Rating: | ★★★★ |
Category: | Movies |
Genre: | Horror |
ในที่สุดก็ได้ดู The Mist (2007) ที่เพื่อนอุตส่าห์เลือกมาฝากเป็นพิเศษเสียที
หนังมันก็สั้นกระชับดี และสนุกดี (ในแบบที่หนังแนวนี้ควรจะเป็น) แต่ดูไปๆ แล้วก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่า ดูทำไมวะเนี่ย
มันเป็นหนังที่สร้างจากนิยายของ Stephen King ลำพังแค่ไอเดียของอีตาคนนี้ก็อย่างที่รู้ๆ คือแกสามารถจินตนาการถึงเรื่องสยองขวัญสั่นประสาทคนอ่านได้สุดขั้วอยู่แล้ว มาเจอผู้กำกับ Frank Darabont ที่มีความสุขในบีบคั้นอารมณ์คนที่เสนอตัวมาเขียนสกรีนเพลย์เองเข้าไปอีก หนังเรื่องนี้มันก็เลยออกมาเป็นหนังที่ดูแล้วไม่เห็นจะมีความสุข มีแต่ความเคร่งเครียด กดดัน แล้วก็หมดอาลัยในเพื่อนมนุษย์ชิบเป๋ง
สตีเฟ่น คิง ชอบเขียนเรื่องให้ตกอยู่ในภาวะคับขันที่บีบบังคับให้มนุษย์แสดงธาตุแท้ออกมา อย่างในเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นในเมืองเล็กๆ ที่คนส่วนใหญ่จะรู้จักกันหมด เริ่มจากพายุใหญ่โหมกระหน่ำทำบ้านพังจนรุ่งขึ้นคนต้องออกมาซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อหาซื้อข้าวของจำเป็นกลับไปซ่อมบ้านกับซื้อเสบียงกลับไปตุน
และแล้ว เมืองก็ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาทึบ ที่เป็นปริศนาว่ามันมาจากไหน รู้แต่มันไหลมาอย่างเร็ว ปิดทัศนวิสัยทุกอย่างข้างนอกร้าน ซ่อนตัวประหลาดที่ทำร้าย ไล่ต้อนผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตมาบอกข่าวคนข้างในเอาไว้อย่างแนบเนียน
ไอ้ตัวประหลาดนี่มันอะไรเป็นเรื่องน่าสงสัย แต่ไอ้ที่ไม่ต้องสงสัยคือ มันจะเอาชีวิตคน อย่าได้ออกไปให้มันจับได้เชียวแหละ
หลายชีวิตที่หลบอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตดูจะปลอดภัย แต่จริงๆ โดนมอนสเตอร์ฉีกเป็นชิ้นๆ แล้วตายไปเลยอาจจะยังดีกว่าบ้าตายเพราะเจ๊คลั่งศาสนาคนนั้น ที่เอาแต่พร่ำบอกว่า นี่แหละพระเจ้าลงโทษแล้ว เพราะว่าพวกเธอน่ะ หยิ่งยโส เพิกเฉยไม่นำพา ไม่เข้าหาพระเจ้า ฯลฯลฯลฯลฯ
ความคับขันบีบคั้นให้เกิดความเครียดและความกลัว งานนี้ถ้าสติหลุด ใครๆ ก็บ้าได้ทั้งนั้น
อยู่ข้างในมีอาหาร แต่ไม่มีอนาคต ออกไปข้างนอกดูมีอนาคตมากกว่า แต่ก็ต้องเสี่ยง เพราะไม่รู้จะมีภัยอะไรซ่อนอยู่ในหมอกบ้าง ติดอยู่อย่างนั้น ๒ วัน สัญชาตญาณไม่ชอบถูกกักขัง กอปรกับบทสดุดีีพระเจ้า (ตลอดเวลา) ทำให้เริ่มทนไม่ไหว จึงคิดหนี แต่พี่พระเอกก็ต้องตัดสินใจให้ดี ไม่ได้มีแค่ลำพังชีวิตตัวเอง แต่ยังมีลูก และคนอื่นๆ อีก
แล้วก็ออกมาโดยไม่มีเสบียงและไม่มีแผน มีแค่น้ำมันเต็มถังกับปืนกระบอก ลูกปืน ๔ นัด
อยากรู้เหมือนกัน ถ้าในซูเปอร์มาร์เก็ตนั่นมีพุทธศาสนิกชนสัก ๒ คน เรื่องจะเป็นไง หรือถ้าตัวเอกเป็นพุทธ จะมีสติยังคิดมากกว่านี้ไหม ตอนจบ จะพูดอะไรเก๋กว่าการกล่าวโทษว่า “พระเจ้าเกลียดเรา” หรือเปล่า
เพราะเท่าที่เห็น เรื่องนี้เป็นเรื่องของมนุษย์ล้วนๆ
พระเจ้าท่านไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเล้ย
บันทึก :
• หนังแผ่นนี้คุณภาพดีมาก เล่นด้วยเครื่องเล่นห่วยๆ (ที่คิดว่าพังไปแล้ว) กับทีวี ๑๔ นิ้วรุ่นเก๋ายังชัดแจ๋วไม่มีกระตุก..คุณภาพเขาสมราคาจริง
• แล้วที่เขียนไว้บนแพ็คเกจว่าเป็นแผ่น Blu-ray น่ะจริงหรอ หรือแผ่น Blu-ray จากเมืองจีนเล่นกะเครื่องเล่นดีวีดีจีนได้ ว่างั้น?
• จะบอกว่าไม่ได้หืออือกะพล็อตของสตีเฟ่นคิงเท่าไหร่หรอก อ่านมาหลายเรื่องก็ค่อนข้างจะคุ้น สิ่งที่น่าประทับใจคือวิธีการเล่าเรื่องด้วยการ hand held หรือถือกล้องเอาแบบนี้ คือมุมมันเหมือนตาคนน่ะ กดดันดี
• แล้วไอ้ความเงียบนั่นอีก คือเวลาหมอกลงจัดๆ มันก็ดูสงบและสงัดอยู่แล้ว ผู้กำกับดันจงใจปล่อยให้เงียบอีก ไอ้เราดูไปก็ใจเต้นตึกตัก-ตึกตักสิ
• เอาเป็นว่า ใครชอบหนังแนวนี้แล้วยังไม่ได้ดูก็หามาดูเหอะ ดูแล้วคงสะใจคุณน่ะ
• อ้อ ขอเขียนถึงเจ๊ Carmody จอมเพี้ยน (Marcia Gay Harden) หน่อย อารัยจะแสดงเก่งขนาดนี้วะ ดูไปยังนึกว่าเจ๊เพี้ยนจริง ดูๆ ไปยังคิดว่าว่าตัวหายนะตัวจริงอยู่ไม่ได้อยู่ข้างนอกนั่นซะหน่อย
• ในรายชื่อหนัง recommend ที่จะแลกกันดูกับหวานใจ อยากรู้ว่าเพื่อนจะใส่หนังเรื่องนี้ลงไปไหม ได้ข่าวว่าปลื้มอยู่มิใช่น้อย