วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

เย็บไถ่บาป#4 : กระเป๋าสำหรับครอบครัว


จะเห็นได้ว่าบ้านนี้ก็มีน้ำพุเหมือนกัน



ดังที่เล่าไปแล้วถึงความพยายามจะทำกระเป๋าให้สมาชิกในครอบครัวหนึ่งใช้
ครอบครัวนี้ประกอบไปด้วยคุณยาย คุณน้า หลานชายวันมัธยมต้น และหลานสาววัยประถม
ก็เริ่มต้นที่ผ้าจุด ทำกระเป๋็าผู้หญิงเสร็จไป 3 ใบ ชักอึ้งว่าจะทำอะไรให้เด็กชายใช้ดี

จับผ้าพิมพ์สีครามมาทำ ทำไปทำมา มันคล้ายว่าจะไม่ใช่ของเด็กผู้ชายซะแล้ว
(โปรดพิจารณา)

เย็บไถ่บาป#3 : Boy or Girl?


ควิลท์นิดหน่อย เพิ่มรายละเอียด



ประสบปัญหาในการทำกระเป๋าให้เด็กชายวัยมัธยมต้น
ไม่รู้ว่าควรทำแบบไหน อย่างไร เด็กชายถึงจะใช้

ตีโจทย์เป็นกระเป๋าซิปรูดสำหรับใช้ใส่มือถือ (ถ้าไม่ใส่มือถือจะเอาไปใส่อะไรก็ได้ตามใจเขา) ประมาณไซส์ให้รับบีบีประมาณ Curve (ไม่รู้หรอกเขาใช้อะไร แต่เชื่อว่ามีมือถือใช้แน่)

วันก่อนเอาผ้าพิมพ์สีครามมาทำ ทำออกมาแล้วเพื่อนทักว่าหวาน เลยเสียเซลฟ์ไปหน่อย แล้วก็เริ่มทำใหม่ เอาผ้า Canvas ที่เพิ่งได้มามาลองดู แล้วก็ยังคงใช้ผ้ากุ๊นสีเดียวกับงานชิ้นอื่นๆ สำหรับสมาชิกหญิงในครอบครัวนี้ไป เพราะอยากให้งานชุดนี้เป็นชุดเดียวกัน

ดูแล้วช่วยบอกหน่อยได้ไหม ผู้ชายจะไม่ใช้ของชิ้นนี้?

(ชมภาพกระเป๋าอีก 3 ใบสำหรับสมาชิกในครอบครัว กับกระเป๋าเด็กชายใบแรกที่ไม่ผ่านได้ในอัลบั้มต่อไป)

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

ในสวนศรี






Sanctuary ทางจิตใจที่สงบ แต่ไม่เงียบเหงา
แห่งใดแห่งหนึ่ง ในอำเภอนครชัยศรี นครปฐม



อาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2554

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

เสน่ห์ปลายจวักและความรักของผู้ชาย




.....จนถึงวันนี้ คุณคงได้เห็นหนังสือมากมายในโลกตะวันตกและตะวันออกเขียนเกี่ยวกับเรื่องของความรัก แต่ไม่มีเลยสักเล่มเดียวใช่ไหมครับที่กล่าวถึงเรื่องนี้ ไม่มีสักเล่มที่พูดถึงชายหนุ่มตกหลุมรักหญิงสาวเพราะฝีมือการทำอาหารของเธอ หรือชายหนุ่มตัดสินใจทิ้งหญิงสาวเพราะเธอดันต้มน้ำซุปเค็มเกินไป โรเมโอรักจูเลียต
โดยไม่สนใจความบาดหมางของสองตระกูล แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะฝีมือการทำจ๋าก๊า (อาหารเวียดนามตำรับหนึ่ง) ของเธอ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เพราะนักเขียนส่วนใหญ่เขียนเกี่ยวกับความรัก ไม่ได้เขียนเกี่ยวกับการแต่งงาน ผมจึงเห็นว่าความรักของโรเมโอและจูเลียตนั้นงดงามที่สุดแล้ว เพราะพวกเขาตายไปก่อนที่จะได้แต่งงานกัน และก็ดีแล้วที่จูเลียตไม่มีโอกาสได้ทำกับข้าวให้โรเมโอกิน.....


ส่วนฮาๆ จาก "ขอตั๋วหนึ่งใบกลับไปสู่วัยเด็ก"
โดย เหงวียน เหญิต อั๋นห์
แปลโดย มนธิรา ราโท




วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

ที่รัก : ช่วงเวลาสามัญของคู่รัก

Rating:★★★★
Category:Movies
Genre: Drama


คนยิ่งอยู่นาน ยิ่งมีความหลังมาก

ฉันได้ไปชมภาพส่วนหนึ่งในคลัง “ความหลัง” ส่วนหนึ่งความทรงจำของคนคู่หนึ่ง ผ่านหนัง “คู่รัก”

ว่ากันว่าเป็นความทรงจำของผู้เป็นพ่อและแม่ของผู้กำกับหนัง นาม ศิวโรจณ์ คงสกุล

คู่หนุ่มสาวธรรมดา ในยุคสมัยที่หนึ่งวันยังมี 24 ชั่วโมงเต็ม ผู้คนใช้ชีวิตกันเรียบง่าย ตื่นแต่เช้า เข้านอนหัวค่ำ รักกันเงียบๆ เดตกันเรียบๆ ไม่เปรี้ยวปรู้ดปร้าด ไวไฟเหมือนคนยุคนี้สมัยนี้

เรื่องเรียบๆ ของคนเรียบๆ แต่มันดูจริง จริงตรงที่ชีวิตจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรสวยหรูไปกว่านี้ ไม่มีเจ้าหญิง ไม่มีเจ้าชาย ไม่มีรถโรลส์-รอยซ์ คฤหาสถ์ใหญ่โต แค่รักกัน คนสองคนก็หาทางอยู่ด้วยกันได้ตามประสา และแม้จะไม่ได้ร่วมเดินด้วยกันจนสุดทาง ต่างคนก็ยังอยู่ในความทรงจำของอีกคนเสมอ

ชีวิตที่อยู่มานานประมาณหนึ่งของฉันเองก็มีความทรงจำธรรมดาๆ ถึงใครบาง(หลาย)คน
..เพียงแต่มันไม่เห็นจะละเมียดแบบนี้เลย


หมายเหตุ:
• ภาพยนตร์ เรื่อง “ที่รัก” (Eternity) ของ "ศิวโรจณ์ คงสกุล" ได้รับรางวัล "Tiger Awards" ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติรอตเตอร์ดาม ครั้งที่ 40 ที่เมืองรอตเตอร์ดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา
• คิดไปประสาชาวบ้านที่บังเอิญได้ดูหนังไทยได้รางวัลฝรั่งมาบ้าง ว่า ดูฝรั่งช่างหลงใหลวิถีชีวิตบ้านนอกของบ้านเมืองแถบตะวันออกเสียจริง
• หนังเรื่องนี้ทำให้นึกถึงลุงบุญมีระลึกชาติในช่วงแรกๆ (ฮา) จังหวะที่เนิบช้าและความเงียบของหนังยังทำเอาเกือบหลับไปหลายรอบ แต่ก็ไม่ยักหลับ แถมมีฉากที่ทำเกือบน้ำตาไหลได้อีกตั้งฉากนึง
• ดูจบหลายวันแล้วก็เพิ่งจะคิดได้ว่า การที่ฉันไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งแบบในหนัง มันเหมือนชีวิตฉันยังขาดอะไรบางอย่างไป (หรือเปล่านะ?)
• (สมบูรณ์ ไม่เหมือน สมบูรณ์แบบ นะจ๊ะ)
• หลังหนังจบมีโอกาสถามผู้กำกับ (วัย 31 เอง แม่จ้าว!) ว่าแม่เขาได้ดูหรือยัง เขาบอกว่าได้ดูแล้ว (จับใจความเหมือนได้ดูในรอบที่ฉายในเทศกาลหนังรอตเตอร์ดาม) ก็ถามต่อว่า แล้วแม่ว่ายังไงบ้าง ..ผู้กำกับตอบสั้นมาว่า ก็ยิ้มๆ ...เท่าเนียะ
• อยากรู้ว่าถ้าคนที่อยู่มานานกว่าได้ดู จะรู้สึกอย่างไร ...ฉันว่าถ้าฉันทำหนังเรื่องของแม่กับพ่อออกมาแบบนี้บ้าง แม่ฉันไม่แค่ ‘ยิ้มๆ’ แน่นอน



วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ความเห็นแ่ก่ตัว : ว่าด้วยการใช้ทางเท้า




ก. ใช้ทางเท้าเป็นทางรถจักรยานยนต์ (ทำไมล่ะ ทีจักรยานยังให้ขี่บนทางเท้าได้เลย)

ข. จอดมอเตอร์ไซค์วินและจอดมอเตอร์ไซค์บนทางเท้า (อ้าวไม่ดีหรอ ผู้โดยสารไม่ต้องเดินไกลไง ที่จอดรถมันไกล+ต้องแลกบัตร ฯลฯ ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ไม่เข้าใจหรอก)

ฃ. นั่งขอทาน นอนขอทานบนทางเท้า (ก็กลุ่มเป้าหมายเดินบนทางเท้า ถ้าไม่ให้นั่งทางเท้าจะให้ไปนั่งไหน)

ค. ขายอาหารบนทางเท้า (สงสารคนรีบไปทำงาน ไม่มีเวลาแวะหาอาหารเช้า)

ฅ. ย่างไก่ สะเต๊ะ และหมู ทอดลูกชิ้น ทอดมัน และปาท่องโก๋ริมทางเท้า(เพื่อความใหม่สด น่ากินสำหรับผู้บริโภค)

ฆ. เทเศษอาหาร และน้ำล้างจานลงท่อระบายน้ำ (จะให้ขนไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาก็ไม่ไหวนะคะพี่)

ง. ขายเสื้อผ้า สายชาร์ตโทรศัพท์ ตุ๊กตา รองเท้า และกางเกงบ็อกเซอร์ เติมเงินมือถือ ฯลฯ บนทางเท้า (อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าค่ะ จะได้ไม่ต้องเดินไปตลาดไงคะ)

จ. ยืนประชาสัมพันธ์รับบริจาคสร้างค่ายพัฒนาชนบท ชวนซื้อโลงศพ (ให้ใคร?) ชวนบริจาคเพื่อสิ่งแวดล้อมและเด็ดด้อยโอกาส ฯลฯ (ผู้มีจิตศรัทธาจะได้ทำบุญร่วมกันระหว่างทางไงคะ)

ฉ. ก่อสร้างรุกล้ำทางเท้า (แป๊บเดียวฮะ เดี๋ยวก็คืนให้แล้วนะ)

ช. ขับรถลุยลงไปในแอ่งน้ำอย่างเร็วรี่ (ไม่ได้เบียดเบียนใครนะฮะ ขับรถก็ขับอยู่บนถนน)

ซ. ต่อท่อระบายน้ำจากดาดฟ้าลงมาที่หน้าบ้านเลย (น้ำจะได้ล้างทางเท้าหน้าบ้านให้สะอาดเอี่ยมไม่ต้องเปลืองน้ำประปาไง)


 

วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

เย็บไถ่บาป#2



เพราะมันไม่ใช่ผ้าฝ้าย ควิลท์ยาก
ไหมซัมเมอร์ไม่มี ใช้ไหมพรมร้อยเข็มปักควิลท์ก็ยากอีก เพราะมันปักไม่ค่อยลง ยิ่งมาเจอใยสังเคราะ์ห์รุ่นตลาดปากซอยอ่อนนุช ซึ่งฟูฟ่องสุดๆ

รวมกันแล้ว กว่าจะควิลท์เสร็จก็เล่นเอาระบมนิ้ว



ศุกร์ 2 กันยายน 2554
กินข้าวกับน้อง เสร็จแล้วไปเดินนารายา
เดินอยู่เกือบชั่วโมง ได้กระเป๋าออกมา 2 ใบ
วันรุ่งขึ้นน้องมาเม้นท์ใน "เย็บไถ่บาป" ว่าทำเองได้เยอะแยะ ทำไมยังต้องซื้อ

รู้สึกผิดไหม ไม่
แต่ไอ้ที่เคยคิดว่า "กระเป๋าประมาณนารายา ช้านก็ทำได้" ..เห็นทีต้องพิสูจน์กันหน่อย

ผลการพิสูจน์บอกได้คำเดียวว่า "เจ็บ"

วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว : ว่าด้วยการใช้บริการขนส่งสาธารณะ



ก. เดินเข้ารถไฟฟ้าทันทีที่ประตูเปิด (รีบค่ะ)

ข. เดินเข้ารถไฟฟ้าโดยไม่ต่อคิว (ก็คนเข้าแถวคนแรกชักช้า มัวแต่รอคนข้างในเดินออกมาให้หมดก่อน)

ฃ. เข้าแถวรอรถไฟฟ้าตรงช่องให้คนเดินออก (ก็เดี๋ยวประตูมันจะเปิดตรงนี้จะให้ไปรอตรงไหนเล่าคะ)

ค. เข้ารถไฟฟ้าไม่ชิดใน (เพราะอีก 5 สถานีก็จะลงแล้ว)

ฅ. ปล่อยเด็กให้วิ่งเล่น ห้อยโหย ป่ายปีนไปทั่วห้องโดยสารรถ (เด็กกำลังเรียนรู้นะคะ)

ฆ. พูดโทรศัพท์เสียงดัง (คุยเรื่องส่วนตัวนะคะ ไม่ได้ด่ามารดาใคร)

ง. นั่งแหกขาทำมุม 90องศากับเป้ากางเกง (ท่าทางจะหุบไม่ลงน่ะค่ะ)

จ. นั่งเหยียดขาไปข้างหน้า (ก็คนมันขายาวอะค่ะ)

ฉ. นั่งแชตไม่สนใจเฒ่าชแรแก่ชรา หญิงมีครรภ์ใดๆ (ทุกคนดูแลตัวเองได้ค่ะ)

ช. จับก้นกันบ้างจับนมกันบ้างแล้วแต่ความปรารถนาและโอกาส (ก็เจ้าของเขาไม่ว่าอะไรนี่ฮะ)

ซ. กินขนมและดูดกาแฟเย็นบนรถไฟฟ้า (ซื้อเองนะคะ ไม่ได้ขอใครกิน)

ฌ. ขึ้นบันไดเลื่อนไม่ชิดข้าง (ทรงตัวได้ค่ะ ไม่ต้องจับราว)

ด. ชิ่งไปช่องแปะบัตรข้างๆ ทันทีที่คิวแรกของช่องนั้นช้า (ก็คนมันรีบนี่นา)



วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

ไม่บอกไม่รู้ว่ามาจากบาหลี






เดี๋ยวนี้ไปรษณีย์ไทยมีบริการห่อพลาสติกให้ไปรษณียบัตรด้วยหรือคะ?