วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ฟินเล็กๆ



หัดเย็บกระโปรงตัวแรกเมื่อไหร่จำไม่ได้แล้ว เป็นได้ว่าอาจจะเคยเกิดขึ้นสมัยมัธยม ตอนเรียนวิชาเย็บผ้า (วิชาการงานพื้นฐานอาชีพ? ที่บางครั้งเราต้องทำอาหาร และแบกจอบไปพรวนแปลงผัก??) ความทรงจำเกือบไม่เหลือ งั้นก็อย่าไปนับว่าเป็นกระโปรงตัวแรกเลยนะ

ไปแม่สอดเมื่อสักเกือบ 10 ปีที่แล้ว แวะตลาดริมเมย ซื้อผ้้าโสร่งพม่ามาผืนนึง ก็เกิดเฟื่องคิดว่าผ้าผืนนี้เอามาเย็บกระโปรงบานๆ รูดมาผูกที่เอวก็น่าจะได้ ฉันทำได้ ก็ลงมือเย็บด้วยเข็มกับด้าย ง่ายๆ ภูมิใจชะมัด แต่ใส่ไม่สวย มันพองเกินไป งั้นก็อย่าไปนับว่ากระโปรงตัวนั้นเป็นตัวแรกอีกเลย

เกือบได้เย็บกระโปรงตัวแรก เป็นกระโปรงทรงเอที่สร้างแบบจากทรงของตัวเองเมื่อต้นเดือนกันยายนปีที่แล้ว ตอนที่สมัครไปเรียนฟรีกับศูนย์ฝึกอาชีพ กทม. เรียนก้าวหน้าไปจนถึงตอนจะติดซิป หมดชั่วโมงเสียก่อน แล้วหลังชั่วโมงนั้นก็ไม่ได้ไปเรียนอีกเลย จากวิกฤตสติแตกหอบแมวหนีน้ำท่วม (ซึ่งที่สุดแล้วก็มาไม่ถึง) ไปฝากแม่ที่สุราษฎร์ฯ

ซากกระโปรงตัวนั้นยังอยู่เตือนให้ช้ำใจถึงวันนี้

แต่เมื่อเดือนที่แล้ว ไปได้หนังสือแบบตัดกระโปรงง่ายๆ มาจากคิโนะคุนิยะ เป็นหนังสือแปลจากญี่ปุ่น ก็คว้ามาด้วยความดีใจ แล้วก็ดองเก็บไว้ประสาบ้าสะสมตำรา มาเกิดนิมิตเมื่อสองสามคืนก่อน ว่าอยากลองตัดกระโปรงสักทีแล้ว ผ้ามี ซิปก็น่าจะมี แล้วก็เลยเปิด เลือกแบบ

แบบแรกที่เลือกไม่ใช่แบบที่ง่ายที่สุด (ซึ่งน่าจะเ็ป็นกระโปรงทรงตรงเข้าเอวด้วยยางยืด) แต่เลือกเอาจากแบบที่ไม่ยากไป และคิดว่าน่าจะได้ใส่ แถมยังเฉไฉ ไม่ทำตามที่เขาบอกเป๊ะๆ เสียอีก

สนุกและได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการลงมือตัดกระโปรงตัวแรกตามหนังสือบอก โดยเฉพาะ 

ข้อแรก: หนังสือเล่มนี้ดีมาก บอกขั้นตอนชัดเจน รูปประกอบเลิศ ให้กำลังใจอยู่ในที (ไม่ใช่ด้วยคำพูด แต่ด้วยความรู้สึกที่เกิดเวลาอ่านพร้อมทำความเข้าใจไปพร้อมกันว่า ไม่ยากหรอก ทำได้)

ข้อสอง: ตีนผีติดซิปใช้ไม่ยากนี่หว่า (ได้จักรมาจะครบปี เปิดซิงตีนติดซิปก็คราวนี้)

ข้อสาม: (สำคัญมาก) ถ้าเอาแต่คิดว่าอยากทำ แต่ไม่ลงมือทำเสียที มันก็ไม่ได้ทำเสียทีนั่นแหละ!

 

8 ความคิดเห็น:

  1. ผ้าผืนนี้สวย ชอบริมที่ม้อยติดด้วยน่ารัก

    เห็นแล้วนึกภาพเวลากระโปรงพลิ้วหมุนๆๆๆ

    (พริ้ว หรือ พลิ้วหว่า?)

    ตอบลบ
  2. อันนี้เค้าเปิดซิงมาแล้วตั้งแต่เย็บเป๋าตาเหม่ง

    แต่อันนั้น ครั้งแรกเอาไปใช้ผิดทางมาก คือเอาตีนผีซิปไปประคองผ้าที่หนาแทนตีนผีปกติ

    พอใช้งานให้ถูกต้องแล้วนึกขอบคุณคนสร้างสรรค์ตีนผีซิปแฮะ สะดวกทีเดียวเลย

    ตอบลบ
  3. สงสัยเหมือนกันเลยไปหามาฝาก >>ตกลงต้อง พลิ้ว นะ

    คำว่า “พลิ้ว” กับ “ปลิว” ก็มีลักษณะอย่างเดียวกัน ในพจนานุกรม ฉบับ พ.ศ. ๒๕๒๕ จึงได้เก็บคำว่า “พลิ้ว” ไว้คำเดียว และได้ให้ความหมายไว้ว่า “ก. บิด, เบี้ยว, เช่น มีดคมพลิ้ว, สะบัดเป็นคลื่นไปตามลม เช่น ธงพลิ้ว.” ข้อความที่ว่า “มีดคมพลิ้ว” นี้ ต่อมาคณะกรรมการชำระปทานุกรมได้แก้เป็น “คมมีดพลิ้ว”

    คำว่า “พลิ้ว” ไม่ว่าจะในกรณีใด ๆ ก็ตาม ใช้ได้เพียงรูปเดียวเท่านั้น คือ “พลิ้ว” ที่มี ล กล้ำ เท่านั้น.

    จากหน้านี้จ้ะ http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1254

    อย่างไรก็ตาม ผ้าผืนนี้มันพลิ้วไม่ค่อยออกสิโม่ เป็นคอตตอนที่ยังไม่ผ่านการใช้งาน ตอนนี้ค่อนข้างกระโดกกระเดกแฮะ

    ตอบลบ
  4. ตีนผีติดซิปซ่อนอีก

    ทั้งตีันผี ทั้งซิปซ่อน คิดไปได้ไง!

    ตอบลบ
  5. กระเป๋าก้อจะเอา
    กระโปรงก้ออยากใส่
    พี่โอคนหลายใจ ^^

    ตอบลบ
  6. :D

    อยากมีวันละ 36 ชั่วโมง

    ตอบลบ
  7. ม้อยเก่งจัง ใจเย็น พี่บุ๋ม แค่ด้ายตืด ก็ตัดเลย อิอิ

    ตอบลบ