วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย : คุณโสฯ เยาวชน



ข้อมูลสัมภาษณ์เชิงลึก โสเภณีเด็กอายุ 15-18 ปี จำนวน 10 คน ที่ค้าประเวณีแบบแอบแฝง และขายบริการด้วยตัวเอง ย่าน RCA

พบว่า...กรณีศึกษามากกว่าครึ่งกำลังเรียนอยู่ในระดับปริญญาตรี และไม่พบกรณีศึกษาใด ที่มีระดับการศึกษาต่ำกว่ามัธยม

แค่ เริ่มก็สะท้อนถึงความต่างจากรูปแบบโสเภณีในอดีต ที่มีการศึกษาน้อย และมักมาจากชนบท ที่ไม่มีโอกาสที่จะเรียนหนังสือ จึงต้องเข้าสู่กระบวนการโสเภณีตั้งแต่เล็ก

"เป็นไปได้หรือไม่ ว่า...ระบบการศึกษาที่มีลักษณะรวมศูนย์ในเมืองหลวง ดึงเด็กสาวจากต่างจังหวัดให้เข้ามาอยู่ในเมืองกรุง ใช้ชีวิตอย่างอิสระในหอพัก บ้านเช่า อพาร์ตเมนต์ คอนโดฯ ไม่ว่าจะอยู่ตามลำพัง กับเพื่อน หรือแม้กระทั่งกับคนรักก็ตาม

เหล่า นี้...เท่ากับเปิดโอกาสให้เด็กสาวที่อ่อนด้อยวุฒิภาวะตัดสินใจทำในสิ่งที่ ผิดพลาดง่ายขึ้น" ร้อยตำรวจโทจักร เจ้าของงานวิจัยตั้งข้อสงสัย

แม้ ว่าจะมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ แต่ที่เหมือนกันคือ... ภาระหนี้สิน ที่เป็นแรงผลักดันสำคัญ พอๆกับรายได้จำนวนมหาศาลที่ดึงให้ ก้าวสู่เส้นทางนี้

หลายคนให้เหตุผลในการเข้าสู่กระบวนการนี้ว่า... "เพื่อเป็นการปลดเปลื้องภาระหนี้สิน"

นับ ตั้งแต่...การย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ทำให้ต้องเสียค่าเช่าเพิ่มขึ้น หนี้สินจากค่าใช้จ่ายทางการศึกษา เช่น การศึกษาในมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

ที่สำคัญกรณีศึกษาทุกคนชอบเที่ยวกลางคืน ซึ่งต้องใช้เงินมาก จึงไม่แปลกที่จะตัดสินใจค้าประเวณีเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

ต้อย หนึ่งในกรณีศึกษาเล่าถึงสาเหตุในการก้าวสู่อาชีพนี้ ว่าหลังจากที่เสียพ่อกับแม่ไปตั้งแต่อายุ 15 เธอมีภาระที่ต้องรับผิดชอบในครอบครัวมากมาย...

"ต้อง...คอยดูแลน้องชาย ต้อง...หาเงินมาไว้เพื่อใช้จ่าย การได้เงินมาโดยวิธีค้าประเวณีนั้น ได้มาง่ายและเป็นเงินจำนวนมาก"

ปัจจัยต่อมา "ครอบครัวแตกแยก...เด็กไม่อยากอยู่บ้าน"

กรณี ของ อุ้ย พ่อแม่แยกทางกันและตัวเธอมารับรู้ภายหลังว่า...ทั้งคู่ไม่ ต้องการเธอกับน้องสาวไปดูแล จึงผลักภาระให้ป้าดูแลแทน ทำให้อุ้ยรู้สึกเสียใจมาก...คิดว่าไม่จำเป็นต้องไปเสียใจกับคนที่ไม่ต้องการ พวกเธออีกต่อไป และเลิกรอคอยให้พ่อแม่กลับมาหา

ขณะที่ น้อย ระบายว่า ความสัมพันธ์ในบ้านไม่ค่อยสงบสุขนัก เพราะพ่อที่แอบไปมีผู้หญิงอื่นนอกบ้านทำให้ไม่ค่อยอยู่บ้าน จนแม่จับได้ และมีปากเสียงกันหลายครั้ง

ความรุนแรงในบ้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ...จนในที่สุด ทั้งสองก็แยกทางกัน

ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้น้อยรู้สึกว่า..."ครอบครัวแบบนี้ ไม่มีเสียยังดีกว่า"

และ...สิ่ง ที่อยู่เบื้องหลังความรุนแรงในครอบครัวหลายกรณีเป็นผลจาก "น้ำเมา" น้อยบอกว่า พ่อชอบดื่มเหล้า เมื่อเมาก็มักจะดุร้ายขว้างปาข้าวของ ไล่ทุกคนออกจากบ้าน ไม่ต่างกับกรณีของปอย บุ้ง และนุ้ย พ่อเลี้ยงของปอยมักจะดื่มเหล้าเป็นประจำและชอบทุบตีแม่เสมอเวลาที่เมา เมื่อเธอและน้องเข้าไปห้ามก็มักจะถูกตบตีตามไปด้วย...

"พ่อบุ้งเป็นคนขี้เมา กินเหล้าแล้วจะเมาอาละวาด...บางครั้งไม่พอใจก็จะใช้กำลังทำร้ายทั้งแม่เลี้ยงและลูก"

อีกประเด็นที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้....นั่นก็คือ "เพื่อน ผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดกับค่านิยมที่เปลี่ยนไป"

สภาพ ครอบครัวที่ล้มเหลวนำไปสู่ความไม่เข้าใจ...สับสนว่าควรจะต้องปฏิบัติตัวเช่น ไรเมื่ออยู่ในสังคม ส่งผลให้เด็กสาวไม่อยากอยู่บ้านพยายามแยกตัวออกมา...แสวงหาความสุขนอกบ้าน ขณะเดียวกันเพื่อนก็เริ่มเข้ามามีอิทธิพลในชีวิต ทั้งความคิดและการกระทำ

ผึ้ง เล่าว่า มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรกับการที่เธอไปเที่ยว เมาจนเกิดมีความสัมพันธ์ทางเพศกับแฟนที่ไปด้วย เพราะเพื่อนๆก็เป็นกันแบบนี้

ด้วย ความต้องการการยอมรับจากเพื่อนที่ชอบเที่ยวกลางคืนและประกอบอาชีพค้าประเวณี อยู่แล้ว เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กสาวอย่าง แนท ยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์กับแฟนของเธอ เพื่อนำประสบการณ์เหล่านั้นมาเล่า และโอ้อวดกันในกลุ่ม

ขณะที่ต้อย...ยอมมีความสัมพันธ์กับแฟนได้ไม่นาน เธอก็ย้ายไปอยู่กับเขาจนเลิกรากันไปในที่สุด และจังหวะนี้เองที่เพื่อนซึ่งทำงานที่เดียวกันมาชวนให้ค้าประเวณี บอกว่า...

"ใน เมื่อไม่มีอะไรจะเสียแล้ว การมีอะไรกับคนอื่นก็ไม่ต่างจากการมีอะไรกับคนรัก แต่การทำเช่นนี้เราได้ผลตอบแทนที่เราเลือกได้อีกต่างหาก"

บท สรุป...การแก้ไขปัญหาโสเภณีเด็ก จึงมิใช่เพียงการปราบปรามทางกฎหมายเท่านั้น หากเป็นปัญหาที่ต้องเข้ามาแก้ไขในระดับโครงสร้างส่วนบน (เศรษฐกิจและสังคม) และในระดับปัจเจก (ครอบครัวและตัวเด็ก)

เพื่อ...ให้ปัญหาสามารถคลี่คลายได้อย่างแท้จริง

ปม "โสเภณีเด็ก" ภาคสมัครใจ ท่ามกลางวิถีสังคมไทยที่แปรเปลี่ยน ไม่ใช่ว่าจะแก้กันได้ง่ายๆ เหมือนเปิดตำราทดลองวิทยาศาสตร์.





>>>บางส่วน (คัดมาโดยไม่ได้ดัดแปลงข้อความ) จากบทความ "เปิดใจโสเภณีเด็ก ถนนบาปที่สมัครใจ" ถอดสาระน่ารู้จากคลังวิทยานิพนธ์   บัณฑิตวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชุดที่ 2 "ชุมชนพลวัตร" คลี่ปม "โสเภณีเด็ก" ภาคสมัครใจ ท่ามกลางวิถีสังคมไทยที่แปรเปลี่ยน

งานวิจัยของ ร้อยตำรวจโทจักร จุลกะรัตน์ ที่สนใจคลี่ปมปัญหาสังคมในเรื่องปัจจัยที่ทำให้เด็กหญิงเป็นโสเภณี ศึกษากรณีสถานบันเทิงย่านรอยัลซิตี้ อเวนิว กรุงเทพมหานคร

อ่านฉบับเต็มที่ http://www.thairath.co.th/today/view/117941

12 ความคิดเห็น:


  1. อ่านแล้วเครียดเนอะ ดูน่ากลัวจัง

    ตอบลบ
  2. อ่านแล้วรู้สึกว่า เด็กสมัยนี้จะรอดได้ยังไง

    ตอบลบ
  3. อ่านไปแล้วพาให้คิดไกล
    ได้แต่ท่องคำพระไว้ปลอบใจแห้งแล้งไปวันๆ
    กัมมุนา วัตตะตี โลโก..

    ตอบลบ
  4. ส่วนเด็กที่ไม่มีปัญหาใดๆ คงต้องเข้มแข็งให้หนัก ถ้ารอบตัวเป็นงี้กันหมด..ไม่งั้นไม่รอดแน่

    คิดถึงตัวเอง ถ้าโตมาในยุคนี้ จะเป็นไงหนอ...จะไหวไปตามสังคมไหมหนอ เฮ้อออ

    ตอบลบ
  5. เมื่อสองสามคืนที่แล้ว ผมเดินผ่านหน้าร้านหมูกระทะเชิงสะพานปิ่นเกล้าตอน 5 ทุ่ม
    เห็นเด็กวัยรุ่นประมาณ 10 คน
    ในจำนวนนั้น มีเด็กผู้หญิง อายุน่าจะประมาณชั้น ม.3 สวมกางเกงขาสั้น รูปร่างอวบอัด อยู่ในสภาพมึนเมาไม่ได้สติ จนต้องประคอง
    บังเอิญว่าคนประคองเป็นเพื่อนผู้ชายวัยรุ่น 2 คน ที่ย้อมผมสีทอง ระเบิดหู แต่งตัวแบบเด็กแว้น

    เด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง
    เด็กผู้หญิงคนนั้นที่เมา ถูกประคองขึ้นรถแท็กซี่ ไปพร้อมกับเด็กผู้ชายสองคน
    รถแท็กซี่คันนั้นวิ่งออกไป...

    ตอบลบ
  6. เคยเห็นแบบนี้เหมือนกัน แถวโพธิ์สามต้น สมัยที่มีผับ บาร์ เปิดกันเยอะ ๆ

    ตอนนั้นไปหาส้มตำกิน เห็นแล้วก็อึ้งไปเหมือนกัน

    ตอบลบ
  7. ถ้าจะมีลูกก็เลี้ยงกันดีๆ เหอะ
    ถึงต้องเลิกกันก็ขอใ้ห้เลี้ยงลูกให้ดี
    แล้วถ้าจะให้เป็นกุศลกว่านั้นก็ช่วยๆ กันเลี้ยงลูกให้คนอื่นด้วย

    ตอบลบ
  8. มหาวิทยาลัยทำให้สังคมดีขึ้น จริงหรือไม่? คนในสังคมนั้นคือผู้ต้องทบทวน

    ตอบลบ
  9. มหาลัย-มหาหลอก
    เด็กชายบ้านนอก เด็กหญิงบ้านน๋า

    ตอบลบ
  10. อนาคตประเทศไทย....
    หรือว่าเรากำลังอยู่ในสังคมอันผุพัง...

    ตอบลบ
  11. สังคมก็มีทั้งแง่ดีและเลวเนอะ
    แม้จะมีบางส่วนที่ผุพัง ก็มีส่วนที่กำลังเจริญงอกงามในเวลาเดียวกัน

    ตอบลบ
  12. เฮ้อ อ่านแล้วก็หดหู่ใจนะจ้ะพี่ม้อย
    แต่อย่างที่พี่บอก ยังมีส่วนที่เจริญงอกงามอยู่เหมือนกัน

    ตอบลบ