หึหึรัฐ กลัวแต่ไม่มีต่างชาติจะมาลงทุนถ้ามาลงทุนแล้ว ทิ้งซากปรักหักพัง ของสภาพแวดล้อม สารปนเปื้อน ทั้งหลายแหล่ไว้ให้ดูต่างหน้าเวลาหมดสัญญาคนที่รับเคราะห์กรรม ล้วนแล้วแต่เป็น คนพื้นถิ่นที่ไม่มีแรงจะไปสู้รบตบมือกับใคร เพราะแค่เวลาหากินใส่ปากใส่ท้องก็จะไม่มีอยู่แล้ว
มาบตะพุดเอง ตอนนี้ สิ่งแวดล้อมก็คงแย่เกินที่จะเยียวยาแล้ว
คือสงสัยว่าทำไมเราถึงแคร์นักเรื่องเงินลงทุนจากต่างประเทศทำไมไม่คิดกันบ้างว่า ในประเทศจะลงทุนกันเองได้ไหมไอ้ที่ไหลๆ ออกไปลงทุนเมืองนอกน่ะ กลับมาลงทุนในประเทศให้มันยั่งยืนแบบคนบ้านเดียวกันทำเองได้ไหม อะไรเงี้ยเรื่องมาบตาพุดที่เดี๋ยวๆ ก็แก๊สรั่ว เดี๋ยวๆ ก็สารเคมีรั่วไหลเนี่ยมันไม่เป็นไรใช่ไหมถ้าเทียบกับเงินลงทุนที่จะหลั่งไหลเข้ามา
เราถึงแคร์นักเรื่องเงินลงทุนจากต่างประเทศ " เรา " คงหมายถึง นักการเมือง และนักธุรกิจ ใช่มั๊ยคงไม่ใช่ ชาวบ้านตาดำ ๆ หรือคนธรรมดา ที่ได้ค่าแรงขั้นต่ำหรอก ( วันละไม่เกิน สองร้อยบาท เดือนนึง ไม่ถึง หกพัน บาท)
ปัญหาก็คือว่า ในประเทศไทย มันไม่มีตัวแทนชาวบ้านจริงๆ ขึ้นไปเป็นผู้บริหารประเทศมีแต่นักการเมืองที่อิงอยู่กับผลประโยชน์จากนักธุรกิจนักธุรกิจก็คิดถึงกำไรสูงสุดอยู่แล้วพวกนี้ก็พยายามลดต้นทุน ส่วนที่ลดได้ก็คือ เรื่องของการบำบัดของเสียพอเป็นอย่างนี้แล้ว ชาวบ้านก็เดือดร้อนแต่พอเดือดร้อนแล้ว นักการเมืองก็ไม่ได้สนใจแล้วการที่เอาคุณอานันท์ มาเป็นประธานเนี่ย..ต้องไม่ลืมด้วยว่า คุณอานันท์เขาก็เป็นนักธุรกิจ ในสายโรงงานอุตสาหกรรมผมอยากเสนอมากเลยว่า.. อยากให้ย้ายโรงงานอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบร้ายแรงเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯมาสร้างตามพื้นที่ชานเมืองที่นักธุรกิจ นักการเมืองไปกว้านซื้อที่ดินเอาไว้ ที่ดินพวกนี้มีเยอะมากๆเราต้องออกกฎหมายไปเวนคืนที่ดินพวกนี้คืนมาถูกๆ เวลาเดือดร้อนอะไรขึ้นมา คนกรุงเทพฯ ก็จะโวยเสียงดังสื่อก็จะเล่นข่าวผมอยากหมายความรวมถึง "โรงไฟฟ้านิวเคลียร์" ด้วยนะเห็นเขาไปสำรวจพื้นที่ตามต่างจังหวัด โยนภาระให้คนต่างจังหวัดจริงๆ แล้วกรุงเทพฯ ใช้ไฟฟ้ากันเยอะมาก แค่ห้างเซ็นทรัลเวิร์ล กับสยามพาราก้อน ก็ใช้ไฟกันมหาศาลแล้วคนกรุงเทพฯ ซึ่งรวมถึงผมด้วย ก็ควรรับผิดชอบส่วนกากกัมมันตภาพรังสี ก็เอาไปเก็บไว้ที่รัฐสภา..รับรองได้ว่า งานนี้ปลอดภัย ไม่มีการรั่วไหลแน่ๆ
คนไทยที่คิดเป็นกับคิดไม่เป็นมาอยู่รวมกัน ...ที่คิดไม่เป็นเป็นนายกที่คิดเป็นเป็นนายก ที่คิดเป็นเป็นชาวบ้าน ที่คิดไม่เป็นเป็นชาวบ้าน
..แล้วไงต่อ?
พี่ไทยบอกว่า มาสิ มาสิ มาลงทุนสร้างงาน ได้เงินก็พอแล้วเทคโนโลยีไม่ต้องเอาหรอก กลัวฉลาด ไม่อยากได้
ปลูกจิตสำนึก รักโลก รักสัตว์ รักสิ่งแวดล้อม และ ให้หนีไปอยู่บ้านเพื่อน (ถ้าทำความผิด )ปัจฉิมลิขิต : นางงามมาเอง
อันนี้ทำให้นึกถึงภาพเวลาบริษัทไทยไปลงทุนในลาว เขมร
ใช่ๆๆ ไทยลงทุน ไทยทำลาย
ก็ไม่คิดขนาดคำว่า "ทำลาย" หรอกแค่คิดว่าการที่ประเทศหนึ่งไปลงทุนในอีกประเทศหนึ่งน่ะ ไม่ใช่เพราะว่าอยากทำการกุศล อยากสร้างงาน อยากส่งต่อเทคโนโลยีอะไรหรอก มีการลงทุนก็ต้องหวังกำไร เค้ามาลงทุนบ้านเราก็เพราะว่าทรัพยากรบ้านเรามันถูก แรงงานถูก ภาษีถูก แค่นี้แหละถ้าวันนึงทรัพยากรไม่เหลือ แรงงานแพงขึ้น แล้วเค้าจะยังมาลงทุนอยู่หรอในทางกลับกัน ถ้าเราลงทุนของเราเอง เราจะบริหารทรัพยากรอย่างรู้ค่ากว่านี้ไหมเรื่องแรงงาน ถ้าคนจ้างงานกับคนทำงานเป็นคนชาติเดียวกัน อย่างน้อยก็น่าจะเห็นใจกันมากกว่าหรือเปล่าชักเบื่อจะบ่น
ไม่รู้ถ้าตัวเองเป็นชาวบ้านมาบตาพุดจะคิดยังไงบางทีอาจจะคิดเหมือนพี่ป๊อกก็ได้ ม้อยแค่สงสัยว่า ถ้าเราออกกฎหมายให้กลายเป็นกติกาที่เข้มข้นแล้วรักษากติกานี้ให้เข้มข้นดีกว่าไหม ให้กฎหมายเป็นภาษาเดียวที่ใช้พูดกันไม่ว่ารัฐบาลพูดกับนักลงทุน ประชาชนพูดกับรัฐบาล หรือโรงงานอุตสาหกรรมพูดกับประชาชน ดีกว่าจะพูดกันคนละภาษาจน lost in translation กันอย่างนี้
ม้อย จ๋ารัฐบาล กับ รัฐบาล ยังพูดกันเองมิรู้เรื่องเลย รัฐบาล กับ นักลุงทุน น่าจะเป็นคน ๆ เดียวกันด้วยนะ เท่าที่ดู
ที่จริงเราก็ยังเป็นเบบี๋ทางความคิดอยู่นั่นเอง
มองต่างมุมน่ะตอนนี้ รัฐ ข้าราชการ หมกเรื่องแย่ ๆ ไว้เยอะเลยล่ะเหมืองทอง เหมืองแร่ ดิน ทราย หิน เวลานั่งรถ เดินทางไปไหนมาไหน สังเกตุสิ ข้างทาง ภูเขาจะค่อย ๆ หายไป
แล้วอีกอย่าง สังเกตุว่า โรงงานในไทย ที่เจ้าของกิจการเป็นคนไทย จะทยอยปิดตัวลง อ้างว่าเพราะพิษเศรษฐกิจแต่จริงแล้ว ไปเปิดโรงงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน มันคงมีหลายปัจจัยนะค่าจ้างแรงงาน สวัสดิการ ที่ นายจ้างต้องจ่าย แค่เบี้ยประกันสังคม ที่เจ้าของโรงงานต้องออกอีกครึ่งนึง สมทบไปที่รัฐ ก็ไม่มีใครอยากจะจ่ายแล้ว วันนี้ บ่นกันยาวเลยเริ่มเหนื่อยแล้ว ดูเหมือนว่า รอยหยักในสมองได้ทำงานยังไงมิรู้ 555
เรื่องมาบตาุพุด หลังจากอ่านบทสัมภาษณ์ของ อ.วรเจตน์ คิดว่าศาลตัดสินแรงไป ส่วนที่ว่า ถ้าเขาไม่มาลงทุนจะตายไปเลยไหม .. ไม่ตายหรอก แต่แย่แน่ แค่ปีสองปีที่ผ่านมาก็เห็นอยู่ว่าเวลาโลกป่วยมันลามถึงเรายังไง แล้วจะอยู่กันเองได้ไหม...ตอนนี้ก็คงไม่ได้ และรัฐก็ไม่เห็นจะมีทีท่าว่าจะทำให้เราอยู่กันเองกินกันเอง ตามข่าว เขาต้องการ "อยากให้กระบวนการทางกฎหมายเป็นรูปธรรมและรวดเร็ว" จริงๆ นอกจากเป็นธรรม+เร็ว คงต้องการให้ต้นทุนต่ำด้วย ถึงเป็นธรรมและเร็วถ้าแพงไปเขาก็คงไม่อยู่
ประเทศที่อยากเป็น นิคส์ ก็ เงี้ย
...ช่างขุดศัพท์มาใช้
เล่นสั่งเบรคกระทันหัน อย่างนี้รถก็ชนท้ายติดกันเป็นขบวนน่ะสิ
หึหึ
ตอบลบรัฐ กลัวแต่ไม่มีต่างชาติจะมาลงทุน
ถ้ามาลงทุนแล้ว ทิ้งซากปรักหักพัง ของสภาพแวดล้อม สารปนเปื้อน ทั้งหลายแหล่ไว้ให้ดูต่างหน้าเวลาหมดสัญญา
คนที่รับเคราะห์กรรม ล้วนแล้วแต่เป็น คนพื้นถิ่นที่ไม่มีแรงจะไปสู้รบตบมือกับใคร เพราะแค่เวลาหากินใส่ปากใส่ท้องก็จะไม่มีอยู่แล้ว
มาบตะพุดเอง ตอนนี้ สิ่งแวดล้อมก็คงแย่เกินที่จะเยียวยาแล้ว
ตอบลบคือสงสัยว่าทำไมเราถึงแคร์นักเรื่องเงินลงทุนจากต่างประเทศ
ตอบลบทำไมไม่คิดกันบ้างว่า ในประเทศจะลงทุนกันเองได้ไหม
ไอ้ที่ไหลๆ ออกไปลงทุนเมืองนอกน่ะ กลับมาลงทุนในประเทศ
ให้มันยั่งยืนแบบคนบ้านเดียวกันทำเองได้ไหม อะไรเงี้ย
เรื่องมาบตาพุดที่เดี๋ยวๆ ก็แก๊สรั่ว เดี๋ยวๆ ก็สารเคมีรั่วไหลเนี่ย
มันไม่เป็นไรใช่ไหมถ้าเทียบกับเงินลงทุนที่จะหลั่งไหลเข้ามา
เราถึงแคร์นักเรื่องเงินลงทุนจากต่างประเทศ " เรา " คงหมายถึง นักการเมือง และนักธุรกิจ ใช่มั๊ย
ตอบลบคงไม่ใช่ ชาวบ้านตาดำ ๆ หรือคนธรรมดา ที่ได้ค่าแรงขั้นต่ำหรอก ( วันละไม่เกิน สองร้อยบาท เดือนนึง ไม่ถึง หกพัน บาท)
ปัญหาก็คือว่า ในประเทศไทย มันไม่มีตัวแทนชาวบ้านจริงๆ ขึ้นไปเป็นผู้บริหารประเทศ
ตอบลบมีแต่นักการเมืองที่อิงอยู่กับผลประโยชน์จากนักธุรกิจ
นักธุรกิจก็คิดถึงกำไรสูงสุดอยู่แล้ว
พวกนี้ก็พยายามลดต้นทุน ส่วนที่ลดได้ก็คือ เรื่องของการบำบัดของเสีย
พอเป็นอย่างนี้แล้ว ชาวบ้านก็เดือดร้อน
แต่พอเดือดร้อนแล้ว นักการเมืองก็ไม่ได้สนใจ
แล้วการที่เอาคุณอานันท์ มาเป็นประธานเนี่ย..
ต้องไม่ลืมด้วยว่า คุณอานันท์เขาก็เป็นนักธุรกิจ ในสายโรงงานอุตสาหกรรม
ผมอยากเสนอมากเลยว่า..
อยากให้ย้ายโรงงานอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบร้ายแรงเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ
มาสร้างตามพื้นที่ชานเมืองที่นักธุรกิจ นักการเมืองไปกว้านซื้อที่ดินเอาไว้ ที่ดินพวกนี้มีเยอะมากๆ
เราต้องออกกฎหมายไปเวนคืนที่ดินพวกนี้คืนมาถูกๆ
เวลาเดือดร้อนอะไรขึ้นมา คนกรุงเทพฯ ก็จะโวยเสียงดัง
สื่อก็จะเล่นข่าว
ผมอยากหมายความรวมถึง "โรงไฟฟ้านิวเคลียร์" ด้วยนะ
เห็นเขาไปสำรวจพื้นที่ตามต่างจังหวัด โยนภาระให้คนต่างจังหวัด
จริงๆ แล้วกรุงเทพฯ ใช้ไฟฟ้ากันเยอะมาก แค่ห้างเซ็นทรัลเวิร์ล กับสยามพาราก้อน ก็ใช้ไฟกันมหาศาลแล้ว
คนกรุงเทพฯ ซึ่งรวมถึงผมด้วย ก็ควรรับผิดชอบ
ส่วนกากกัมมันตภาพรังสี ก็เอาไปเก็บไว้ที่รัฐสภา..
รับรองได้ว่า งานนี้ปลอดภัย ไม่มีการรั่วไหลแน่ๆ
คนไทยที่คิดเป็นกับคิดไม่เป็นมาอยู่รวมกัน ...ที่คิดไม่เป็นเป็นนายก
ตอบลบที่คิดเป็นเป็นนายก ที่คิดเป็นเป็นชาวบ้าน ที่คิดไม่เป็นเป็นชาวบ้าน
..แล้วไงต่อ?
ตอบลบพี่ไทยบอกว่า มาสิ มาสิ มาลงทุนสร้างงาน ได้เงินก็พอแล้ว
ตอบลบเทคโนโลยีไม่ต้องเอาหรอก กลัวฉลาด ไม่อยากได้
ปลูกจิตสำนึก รักโลก รักสัตว์ รักสิ่งแวดล้อม และ ให้หนีไปอยู่บ้านเพื่อน (ถ้าทำความผิด )
ตอบลบปัจฉิมลิขิต : นางงามมาเอง
อันนี้ทำให้นึกถึงภาพเวลาบริษัทไทยไปลงทุนในลาว เขมร
ตอบลบใช่ๆๆ ไทยลงทุน ไทยทำลาย
ตอบลบก็ไม่คิดขนาดคำว่า "ทำลาย" หรอก
ตอบลบแค่คิดว่าการที่ประเทศหนึ่งไปลงทุนในอีกประเทศหนึ่งน่ะ ไม่ใช่เพราะว่าอยากทำการกุศล อยากสร้างงาน อยากส่งต่อเทคโนโลยีอะไรหรอก มีการลงทุนก็ต้องหวังกำไร เค้ามาลงทุนบ้านเราก็เพราะว่าทรัพยากรบ้านเรามันถูก แรงงานถูก ภาษีถูก
แค่นี้แหละ
ถ้าวันนึงทรัพยากรไม่เหลือ แรงงานแพงขึ้น แล้วเค้าจะยังมาลงทุนอยู่หรอ
ในทางกลับกัน ถ้าเราลงทุนของเราเอง เราจะบริหารทรัพยากรอย่างรู้ค่ากว่านี้ไหม
เรื่องแรงงาน ถ้าคนจ้างงานกับคนทำงานเป็นคนชาติเดียวกัน อย่างน้อยก็น่าจะเห็นใจกันมากกว่าหรือเปล่า
ชักเบื่อจะบ่น
ไม่รู้ถ้าตัวเองเป็นชาวบ้านมาบตาพุดจะคิดยังไง
ตอบลบบางทีอาจจะคิดเหมือนพี่ป๊อกก็ได้
ม้อยแค่สงสัยว่า ถ้าเราออกกฎหมายให้กลายเป็นกติกาที่เข้มข้น
แล้วรักษากติกานี้ให้เข้มข้นดีกว่าไหม
ให้กฎหมายเป็นภาษาเดียวที่ใช้พูดกัน
ไม่ว่ารัฐบาลพูดกับนักลงทุน ประชาชนพูดกับรัฐบาล
หรือโรงงานอุตสาหกรรมพูดกับประชาชน
ดีกว่าจะพูดกันคนละภาษาจน lost in translation กันอย่างนี้
ม้อย จ๋า
ตอบลบรัฐบาล กับ รัฐบาล ยังพูดกันเองมิรู้เรื่องเลย
รัฐบาล กับ นักลุงทุน น่าจะเป็นคน ๆ เดียวกันด้วยนะ เท่าที่ดู
ที่จริงเราก็ยังเป็นเบบี๋ทางความคิดอยู่นั่นเอง
ตอบลบมองต่างมุมน่ะ
ตอบลบตอนนี้ รัฐ ข้าราชการ หมกเรื่องแย่ ๆ ไว้เยอะเลยล่ะ
เหมืองทอง เหมืองแร่ ดิน ทราย หิน เวลานั่งรถ เดินทางไปไหนมาไหน สังเกตุสิ ข้างทาง ภูเขาจะค่อย ๆ หายไป
แล้วอีกอย่าง สังเกตุว่า โรงงานในไทย ที่เจ้าของกิจการเป็นคนไทย จะทยอยปิดตัวลง อ้างว่าเพราะพิษเศรษฐกิจ
ตอบลบแต่จริงแล้ว ไปเปิดโรงงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน มันคงมีหลายปัจจัยนะ
ค่าจ้างแรงงาน สวัสดิการ ที่ นายจ้างต้องจ่าย แค่เบี้ยประกันสังคม ที่เจ้าของโรงงานต้องออกอีกครึ่งนึง สมทบไปที่รัฐ ก็ไม่มีใครอยากจะจ่ายแล้ว
วันนี้ บ่นกันยาวเลยเริ่มเหนื่อยแล้ว
ดูเหมือนว่า รอยหยักในสมองได้ทำงานยังไงมิรู้ 555
เรื่องมาบตาุพุด หลังจากอ่านบทสัมภาษณ์ของ อ.วรเจตน์ คิดว่าศาลตัดสินแรงไป
ตอบลบส่วนที่ว่า ถ้าเขาไม่มาลงทุนจะตายไปเลยไหม .. ไม่ตายหรอก แต่แย่แน่ แค่ปีสองปีที่ผ่านมาก็เห็นอยู่ว่าเวลาโลกป่วยมันลามถึงเรายังไง
แล้วจะอยู่กันเองได้ไหม...ตอนนี้ก็คงไม่ได้ และรัฐก็ไม่เห็นจะมีทีท่าว่าจะทำให้เราอยู่กันเองกินกันเอง
ตามข่าว เขาต้องการ "อยากให้กระบวนการทางกฎหมายเป็นรูปธรรมและรวดเร็ว" จริงๆ นอกจากเป็นธรรม+เร็ว คงต้องการให้ต้นทุนต่ำด้วย ถึงเป็นธรรมและเร็วถ้าแพงไปเขาก็คงไม่อยู่
ประเทศที่อยากเป็น นิคส์ ก็ เงี้ย
ตอบลบ...ช่างขุดศัพท์มาใช้
ตอบลบเล่นสั่งเบรคกระทันหัน อย่างนี้รถก็ชนท้ายติดกันเป็นขบวนน่ะสิ
ตอบลบ