วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ปริศนา




คนทุกคนมีแรงพลุ่งไปใน ความเกิด ด้วยฤทธิ์ของตัณหาและอุปาทาน. โดยเหตุที่ไม่ทราบว่า ที่แท้อารมณ์ทั้งปวงนั้นก่อตัวพลุ่งขึ้นก็เพียงเพื่อมุ่งกลับสู่สภาพเดิม คือ ความดับ.

เหมือนไม้ไผ่ตัดจากกอไผ่ไปทำขลุ่ยเป่าเสียงดังไพเราะ ก็เพียงเพื่อ ความดับ แห่งเสียงนั้นลงสู่สภาพไม้ไผ่จากกอเดิม; หรือเหมือนไอน้ำจากทะเลพลุ่งขึ้นเป็นเมฆและตกเป็นฝนลงสู่ทะเลตามเดิม.

ความวุ่นที่พลุ่งขึ้น ก็ย่อมดับมอดลงสู่ ความว่าง อันเป็นธรรมชาติเดิมแท้ เพราะฉะนี้แล ความไม่ดิ้นรนทะยานไปในอารมณ์ทั้งปวง ด้วยตัณหาอุปาทาน จึงเป็นความดับสนิทไปแต่ต้นมือแล้ว.



เสียงขลุ่ยหวนกลับมาหากอไผ่
ว่าไผ่ลำตัดไปจากไผ่กอ
เสียงก็หวนกลับมาหากอไผ่
เหมือนไอน้ำจากทะเลเป็นเมฆา

เหมือนตัณหาพาคนด้นพิภพ
วิ่งมาสู่แดนวิสุทธิ์หยุดเกเร
อันความวุ่นวิ่งมาหาความว่าง
ในที่สุดก็ต้องหยุดเหมือนอย่างเคย

จงคิดให้เห็นความตามนี้หนอ
ทำขลุ่ยพอเป่าเป็นเสียงมา
เป่าเท่าไรกลับกันเท่านั้นหนา
กลายเป็นฝนกลับมาสู่ทะเลฯ

พอสิ้นฤทธิ์ก็ตระหลบหนทางเห
ไม่เถลไถลไปที่ไหนเลย;
ไม่มีทางไปไหนสหายเอ๋ย
ความหยุดเฉยเป็นเนื้อแท้แก่ธรรมเอยฯ

4 ความคิดเห็น:

  1. ...Sound of the rain
    Turn to lamentation
    Of the bamboo flute.....

    ...เสียงฝน
    เเปรเปลี่ยนเป็นท่วงทำนองรันทด
    ของขลุ่ยไม้ไผ่.........

    -ขลุ่ยไม้ไผ่ พจนา จัทรสันติ-

    ตอบลบ