วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2553

Sexual Life : คำถามที่คนมีคู่ต้องตอบ

Rating:★★★★
Category:Movies
Genre: Drama

เหมือนจะเป็นหนังอาร์ เหมือนจะเป็นหนังเปรี้ยว กล้าหยิบคำๆ นั้นมาเป็นชื่อ แต่หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังเบาๆ ไม่ใช่หนังปลุกใจเสือป่า และไม่ใช่แม้แต่บทวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาฟอนเฟะบนเตียง

ที่จริงมันเป็นอะไรที่ลึกซึ้ง เป็นเรื่องเล่าถึงความสัมพันธ์อันมีรายละเอียดระหว่างคู่รัก ที่มีเซ็กซ์เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา แถมยังเล่นแรง ด้วยการยิงคำถามใส่คนดูโดยไม่ปรานีปราศรัยว่า
“จะเลือกอยู่กับคนที่เรารัก หรือคนที่เราเลือกแล้ว”

Sexual Life (2005) เป็นหนังดราม่าที่ผูกเรื่องเล็กๆ ของคู่รักหลายคู่เข้าเป็นเรื่องเดียวกัน ี่มีทั้งเพิ่งเดตกัน มาเจอกันบนเตียงชั่วคราวเพราะยังไม่อยากเร่งรัดขอเซ็กซ์จากแฟนสาว คู่นึงเป็นความสัมพันธ์ลับระหว่างนายกับเลขา มีบ้างเป็นเรื่องการเสียความบริสุทธิ์ให้หนุ่มคนรักก่อนเข้าพิธีวิวาห์ เพื่อเสียความบริสุทธิ์(ตามที่สามีเข้าใจ) อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น และเรื่องนี้ถูกเก็บเป็นความลับที่สามีไม่รู้จนวันที่เจ้าของเรื่องตาย

บางคู่เป็นคู่ชีวิตที่อยู่กันมานานจนผัวจำทุกอย่างของเมียได้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น รส ตำแหน่งของรอยกระ หรือท่วงท่าที่เธอโปรดปราน จึงสิ้นแล้วซึ่งแรงจูงใจที่จะมีอะไรกับเมีย และเธอเองก็กำลังเซ็งกับความเย็นชาของสามี จนต้องกระตุ้นตัวเองอีกครั้งด้วยหนุ่มแปลกหน้ารูปหล่อ ผู้ซึ่งกำลังพยายามถอนตัวเองจากการเป็นมือที่สามระหว่างเพื่อนสาวกับคนรักของเธอ ซึ่งกำลังจะเข้าโบสถ์แลกคำสาบานกัน ในขณะที่ว่าที่เจ้าบ่าวยังสับสนกับชีิวิต ว่าชีวิตของเขานั้นเป็นของเขาหรือของใคร

ดูๆ ไปแล้วก็เห็นใจ เพราะใครๆ ก็ไม่อยากเป็นคนมากชู้หลายใจ ใครๆ ก็อยากรักษาความสัมพันธ์กับคนที่ตัวเองรักให้ยืนยง มั่นคงไปนานๆ แต่ว่าความสัมพันธ์นั้นไม่มีสูตรตายตัว ความสัมพันธ์ของคนคนหนึ่ง ไม่อาจเป็นตัวอย่างให้อีกคนลอกเลียน
และไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าความสัมพันธ์แบบที่เรากำลังมีอยู่นั้น ถูก หรือผิด ได้ดีเท่ากับตัวเราเอง

เพราะเราเองนั่นแหละ ที่จะต้องเป็นคนตอบ
จะเลือกใคร ระหว่างคนรัก กับคนที่เลือกแล้ว?




บันทึก
• ไตเติลหนังเรื่องนี้สวย มันสอดพอดีกับเกมครอสเวิร์ดที่น้องคุกกี้เล่นตอนเริ่มเรื่องเลย
• เป็นหนังที่เขียนบทได้ดีและลงตัว ไม่เห็นจะต้องมีเรื่องให้มากเข้าไว้อย่าง New York, I love you หรือ Paris, Je t’aim เลยนินะ
• เป็นหนังฟอร์มเล็ก ดาราไม่ดังมาก แต่ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีนะ ลงตัว
• น่าสนใจตรงที่แม่ยายในเรื่องนี้แนะนำให้ลูกสาว ซึ่งยืนยันว่าผัวนอนกับเลขาแน่นอน ให้ลืมเรื่องนี้เสีย เพื่อรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ แต่ดันกลับลุ้นให้ลูกออกเดตกับเพื่อนสมัยมหาลัยที่หลงโทรมาหา นัยว่าเพื่อเยียวยาความสัมพันธ์กับสามี
• มีคู่หนึ่งในเรื่องที่คิดไม่ตกว่าจะต้องเดตกันนานแค่ไหน จึงจะเริ่มมีเซ็กซ์ด้วยกันดี แถมตอนมีเซ็กซ์กันจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้อีกฝ่ายพอใจ คือตัวเองก็คาดหวังให้อีกฝ่ายประทับใจ แต่อีกฝ่ายกลับพูดว่าไม่ได้คาดหวังอะไรนัก จากนั้นเขาก็มานั่งคุยกันในวันต่อๆ มา แล้วฝ่ายชายพูดว่า บางที เรื่องบางเรื่องเราอาจจะ ‘ควรพูดให้น้อย คิดให้น้อย แต่ทำให้เยอะ’...เป็นคำพูดที่จับใจคนช่างคิดช่างพูดอย่างฉันจังเลย
• หนังเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อัตราค่าบริการต่อครึ่งชั่วโมงของนางทางโทรศัพท์ในหนังนั้น แพงมากมาก คือ 75 เหรียญ ไม่รวมทิปและค่าแท็กซี่กลับ (เพราะงี้ใช่ไหมเลยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกัน-แต่เอ้า แฟนเธอจะชมว่า หูย...ใหญ่มาก โอว์...เยี่ยมจริง อ๊าห์...คุณยอดที่สุด อย่างมืออาชีพไหมนะ?)

5 ความคิดเห็น: