Rating: | ★★★★ |
Category: | Books |
Genre: | Literature & Fiction |
Author: | โยชิโมโต บานานา แปลโดย นภสิริ เวชศาสตร์ |
...พ่อกับแม่รักกันมาโดยตลอด อาจเป็นเพราะทั้งคู่เรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แถมยังตั้งอกตั้งใจจะเป็นนักจิตวิทยาเหมือนกัน จึงทำให้ความรู้สึกยังเหมือนเมื่อสมัยยังเป็นนักศึกษา แต่หลังจากนั้นฉันกลับคิดว่า ความสัมพันธ์อันดีของพ่อกับแม่มีพื้นฐานจากนิสัยที่คล้ายกันมากกว่า ทั้งสองต่างคิดถึงความสุขของตัวเองเป็นหลัก จึงมักไม่คิดหยุมหยิมมากมาย เวลาออกไปไหนต่อไหนก็ดูมีความสุขตลอดเวลา
แต่ชีวิตของฉันกลับตรงกันข้าม ฉันใช้ช่วงชีวิตวัยรุ่นซึ่งร้อนแรงเรื่องความรักที่สุดหมดไปกับการคบคนมีภรรยาแล้ว จึงตกอยู่ในสภาพต้องเป็นฝ่ายรอคอยเขาอยู่ตลอด จนชีวิตมีเวลาว่างเกินไป เอาแต่คิดฟุ้งซ่านจนกลายเป็นคนขี้ระแวง...
...ผู้ชายคนนั้นเป็นช่างภาพมีชื่อเสียงพอประมาณ เขาซื้อคอนโดไว้เพียงเพื่อใช้พบปะกับฉัน โดยทำทีว่าเป็นที่ทำงาน ฉันชีวิตอยู่ที่นั่นมาตลอด มันกลายเป็นกรรมสิทธิ์ของฉันหลังจากที่เราเลิกกัน ดูเหมือนว่าเขาตัดสินใจยกห้องให้ฉันหลังจากที่ได้ปรึกษากับภรรยาแล้ว สำหรับฉัน มันไม่ใช่เรื่องตลกเลย เพราะทำให้เกิดความรู้สึกไม่น่าพิสมัยติดค้างในใจว่า ตัวเองได้รับความกรุณาเหลือล้นจากพวกผู้ใหญ่ซึ่งคิดไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบแล้ว
เขาบอกเลิกฉันทางโทรศัพท์ ด้วยเหตุผลว่าภรรยาผู้อ่อนแอคิดมากจนแทบเป็นโรคประสาท หลังจากรู้ว่าถูกนอกใจมานาน ซ้ำร้ายยังส่งผลให้หล่อนเป็นโรคหัวใจอีกด้วย...
“...ผมทิ้งครอบครัวไปไม่ได้หรอก ผมทำให้เธอทุกข์มามากพอแล้ว เลยตัดสินใจว่าจะหยุดเสียที เรามีลูกด้วยกัน ไหนจะพ่อแม่ปู่ย่าตายายของพวกเราอีก ทุกคนมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน นานมากแล้วตั้งแต่ตอนเริ่มรู้จักกัน ผมตัดสินใจแน่วแน่ว่าเมื่อได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่แบบนั้น ผมจะรักษาความสัมพันธ์อันดีให้ยืนยาวชั่วชีวิต คงไม่ยุติธรรมแน่ถ้ายังคบกับคุณต่อไปโดยเอาความรู้สึกของตัวเองเป็นใหญ่ ผมตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกภรรยา อย่าให้ผมพูดมากไปกว่านี้เลย”
“หมายความว่าที่ผ่านมา คุณก็แค่เล่นๆ กับฉันสินะ”
“ถ้าพูดกว้างๆ ก็ใช่…”
…………………..
คุณที่รัก
บางส่วนที่ตัดช่วงมาจาก “ปีกนางฟ้า” คงทำให้คุณพอมองพอเข้าใจ ว่านี่คือเรื่องเล่าของผู้หญิงหัวใจสลายคนหนึ่ง ที่ถูกตัดความสัมพันธ์นาน ๘ ปีฉันชู้รักโดยชายชู้ผู้สูงวัยกว่า และมีภรรยาแล้ว
ก่อนความเศร้าจะกร่อนกินใจจนตายซาก หญิงสาวเลือกกลับไปพักอยู่กับย่าที่บ้านเกิด เมืองริมแม่น้ำ เธอปล่อยให้แม่น้ำ ธรรมชาติ และบรรยากาศอวลความอบอุ่นจากคืนวันในอดีตค่อยๆ เยียวยารักษาความรู้สึก
ระหว่างนั้นก็ได้เจอกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอกันมาก่อน
สิ่งที่ทำให้ดิฉันประทับใจเกี่ยวกับหนังสือเล่มเล็กเล่มนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องที่เกิดขึ้นกับโฮตารุ ซึ่งทำให้นึกถึงความทรงจำเสี้ยวใหญ่ของตัวเอง แต่ยังเป็นความประทับใจต่อชะตาชีวิตที่ผูกพันกันตั้งแต่ต้นของคนสองคน ชะตาที่ร้อยเรียงคนทั้งคู่ไว้ ไม่ให้พลัดหายไปจากกันด้วย
ขอบคุณที่อ่าน
บันทึก:
-ได้หนังสือเล่มนี้มาอ่านด้วยความอนุเคราะห์ของเพื่อนรัก ผู้ซึ่งเมื่อทราบว่าดิฉันเครซี่โยชิโมโต บานานา หลังจากอ่าน “หญิงสาวผู้หวาดกลัวความสุข” ก็จัดการฝากหนังสือเล่มนี้มากับเพื่อนรักอีกคนทันที
-อ่านได้ไม่กี่หน้า ดิฉันก็ฝากเพื่อนคนที่ถือหนังสือมาให้ไปถามคนฝากมาให้ว่า “ที่เลือกเล่มนี้ให้ เพราะว่าเรื่องของนางเอกคล้ายเรื่องของเรางั้นหรอ?”
-อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณทั้งคนฝากมาให้ และคนถือมาให้อ่านนะจ๊ะ
-โยชิโมโต บานานา เขียนเล่าความรู้สึกที่ซับซ้อนของอารมณ์ได้เก่งจริงๆ
-นภสิริ เวชศาสตร์ (เอกญี่ปุ่น ศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์) แปลได้ดีจัง
-…ฉันมีความสุขกับชีวิตที่ได้แต่เฝ้ารอคนรัก เหมือนกับมีความสุขเวลารู้สึกอุ่นตรงปลายจมูกยามลมโชยมาพร้อมกับกลิ่นหอมหวานแห่งฤดูใบไม้ผลิ หรือเวลารู้สึกร้อนตรงหัวเข่าเวลานั่งอยู่หน้าเครื่องทำความร้อนในฤดูหนาว ฉันแช่ตัวเองลงในความรักอันยิ่งใหญ่เหมือนกับแช่ลงในน้ำอุ่น ความรักที่จดจ่ออยู่กับเวลาชั่วขณะโปรยปรายลงมาทับถมกันเบาๆ ไม่มีวันพรุ่งนี้ ไม่มีความเป็นจริงอันหนักอึ้ง ฉันเอาตัวเองไปผูกไว้กับชีวิตแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ…(หน้า ๑๗) คือย่อหน้าที่อ่านแล้วน้ำตาซึม เมื่อคิดถึงตัวเองในวันก่อน
-ดิฉันพบว่ายังรัก คิดถึง และห่วงใย ผู้ชายคนที่ดิฉันใช้เวลาช่วงหนึ่งในชีวิตเพื่อรอคอยจะได้พบกับเขาอยู่เสมอ
-ดิฉันปล่อยกาลเวลาให้ผ่านไปเพื่อแสดงความเคารพต่อการตัดสินใจของเขา แต่กาลเวลาที่ผ่านไปนี้ก็ได้ทำให้ดิฉันเห็นเช่นกัน ว่าความรักที่ได้เกิดขึ้น ยังคงมีชีวิตอยู่ ...แม้มันจะเปลี่ยนสภาพไปบ้างก็ตาม
เป็นกำลังใจให้จ้าสาวน้อย เวลาเท่านั้นคะที่จะรักษาได้ทุกอย่าง เทคแคร์น่ะคะ
ตอบลบมีหลายคนบอกเศร้ามากเลยไม่ยอมอ่านอ่ะม้อย..........อ่านตรงนี้ยังเศร้าเลย...เฮ้อ
ตอบลบจิ๊ดเดียวค่ะพี่
ตอบลบจากนั้นก็จะรู้สึกค่อยๆ ได้รับการเยียวยาไปพร้อมตัวละครนะ
เดี่ญวจะลองหามาอ่านจ๊ะ....ขอบคุณคร๊าบบบบบบบบบบ แต่ม้อยเขียนหนังสือบรรยายความรู้สึกลึก ๆ ได้เก่งมาก
ตอบลบเบื่อการเมืองต้องหันหน้าเข้าหาเรื่องประโลมโลกย์ค่ะพี่!
ตอบลบยังงี้พี่เป็นทุกวันเลย.....555
ตอบลบประทับใจบันทึกของพี่ม้อย
ตอบลบประทับใจหน้า ๑๗ ในหนังสือ ที่พี่ม้อยยกมาให้อ่าน
และที่สุดแล้ว ประทับใจบรรทัดสุดท้ายของพี่ม้อย .. "ดิฉันปล่อยกาลเวลาให้ผ่านไปเพื่อแสดงความเคารพต่อการตัดสินใจของเขา แต่กาลเวลาที่ผ่านไปนี้ก็ได้ทำให้ดิฉันเห็นเช่นกัน ว่าความรักที่ได้เกิดขึ้น ยังคงมีชีวิตอยู่ ...แม้มันจะเปลี่ยนสภาพไปบ้างก็ตาม"
มันโดนใจจังๆ
อยากอ่านเพราะพี่ม้อยเลย ต้องไปตามล่าซะแล้วค่ะ
อีกนิดค่ะ พี่ม้อยชอบตัวหนังสือของ 'ปราย พันแสง หรือไม่ ...
ตอบลบมีบางอย่างที่ฟ้านึกถึงพี่ม้อย เมื่อเวลาอ่านงานของ 'ปราย พันแสง ..
ถ้าเค้ารักเราจริง
ตอบลบย่อมทิ้งทุกสิ่งเพื่อเราได้
รอแบบในเรื่องที่กล่าวไว้นี่ ทรมาณจังค่ะ
ตอบลบเพราะไม่ใช่การรอในสิ่งที่จับต้องได้..
**ผู้หญิงที่หวาดกลัวความสุข..** i do understand..
เห็นด้วยค่ะ
ตอบลบน้องฟ้ารู้ป่าว
ตอบลบน้องฟ้าเป็นคนที่สองที่บอกอย่างนี้
(อีกคนเค้าบอกว่าพี่ปากจัดอะค่ะ)
พี่แทบไม่เคยอ่านงานของเธอคนนั้นเลยมั๊ง
แต่แย่จัง ถ้ามันไปเหมือนกันเข้าละก้อ
...ว๊า
ตอบลบคนเราต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง
ตอบลบอันนี้พี่แอนก็รู้
อย่า expect เพราะความรู้สึกของพี่นะคะน้องฟ้า
ตอบลบลองสัมผัสมันด้วยความรู้สึกของน้องฟ้าเองเนอะ
คือว่า
พี่กลัวรีวิวนี้จะทำงานเขียนเขาเสียของน่ะ
เป็นหนังสือที่เกือบซื้อหลายครั้งแล้ว
ตอบลบเพราะชอบ "หญิงสาวที่หวาดกลัวความสุข" เหมือนกัน
คงได้ฤกษ์จ่ายตังค์ซะที คราวนี้
ยุ้ยอ่าน Kitchen ยังอ่ะ?
ตอบลบเราอ่าน kitchen แล้ว แต่ดันชอบเอาเรื่องไปปะปน กับ เป็นประกาย เพราะอ่านในเวลาไล่เลี่ยกัน
ตอบลบแล้วก็จำเรื่องไม่ค่อยจะได้แล้ว
เราเคยติด ปราย พันแสง อยู่พัก ใหญ่ แต่เราว่าม้อยไม่ใช่หรอก เขาไม่แรงเท่า
เราว่า ม้อย เหมือน คำ ผกา มากกว่า แต่ที่สุดแล้ว ม้อยก็ไม่เหมือนใครหรอก ม้อยเป็นม้อย
อาอิว่าเหมือนเพื่อนรักเรา
ตอบลบเราชอบเป็น คำ ผกา มากกว่า
รักเธอที่สุด
ตอบลบอ่านแล้วววว :)
ตอบลบเฮ้ย เร็วจังยุ้ย
ตอบลบจำได้ว่าช่วงที่พี่ยังรอเค้าคนนั้นอยู่อ่ะนะ
ตอบลบการรอคอยมันเป็นความทรมานก็จริง แต่เหมือนว่าเรารู้ว่ารอจนหิวพอแล้วจะได้กินพิซซ่า 3 cheez ร้อนๆ กับเบียร์เย็นๆ
แล้วตบด้วยไอศกรีมเชอร์เบต
อะไรประมาณนั้นอะค่ะ
เวลาผ่านมานาน เดี๋ยวนี้ทนกับการรอคอยไม่ได้แล้ว
แค่ ๕ นาทีพี่ก็อยากกรี๊ดแล้วสิ
"...ดิฉันปล่อยกาลเวลาให้ผ่านไปเพื่อแสดงความเคารพต่อการตัดสินใจของเขา แต่กาลเวลาที่ผ่านไปนี้ก็ได้ทำให้ดิฉันเห็นเช่นกัน ว่าความรักที่ได้เกิดขึ้น ยังคงมีชีวิตอยู่ ...แม้มันจะเปลี่ยนสภาพไปบ้างก็ตาม"
ตอบลบประโยคนี้อ่านแล้วแอบเจ็บ สะอึกไปมิใช่น้อย
หนทาง..พิสูจน์ม้า
ตอบลบกาลเวลา..พิสูจน์รัก
...ออกจะเฉิ่มมิใช่น้อย
ตอบลบอืม... มาเปลี่ยนใหม่ค่ะ
ตอบลบคุณก็เป็นคุณที่ไม่เหมือนใคร
ไม่ว่าจะเป็นคำ ผกา หรือพี่ปราย ค่ะ
โอ๋ๆๆๆ นะคะ
:-P
ตอบลบการรอเป็นความรู้สึกที่เงียบอย่างทรมานเนอะ
ตอบลบประมาณว่าโทรเข้ามือถือแล้วเจอประโยค
"ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก"
แต่สิ่งเหล่านั้นมันก็เปลียนไปแล้ว
ไม่มีอะไรจีรัง แม้แต่ความรู้สึกของเราเอง
^_^
ใช่เลยน้องโน
ตอบลบตอนนี้พี่ยังลืมไปแล้ว ว่าตอนอ่านหนังสือเล่มนี้รู้สึกยังไง
ดอกไม้บานนานกว่าความรู้สึก
หุหุ
ชอบเรื่องนี้เหมือนกันคะ .....
ตอบลบ