโซเมะได้ด้วยอ่า
    (อ่านจากประวัติย่อท้ายเล่มอะ)

    ตอบลบ
  3. *___* แค่อ่านรีวิวของน้อง ยังเกิดอาการคัน อยากไปเที่ยว บาหลี ซะแล้วค่ะ

    ตอบลบ
  4. อ่านจบแล้ว วางแผนทริปใหม่ยังไง
    ตรงไปบาหลี หรือจะแวะแถวไหนก่อน

    ตอบลบ
  5. มาอ่านของดี

    อ้อ แล้วก็มาทักกลับ แต่ทักหน้าบ้านบ่ได้ ได้แต่ปีนเข้าทางหน้าต่างเช่นนี้

    ตอบลบ
  6. ตอนที่ซื้อนั้น ผมเพิ่งกลับมาจากดูงานที่ญี่ปุ่นได้ไม่นาน
    ก็เลยอยากรู้เรื่องที่ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
    พอดีเห็นหนังสือเล่มนี้ลดราคา 50% เห็นแล้วก็ตาลุกวาว
    และถ้าจำไม่ผิด ผมซื้อมาก็เพราะว่า เขาเขียนเชื่อมโยง เปรียบเทียบระหว่างไทย กับญี่ปุ่นด้วยในบางเรื่อง

    แต่ตอนนี้ หนังสือเล่มนี้ มันอยู่ตรงจุดไหนในห้องแล้วก็ไม่รู้ครับ ตอนนี้ห้องรกมาก หนังสือท่วมห้องเลย

    ตอบลบ
  7. น่าอ่านๆ ปกสวยด้วย

    ตอบลบ