วันอาทิตย์ที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๒
กลับไปธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตเป็นครั้งแรกใน..*@x~..ปี (ฮา)
เพื่อไปสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น
สอบนี่เขาจัดพร้อมกันทั่วโลก เพื่อวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นซึ่งได้จัดเป็น ๔ ระดับ จากต่ำไปสูง คือ ๔-๓-๒-๑
หลายคนมาสอบเพื่อจะไปเรียนต่อ หลายคนมาสอบเพื่อความก้าวหน้าทางอาชีพการงาน
ฉันเองไม่แน่ใจว่าตัวเองมาสอบกะเขาทำไม (เหอ เหอ)
เขาจัดสอบ ๒ รอบ รอบเช้าเป็นการสอบระดับ ๒ กับ ๓ เพราะงั้น คนคงไม่เยอะเท่ารอบบ่าย ซึ่งเป็นการจัดสอบระดับ ๑ (คงมีคนสอบไม่เท่าไหร่) กับ ๔ (ระดับนี้สอบกันบานเลย เพราะเป็นระดับเตี้ยสุด คนเริ่มเรียนไม่นานมักจะสอบระดับนี้กัน)
แน่นอนว่าฉันไปสอบรอบบ่าย ไม่ใช่ระดับ ๑ แต่เป็น ๔ และแม้ว่าจะเสียประสาทกับเสียงเซ็งแซ่ของบรรดาเด็กมัธยมปลายหญิง (ทั้งที่แท้และไม่แท้) นับเป็นพันๆ ที่มาสอบระดับเดียวกัน (คงไม่ใช่ระดับ ๑ แน่ๆ) มึนกับข้อสอบ แต่ฉันก็ตื่นเต้นไม่น้อยที่ภายในเวลาไม่กี่ทศวรรษ ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตในความทรงจำก็เปลี่ยนไปมากอย่างนี้
ถ่ายรูปมาเล็กน้อย เท่าที่เรี่ยวแรงหลังการสอบยังพออำนวย
(รีบกลับด้วยแหละ)
คิดถึงชีวิตเด็กบ้านนอกเมื่อวันวานจังเนอะ
ตอบลบที่มช ก็มีแหละม้อย ชื่อ อ่างแก้ว หรือไงเนี่ย เห็นตอนไปสอบสัมภาษณ์ (เมื่อปี 50)
ตอบลบมอชอ เป็น สีม่วง ขาว
ตอบลบอันนี้ ไป สอบหรอเนี่ย โว้วววววววววววววววว
ตอบลบน่ารักทุกคนเลย ยิ้มแบบนี้ ทำข้อสอบฉลุย
ตอบลบเป็นมหาวิทยาลัย ในฝันที่อยากเรียน และ ยังอยู่ในฝัน ต่อไป
เพราะ ได้เรียน มช แทน
ตอบลบม้อยกลับรถไร
ตอบลบก๊ากกก รองเท้าก็ไม่ใส่
รถตู้ค่ะ
ตอบลบขามา นั่งจากบีทีเอสหมอชิตใหม่ ๓๐ บาท (๒๐ นาทีก็ถึง)
ขากลับ นั่งไปลงอนุสาวรีย์ชัยฯ ๓๐ บาท (อันนี้นานหน่อย รถติดในเมือง)
สมัยก่อนนั่ง ปอ.๒๙ ปอ. ๓๙ กันเที่ยวละ ๒-๓ ชั่วโมงเชียวนะพี่บุ๋ม
เวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยนเนอะพี่ม้อย หอพักเก่าที่ปิ๋มเคยอยู่ที่นครปฐม บรรยากาศก็ไม่เหมือนเดิมแล้วเหมือนกัน
ตอบลบน้ำเน่า แต่ถ่ายรูปออกมาซะสวยเชียวพี่ม้อย
ตอบลบมุมนี้ไม่เคยเห็นอ้ะ
ตอบลบมุมไหนของมธ.อ้ะม้อย
โอ๊ะโอ..เดี๋ยวนี้มีรถวิ่งในมหาลัยแล้วเหรอ...สมัยก่อนควบจักรยานลูกเดียว
ตอบลบจำด๊ายยยยย
ตอบลบเคยกลับดึกแล้วปีนหอด้วย
ก่อนถึงหอชายต้องเจอโรงอาหารก่อน
ตอบลบความหลัง :)
ตอบลบเปลี่ยนไปมาก..ถ้าเราไปคงหลง
ตอบลบวันลอยกระทง มีเืพื่อนพวกเราอกหักแล้วกระโดดสระหน้าโดมด้วย
ตอบลบจากชั้นสามของตึกเรียนที่ผุดขึ้นจากบริเวณที่ตะก่อนเป็นป่าอะจี้
ตอบลบไม่แน่ใจเค้าเรียกบึงแห้วหรือป่าว
รอการคอนเฟิร์มก่อน
เดี๋ยวนี้ต้นไม้เยอะด้วย
ตอบลบเด็กจะตัวไม่ดำเท่าสมัยเรา
แม่น โรงอาหารที่มีแต่แมลงวัน
ตอบลบสมัยเราดำหยั่งกะไปทำนามาแน่ะ
ตอบลบติดโรคไวรัสตับอักเสบจากโรงอาหารนี่แหละ ฮึ่ม ฮึ่ม
ตอบลบ...ใครหว่า?
ตอบลบเฮ้ย จริงหรอ?
ตอบลบง่า...นั่นล่ะ ที่จำไม่ได้ ฮะ ฮะ ฮะ
ตอบลบจริง..ตอนมันระบาดเยอะ ๆ อ้ะ
ตอบลบเข้าโรงพยาบาลตั้งอาทิตย์นึงแน่ะ
โหย แล้วอิฉันไปทำอะไรอยู่
ตอบลบ(สงสัยกินแต่มาม่า)
แสงกำลังสวยเลยน้องปิ๋ม
ตอบลบแต่พี่ค่อนข้างเหนื่อยน่ะ
ไม่อยากกลับเย็นด้วย ไม่งั้นจะเดินเตร็ดเตร่ให้ไกลกว่านี้อีก
ดีแล้วที่ม้อยไม่เป็นอ้ะ (ว่าแต่เค้าเป็นกันทั้งมหาลัยเลยนะ)
ตอบลบแปลกจัง
ตอบลบหรือเรามีแอนติบอดี้?
เอ๊าะมากๆ
ตอบลบอาคารบรรยารวมแห่งใหม่?
ตอบลบเด็กเยอะมากกกก
ตอบลบไม่บอกกก
ตอบลบหอหญิงปิด 22.30 น. ตอนสอบปิดเที่ยงคืน ไม่ได้อยู่ แต่หนูชอบสิง 555
ตอบลบส่วนหอใจสบายใจเชิบ ปิดก็เปิดได้ สมัยก่อนจำได้ว่า ใครเมาเข้าไม่ได้ มันว่ายน้ำข้ามคู หรือทำสะพานไม้ซะงั้น
ตึกกิจกรรมฯ ที่ตุ๊กตาเคยอยู่สมัยก่อน (กลุ่มพัฒนาชนบท ) เดินเลยสหกรณ์ และร้านซ่อมจักรยานไปอีกนิดค่ะ ยังเป็นหมู่ตึกชั้นเดียวอยู่ แต่ห้องร้างแล้วค่ะ เพราะตึกกิจ ที่รังสิตเขาย้ายไปสร้าง ตรงหน้าอุทยานวิทยาศาสตร์ )ไม่รู้เรียกอบย่างนี้หรือเปล่า)
ตอบลบไปมะ วันหลังไปกัน
ตอบลบชวนเจ๊๊ด้วย
ไปกางเต็นท์นอนชมดาวกัน
แล้วให้เจ๊ทำกับข้าวกับเล่าเรื่องผีให้ฟัง
คิดถึงสมัยก่อน ไม่หลับไม่นอน หลังจากประชุมฯ กิจกรรมเสร็จมานั่ง คุยต่อที่หน้าตึกโดม คิดถึงรุ่นพี่คนนั้น เอ๊ย ความหลัง 555
ตอบลบใช่ๆ มันเขียนป้ายว่า สวทช.
ตอบลบคิวรถตู้ก็เรียก สวทช.
ช่าย มีเมื่อ 5 ปีก่อนค่ะ ตอนสร้างแอบลุ้นว่า มันจะมาบังตึกโดมไหม
ตอบลบจำได้ว่า เมื่อก่อน ตรงแถว siit มีดงหิ่งห้อย ถ้าขี่จักรยานตอนดึกๆ จะเจอหิ่งห้อยเพียง
ตอบลบอีกที่ ใน AIT ก็มีหิ่งห้อย ให้ชวนปั่นไปดูกัน
ตอบลบเมื่อก่อน มี 356 จากสะพานใหม่ เคยขึ้นจากรังสิต ปอ. 3 (503 สมัยนี้) ช้ามากกก หลับรอได้เลย
ตอบลบสมัยเจ้ต้องติดสอยห้อยตามเด็กวิดวะ ปั่นไปดูหนังใน AIT
ตอบลบ(ดูมหรสพและความบันเทิงของคนยุคโน้นสิ)
ขากลับต้องกลับมาทางเลียบคูที่มีอ้อขึ้น
ในหัวก็จะนึกถึงเรื่องผีเเปียกที่จะกลับขึ้นหอ
ฮู้ยยย
ทำไมทำสีเหมือนเลือดสาด น่ากัวนิ
ตอบลบใจเสาะเนอะ
ตอบลบช่วงนี้อ่อนแอนิ
ตอบลบก็สำนักงาน สวทช.ส่วนกลางอยู่ที่นั่นนี่จ๊ะ
ตอบลบ
ตอบลบอ้อ นึกว่าอ้อน ผ
นึกว่าอยู่คลอง ๕ คลอง ๖ อะไรโน่น
ตอบลบใช่ฮะพี่บุ๋ม น้ำดื่มตราอ่างแก้ว
ตอบลบตอนนี้ไม่ต้องอ้อนเลย ผื่นขึ้นเต็มตัว มีหลักฐานเป็นประจักษ์
ตอบลบน่ารักจริงเชียว น่าไปเรียนด้วยเนอะ
ตอบลบธรรมศาสตร์รังสิตเหรอ จำได้เคยไปเดินเล่นอยู่แป๊ปนึง
ตอบลบถ้ามีเวลา . . . และมีแฮง
ตอบลบมิปาเข้าไปร้อยรูปเหรอ?
แสดงว่าคนให้ความสำคัญกับภาษาญี่ปุ่นเยอะนะครับ นี่
ตอบลบอ้อ
ตอบลบ"บังเอิญจัง"
ซินะครับ
แดดร่ม
ตอบลบลมตก
อยากอ่านภาษาญี่ปุ่นได้บ้างจัง
ตอบลบจะได้อ่าน ไฮกง ไฮกุ
กับเขาแบบไม่ต้องรอคนแปลให้
พระสายมหายาน นิกายเซ็น เปล่า
ตอบลบหาเหรียญ
ตอบลบว่าแต่ จะให้ดี
ตอบลบผู้เข้่าสอบถ้าได้เเต่งตัวแบบนร.ญี่ปุ่นไปสอบ
น่าจะ็ เท่ห์ ดีเน๊อะ
หน้าตาเจแปนนีส ทุกคนเรย น่ะครับ
ตอบลบคน คน คน คน
ตอบลบคน คน คน คน
คน คน คน คน....
ทุ่งร้าง(นางลืม) เปล่า
ตอบลบอิอิ ล้อเล่ง..
แบบนี้ได้เสื่อซักผืน อ่ะนะ
ตอบลบปีนจิ
ตอบลบอิอิ
ล้อเล่ง
มุมนี้ค่อยดูสงบหน่อย
ตอบลบเท่ห์ จัง
ตอบลบไทยทำ
ตอบลบไทยใช้
ไทยเจริญ
หมวกเท่ห์
ตอบลบหลังคาสีหวาน
ตอบลบเซเว่นปิด แล้วเจอกัน
ตอบลบอิอิ อ่ะล้อเล่ง
กลางคืนอาจมีเงาจันทร์ นา
ตอบลบนั่นจิ
ตอบลบนั่งมองหา นกกระยาง
อยู่ตั้งนาน
"เหมือนว่าเมื่อวานนี้เอง"
ตอบลบสิบเอ็ดปีแล้ว จิ
ตอบลบมีมาอย่างน้อยก็ 5 ปีแล้วครับ
ตอบลบมุมขวาบน นกหรือเครื่องบิน
ตอบลบเด๋วโดนบิดแก้มป่อง(+เขียว)หรอก
ตอบลบอาจถึงพันนะ ถ้าเป็นที่เนี่ย
ตอบลบสงสัยจาเป็น UFO
ตอบลบเป็น Scene ที่เหมาะกะเธอนะม่อน
ตอบลบน้ำเน่าที่สะท้อนเงาจันทร์เนี่ย
อยากอยู่เหมือนกัน
ตอบลบเห็นหลายต้นเชีย
(อยากรู้ว่า มธ. จะทำไงกะลูกตาล)
งืมมม์
ตอบลบก็ยังดีที่ไม่ต้องขนาดแต่งคอสเพลย์
เซนเซสอนมาบทนึง
ตอบลบเท่มาก
พูดถึงเซนเซ นึกถึงนวนิยายเรื่อง โคะโคะโระ
ตอบลบผู้เขียน - นัตสึเมะ โซเซกิ
ผู้แปล - ดร.ปรียา อิงคาภิรมย์ โฮะริเอะ + กนก ศฤงคารินทร์
สำนักพิมพ์ - ดอกหญ้า
(มีคนบอกว่าเป็น พลังสะท้อนจากความหม่นมัวและงดงาม ในส่วนลึกของหัวใจมนุษย์)
เคยอ่านเปล่า เราชอบนะ
อย่างป๋า..
ตอบลบยัง
ตอบลบเอามายืมหน่อย
โคโคโระ แปลว่า Heart
หัวใจในแง่ที่ไม่ใช่อวัยวะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย
แต่อ่านหนังสือเล่มนั้นแล้ว เธอก็คงรู้แล้วสินะ
รูปนี้เพื่อนชั้นเม้นท์เป็นไพรเวตว่า
ตอบลบ"รูปสุดท้ายน่ะ ขอเม้นท์ ว่า "สวีตนะยะ"
ดูเป็นหลักฐานดี ว่ากรูก็เคยอยู่ที่นี่ (มาก่อน) แม้จะแค่ปีเดียว"
ไปที่นี่ทีไร หลงทางทุกที
ตอบลบดีครับ..แต่งตัวมาสอบตามสบายได้ด้วย..
ตอบลบบางที่เรื่องมากในเรื่องการแต่งตัว
ขนาดผู้หญิงใส่กระโปรงแล้ว ก็ไม่ให้เข้าสอบ เพราะใส่เสื้อคอไม่มีปก
อาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์
ตอบลบไม่อยากจะเม้าธ์ว่า บาง(หลาย)คนนี่จะสบายเกินไปไหม
ตอบลบถ้ารู้ว่ามันไม่ต้องเรียบร้อยขนาดนั้น ม้อยก็จะใส่กางเกงไปมั่งนะี่พี่
มข.น่าจะยังไม่มี นักศึกษาส่วนใหญ่เลยใช้มอเตอร์ไซค์
ตอบลบผู้บริหารมหาวิทยาลัยบางชุด พยายามจะทำ Walking campus
แต่พื้นที่มหาวิทยาลัยมันมากถึง 5,000 ไร่..
..คงทำได้หรอกมั้ง
พี่ป๊อกไปฟังบรรยายหรือไปบรรยายคะ
ตอบลบเห็นนักศึกษาในกรุงเทพฯ ไปทำค่ายที่จังหวัดไหนก็ได้แล้ว ก็รู้สึกอิจฉาทุกครั้ง
ตอบลบที่ ม.แห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น (..เหอเหอเหอ..) มีกฎเฮงซวยในการทำค่ายอยู่ว่า..
ห้ามไปทำค่ายในพื้นที่ที่ไกลเกิน 150 กิโลเมตร จากมหาวิทยาลัย หรืออาจจะเป็น 200 กิโลเมตร ผมก็ไม่แน่ใจนัก
นักศึกษาอยากจะไปเรียนรู้ปัญหาของชาวบ้านปากมูน จ.อุบลฯ ก็ไปไม่ได้
กลุ่มที่อยากเรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านที่เป็นชนเผ่าทางภาคเหนือ ก็ต้องหาเงิน หาทางดิ้นรนไปกันเอง
ทั้งๆ ที่จ่ายค่ากิจกรรมนักศึกษาไปแล้ว..
อยู่ในลังไหนก็ไม่รูํ้
ตอบลบที่บ้านเกิด โน่นหน่ะ
ไปพานักศึกษาทำ Work Shop ครับ
ตอบลบพี่ป๊อกว่าเพราะอะไรคะ
ตอบลบใช่เพราะเค้าอยากให้นักศึกษารู้จักกับพื้นที่รอบๆ มหาลัยให้ดีเสียก่อนหรือป่าว?
มันเป็นข้ออ้างที่ผมได้ยินมาเหมือนกัน..
ตอบลบหลักๆ ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องงบประมาณ กับความขี้เกียจของเจ้าหน้าที่มากกว่าครับ
เพราะว่าพวกกองกีดกันนักศึกษา เขาต้องเอาขนมปังปี๊บไปเยี่ยมค่ายกันด้วย
ถ้าไกลมาก เขาก็ต้องเพิ่มงบฯ ต้องเดินทางไกลด้วย
ถ้าจะทำอย่างที่คุณม้อยว่ามา ผมว่าทางมหาวิทยาลัย น่าจะจัดลำดับให้นักศึกษาได้ลงพื้นที่ อย่างเช่น นักศึกษาปี 1 ให้ไปทำค่ายรอบๆ มหาวิทยาลัย พอปี 2 ออกไปไกลกว่านั้น แต่ให้อยู่ในภาคอีสาน พอถึงปี 3-4 ก็ให้ไปทำค่ายในภาคอื่นๆ
แต่มันก็ไม่มีอะไรแบบนี้ และถ้าทำแบบนี้แล้ว พวกชมรมฯ ต่างๆ ก็คงจะโวยแน่ๆ
เพราะมันจะเกิดปัญหารุ่นพี่ รุ่นน้องไม่สนิทกัน สานต่องานกันไม่ได้ เพราะในค่ายก็จะมีแค่ชั้นปีเดียว
และที่สำคัญก็คือ ทำแบบนี้ มันเท่ากับว่ามหาวิทยาลัยเข้ามาล้วงลูก
มีนักศึกษากลุ่มอิสระอยู่กลุ่มหนึ่งในมหาวิทยาลัย ที่ทำค่ายเรียนรู้-ศึกษาปัญหา
พวกนี้อยากรู้เรื่องอะไร ก็จะหาเงินกันเอง แล้วโบกรถลงพื้นที่กัน
เท่าที่เคยเจอก็คือ กลุ่มนี้อยากรู้เรื่องป่าชุมชน เรื่องวิถีชีวิตคนปกากญอกับป่า เขาก็ไปเชียงใหม่กัน
โดยมีโจทย์ว่า คนอยู่กับป่าได้หรือเปล่า..
ทางมหาวิทยาลัยก็ส่งคนมาทาบทามว่า มาขึ้นทะเบียนเป็นชมรมฯ ซะทีสิ มีงบให้....
แต่ต้องอยู่ในระเบียบมหาวิทยาลัยน๊า..
กลุ่มนี้ไม่เอา..
..เหอเหอเหอ...
แวะมาดูมหา'ลัย ที่ไม่เปลี่ยนเห็นจะเป็นสายรถ ปอ.29 39 ใช่ไหม
ตอบลบปอ. ๒๙ เท่าที่เห็นไฉไลขึ้นมากมายนะป้านุช
ตอบลบไม่อึบทึบทึมเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ผู้ใหญ่เค้าต้องการ control
ตอบลบบางทีอดไม่ได้ที่จะคิดว่าถ้าเราทำอะไรดีๆ เขาก็คงอยากได้หน้าด้วยอะพี่
จากรูป...นึกว่าเป็นที่สอบในอิมแพ็คเมืองทอง คนเยอะจริงๆ
ตอบลบมีเรื่องเล่าว่า ตอนเกิดสึนามิใหม่ๆ เมื่อปลายปี 2547
ตอบลบพระเทพฯ รับสั่งว่า เห็นมหาวิทยาลัยอื่นๆ พานักศึกษามาเป็นอาสาสมัครกันหมดเลย
แล้วมหาวิทยาลัยนี้หายไปไหน?
เท่านั้นแหละ..ทางมหาวิทยาลัยฝ่าฝืนกฎของตัวเอง จัดให้ทันที..
โอ้โฮ สมัยเราอยู่กัน ไม่มีงี้เน๊อะ
ตอบลบจำน้ำที่ใช้ล้างหน้าสมัยนั้นได้มั้ยแก้มยุ้ย...เล่นซะผดเต็มหน้าเลยอ่ะ
ตอบลบคิดถึงห้องสมุดเหมือนกัน
ตอบลบสมัยก่อน เรายืมแต่นิยายไทยมาอ่าน เพลินไปเลย
ตรงนี้คุ้นตา :)
ตอบลบมีอีกเรื่องครับ..
ตอบลบตอนกลุ่มนี้ก่อตั้งใหม่ๆ มันตรงกันกับช่วงหลังจากที่มีการเดินขบวนขับไล่อธิการบดี..
นักศึกษาผู้ก่อตั้งกลุ่ม เขาไปซื้อชุดโต๊ะ-เก้าอี้ที่ทำจากไม้ไผ่ชุดหนึ่งมาตั้งอยู่ตรงใต้ร่มไม้ ข้างตึกกิจกรรม
เอาไว้สำหรับนั่งคุยงานกัน.. มีแค่นี้เองนะ
ปรากฏว่า ทางมหาวิทยาลัยส่งเจ้าหน้าที่มาเก็บไป บอกว่า มันไม่เรียบร้อย
ผมเชื่อว่า ทางผู้บริหาร เขามองว่า นักศึกษาในกลุ่มน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเดินขบวน ซึ่งไม่ใช่เลย
นักศึกษาคนนี้ ก็เลยไปเจรจาให้เอาโต๊ะ-เก้าอี้มาคืน หรือจะให้แจ้งความกับตำรวจข้อหาลักทรัพย์
...
ตอนหลัง ผมก็เลยแนะนำให้เขาเปลี่ยนเป็นโต๊ะม้าหินอ่อน มันจะได้เคลื่อนย้ายยากหน่อย
แกไปกินร้านที่มีกุนเชียงค้างรึเปล่าแก้มยุ้ย
ตอบลบตอนนั้น ชั้นจะเลี่ยงร้านนึงอ่ะที่มันมีกุนเชียงหน้าตาเหมือนเดิมวางขายอยู่ (ร้านริมๆ)
มันบินอยู่เป็นเพื่อนตลอดการกินข้าวไง...ช่วยให้คนที่ต้องกินข้าวคนเดียวไม่เหงาเพราะมัวแต่ไปปัดแมงวัน :P
ตอบลบช่ายยยย เราต้องไปที่รังสิตปีก่อนเรื่องงานก็เพราะต้องไปพวกนี้หล่ะ จำไม่ได้ว่า สวทช. หรือ อพวช.
ตอบลบเห็นแล้วความหลังลอยมา ลอยมาเลย :)
ตอบลบอันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่ะ จำได้แต่เรื่องอีเอดเคยลงไปว่ายแล้วตะคริวกิน จม ไอ้เก๋เลยต้องว่ายไปช่วย 555
ตอบลบส่วนตอนนั้นชั้นลอยคอเกาะตลิ่งอยู่ (กับโป๊ด หลี มั้ง...ไม่แน่ใจ) เพราะว่ายน่ำไม่เป็นแล้วยังแค่นจะลงสระโดม :)
หูย เอาชีวิตรอดมาได้ก็ดีแล้วนะ พวกเธอ
ตอบลบเราไม่กล้าลงอะโม่ กลัวปลิง
ตอบลบเห็นรูปแล้วนึกถึงสมัยนั้นจริงๆเลย :)
ตอบลบ:)
ตอบลบวันนี้ก็เพิ่งนั่งรถทัวร์ผ่านขากลับจากขอนแก่น
ตอบลบคิดถึงรังสิตจัง แต่สมัยเรียนโคดเกลียดเรยย มันไม่มีอะไรจะกินอ่ะ ต้องกินแต่สยามเสต๊กทู้กวัน จนอ้วนเป็นช้างเลย :"P
เดี๋ยวทันสมัยพัฒนา มีสวนสวยๆด้วยเนอะ
เสียดายจักรยาน คันนี้หายที่นั่นแหละ
ตอบลบอ้าว ของเอ็งเรอะ?
ตอบลบม้อยกินแต่มาม่าอะ พี่จุ๊บ
ตอบลบหายที่นั่นสองคัน
ตอบลบไม่ล็อกอะดิ
ตอบลบโห นี่มันเยอะกว่าวันเรียนจริงๆ อีกนะเนี่ย
ตอบลบเดี๋ยวนี้เขาไม่สอบที่ศูนย์ญี่ปุ่นกันแล้วเหรอ... ว่าแต่ว่าศูนย์ญี่ปุ่นหลังโรงอาหารกลางนี่มันยังมีอยู่ไหมอะ
ตอบลบในรูปนี้ดูยิ่งใหญ่จริงๆแฮะ
ตอบลบไม่รู้ว่าตรงไหนแล้ว
ตอบลบนึกว่ากลับไปเอ็นท์ใหม่อีกรอบละกัน
ตอบลบรูปนี้มีแต่คนรำพึงพันถึงความหลัง 555+
ตอบลบโห อลังการมาก
ตอบลบอาจานป๋วยจบอังกฤษ แต่คนมาไหวเพราะจะสอบภาษาญี่ปุ่น?
ตอบลบหลังหอในหญิงนั่นเอง
ตอบลบจำได้ๆๆๆ ต้องมารอรถเมล์กลับบ้านตรงนี้พอดี
ตอบลบไม่รู้เหมือนกัน
ตอบลบไอเดียดี ขอสมัครไปด้วยคน
ตอบลบเดินไปทางบ.ร.2
ตอบลบเดี๋ยวนี้ดูสะอาดขึ้นเยอะ
ตอบลบรุ่นพี่คณะไหน ฮิฮิ
ตอบลบย้ายไปอยู่ตรงอินเตอร์โซนที่สร้างตอนเอเชี่ยนเกมส์
ตอบลบรู้สึกไอ้ศูนย์ธุรกิจและบริการนั่นแหละที่เป็นสหกรณ์ ส่วนลึกเข้าไปหน่อยก็เป็นตึกกิจที่ตรงกลางเป็นลานโล่งๆ... ดูแล้วรำลึกความหลังดี
ตอบลบเมื่อตอนเย็นดูข่าวกีฬา เขาใช้คลองเลียบถนนจากประตูตรงเอไอทีมาโรงอาหารกลาง เป็นที่ไว้แข่งเรือพายในกีฬามหาลัยด้วยอะ เริ่ดไปเรย
ตอบลบตึกโดมนี่ใช่ตึกเดียวกะวจ.ที่โต๊ะคณะเศรษฐฯตั้งอยู่ปะ?
ตอบลบเหมือนวัตถุโบราณเลย
ตอบลบเมื่อก่อนกลับ ปอ.4
ตอบลบนี่รุ่นเดียวกับอาจานบางคนเลยนะนั่น หุหุ
ตอบลบยังอุตส่าห์ไปสแกนมา
ตอบลบเหมือนเวลามันหนุนกลับมา มีน้องเพิ่งสอบได้กำลังจะเข้าปีหนึ่งที่คณะ ต้องกลับไปรังสิตอีกรอบ!
ตอบลบยังมีนะ ถ่ายรูปมาด้วยหนิ
ตอบลบแต่น้ำยังเน่าอยู่
ตอบลบคลองนั่นมะก่อนมีคนตกไปตายแล้วลากตัวเองกลับหอ เอาราดหน้าไปส่งเพื่อนที่ฝากซื้อชิมะ
ตอบลบถ้าจบปุ๊บมีลูกปั๊บ
ตอบลบตอนนี้ลูกก็เข้าเรียนที่นั่นได้แล้วอะ
...น้อง
ตอบลบ