วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

ความสุขก่อนวันปีใหม่ (1)





                นึกไม่ออกเหมือนกันว่าทำไมเราควรมีความสุขกันนักหนากับเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ในเมื่อถ้าเรายังมีโอกาสหายใจในเช้าวันใหม่ ก็เท่ากับเรายังมีวันใหม่ๆ ให้เริ่มต้นกันได้ทุกวัน 

                แต่จะว่าฉันเฉยเมยกับช่วงเวลาที่ใครๆ พากันทำตัวให้มีความสุขก็ไม่ใช่หรอก เพราะฉันก็ทำตัวมีความสุขเหมือนกัน

                ระหว่างวันหยุดยาว 4 วัน ที่หลายคนออกไปเที่ยวไกลบ้าน ฉันจัดการผสมแป้งบราวนี่สำเร็จรูปใส่ถาดอะลูมิเนียมพร้อมเสิร์ฟ อบจนสุกหอม แล้วออกจากบ้าน ไปไกล ไปหาเพื่อน 2 คน ต่างมุมเมือง

                เพื่อนคนแรก ฉันไปเยี่ยมไข้ โชคชะตานำพาเรามารู้จักกันทางมัลติพลาย แลกเปลี่ยนเล่าเรื่องราวของกัน มีโอกาสไปทำอะไรแปลกๆ ฮาๆ แบบไม่ค่อยปกติร่วมกัน ก่อนที่เขาจะป่วยด้วยอาการประหลาด จริงๆ เขาเริ่มป่วยมาตั้งแต่ก่อนเราจะรู้จักกันเสียอีก ด้วยอาการเนื้องอกในสมองแบบแปลกๆ ที่ปรากฏขึ้นหลายตำแหน่ง บางตำแหน่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญและสุ่มเสี่ยงในการจะผ่าตัดออก หมอไม่อาจเข้าใจชนิดของเนื้องอกนี้ จึงไม่สามารถให้การรักษา หรือหยุดยั้งมันได้ เท่าที่ทำได้ เข้าใจว่าจะเป็นเพียงการบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ณ ตอนนั้นๆ

                ราวสามปีก่อนหน้า เป็นวันก่อนปีใหม่เหมือนกัน ฉันได้ไปเยี่ยมเขาที่บ้านหลังหนึ่ง อาการวันนั้นคงจะดีกว่าวันนี้ตรงที่เขายังพอพูด เล่าเรื่องอะไร บอกอะไรให้เรารับรู้บ้าง แต่ล่าสุดนี้ที่บ้านของพี่ชายที่อยู่ห่างออกไป เขาพูดลำบากขึ้นมาก ถึงขั้นที่แม้คนใกล้ชิดก็ยากจะฟังออกว่าเขาต้องการบอกอะไร การสื่อสารจากเขาในตอนนี้เป็นการจิ้มพิมพ์คำในโน้ตแพดของแท็บเล็ต ..โชคดีที่มือขวาของเขายังใช้ได้

                ได้เห็นอาการของเขา ยังไม่รู้สึกใจหายเท่ากับได้เห็นคุณแม่ สามปีก่อน คุณแม่คือกำลังหลักในการดูแลลูกชายคนนี้ จำได้ว่าวันนั้นคุณแม่คุยกับเราผู้ไปเยี่ยมยาวนาน เล่าเรื่องต่างๆ แต่หนหลัง เรื่องราวที่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความเข้มแข็งและเป็นนักสู้ของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ คนที่ในคราวนี้เธอตัวเล็กลงกว่าเดิมอีกมากเพราะอาการป่วย คุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งปอด ท่านนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร มีสายออกซิเจนช่วยหายใจ ท่าทางจะเหนื่อยอ่อนขณะพยายามกินอาหารในชามเล็กๆ ของท่าน บอกให้ฟังว่าไม่รู้รส และไม่อร่อยเลย ฉันเชียร์ได้แต่ให้ท่านกินอีกนิด เพื่อที่จะได้มีแรงสู้กับโรค

                อิ่มข้าวแล้วคุณแม่หยิบชิ้นงานโครเชต์ขึ้นมาถัก ฉันชวนคุย ท่านว่า เป็นหมวกสำหรับถวายพระ 2 วันถักได้ 1 ใบ “ถักไปเรื่อยๆ จะได้ไม่คิดมาก” ฉันยิ้ม และอนุโมทนาบุญกับท่าน

                บราวนี่ที่ฉันอบไปเป็นสูตรฝรั่ง มันทั้งหวานและเข้มข้น พี่ชายเพื่อนชิมแล้วบอกว่าหวาน แต่ฉันเห็นเพื่อนของฉัน ค่อยๆ ใช้ส้อมเล็มบราวนี่ชิ้นใหญ่ที่ฉันแบ่งให้ ส่งเข้าปากตัวเองช้าๆ อย่างต่อเนื่อง สลับกับหยุดไอเพราะสำลัก ..ใช่แล้ว ตอนนี้แม้แต่การเคี้ยวอาหารกลืนก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขา แต่เขายังพยายาม

                มองเห็นเพื่อนกินบราวนี่หวานๆ ของฉันจนหมดชิ้น ฉันมีความสุข โอบกอดเขา กราบคุณแม่ และบอกว่าจะกลับไปเยี่ยมอีก

                ฉันเดินทางข้ามเมือง กลับบ้านตัวเองอย่างมีความสุข

Whatever happens tomorrow, we've had today

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น