Rating: | ★★★★ |
Category: | Movies |
Genre: | Drama |
Spring Snow มีชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า Haru no Yuki หรือ Spring’s Snow เป็นหนังที่สร้างมาจากเรื่องราวที่ควรเป็นนิยายรักน้ำเน๊า-น้ำเน่า แต่เพราะมันเป็นผลงานของ ยูคิโอะ มิชิมา นักเขียนระดับตำนาน (ที่กลายเป็นอมตะ-ตามทฤษฎีของมิลาน คุนเดอรา-โดยการฮาราคีรีตัวเองเมื่อปี ๒๕๑๓) นิยายรักเรื่องนี้เลยกลายเป็นโศกนาฏกรรมความรักที่มีประเด็นซับซ้อนชวนคิด ที่เมื่อใครได้มีอันมารู้เรื่องด้วยก็จะพลอยปวดใจ และอดเสียดายแทนไม่ได้ คล้ายๆ กับความรู้สึกต่อเรื่องราวของ โรมิโอ & จูเลียต ของเชคสเปียร์นั่นเชียว
มันเกิดขึ้นในปีทศวรรษที่ 1910’s เริ่มต้นที่ความคับแค้นใจของหัวหน้าตระกูล อายากุระ ผู้ดีเก่าตกยาก กำลังมีปัญหาทางการเงิน ต้องไปพึ่งพา มัตสึกาเอะ ตระกูลเศรษฐีใหม่ที่มีเงิน แต่ไม่มีเชื้อสาย และคอนเนกชั่นกับเชื้อสายราชวงศ์
ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องของคนรุ่นพ่อ แต่กลับมาลงที่เด็กวัย ๑๒ อย่างซาโตโกะ กับคิโยอากิ วัย ๑๑ เสียได้
เพราะในวันหิมะแรกของฤดูหนาวปีนั้น หัวหน้าครอบครัวอายากุระดันสั่งหญิงรับใช้ พี่เลี้ยงของลูกสาวตัวเองทั้งๆ ที่เมา ว่า ก่อนที่ซาโตโกะจะได้แต่งงานกับคิโยอากิ ให้จัดให้ซาโตโกะเสียตัวให้กับผู้ชายที่เธอรักเสียก่อน เพราะเมื่อซาโตโกะเข้าพิธีสมรสโดยไร้ความบริสุทธิ์ ตระกูลมัตสิกาเอะก็เท่ากับถูกหลอกนั่นเอง
เด็กทั้งสองไม่รู้เรื่องที่ผู้ใหญ่คิด พวกเขาเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เล็ก และซาโตโกะก็รู้ตัวมาตั้งแต่ตอนเล่นเกมเปิดบัตรบทกวีแล้วว่า ตัวเองชอบคิโยอากิ
เป็นธรรมดาของเด็กผู้หญิงหรอก ที่จะมีความอ่อนไหว รู้ตัวไว แล้วก็ไม่วอกแวกไปทางอื่น ส่วนเด็กผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นในศตวรรษที่ ๑๙ หรือศตวรรษที่ ๒๐ อย่างทุกวันนี้ก็ยังแปลกเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน คือไม่ว่าเวลารักใครชอบใคร (ไม่รู้ทำไม) จะต้องคอยปัดป้อง ปิดบัง ต่อต้าน แล้วก็หลอกตัวเองและคนอื่นว่าไม่ได้รัก ไม่ได้รู้สึก ไม่ได้มีอะไรเกินเพื่อน พอผู้หญิงเขาถามก็จะเริ่มทำตัวแย่ๆ ทำร้ายจิตใจ ทำให้เขาเสียความรู้สึก เพื่อที่เขาจะได้จากไป
เรียกว่ามัวแต่ลีลาจนเสียเรื่องทุกที ..รวมทั้งคราวนี้ ทั้งที่พ่อถามคิโยอากิถามถึง ๒ ครั้งว่ารู้สึกอย่างไรกับซาโตโกะ เขาตอบแกล้มหัวเราะว่า ไม่แยแสสนใจเธอสักนิด
(โง่จัง เจ้าเด็กน้อย)
ในวัย ๒๐ ปี ซาโตโกะเป็นสาวสวยเหมือนดอกซากุระที่บานสะพรั่งเต็มต้น ไม่แปลกเลยถ้ากุลสตรีรูปงามอย่างเธอจะเป็นที่ประทับใจคนอย่างเจ้าชายมกุฎราชกุมาร ด้วยชาติตระกูลสูงส่งสมกัน ในที่สุดเจ้าชายก็ขอหมั้นซาโตโกะ และเมื่อการหมั้นได้รับการเห็นชอบจากสมเด็จพระจักรพรรดิ ซาโตโกะก็กลายเป็นของต้องห้ามไปในทันที
คิโยอากิเหมือนเพิ่งตื่นจากฝันตอนนี้ เขาเพิ่งรู้ว่าเขาต้องการซาโตโกะ
เขาแบล็กเมล์พี่เลี้ยงตัวแสบของหญิงสาวด้วยการอ้างถึงจดหมายที่เธอเขียนถึงเขา ทั้งๆ ความโกรธแบบเด็กผู้ชายที่ยังไม่โตเป็นหนุ่ม ทำให้เขาผลุนผลันเผามันก่อนเปิดอ่านไป ๒ ฉบับ ส่วนฉบับที่ ๓ ได้ฉีกมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่ความบ้าทำให้เขากล้าเอ่ยถึงจดหมายที่ไม่เคยได้อ่าน ๓ ฉบับนั้น ขู่พี่เลี้ยงของซาโตโกะว่า ถ้าไม่พาเธอมาพบ จะแฉ
พี่เลี้ยงทำเหมือนหาทางออกอื่นไม่ได้ จึงพาซาโตโกะมาพบคิโยอากิ
และแล้ว ท่ามกลางสายฝนตกที่ใส่หลังคาโรงเตี๊ยมเหมือนไม่มีวันซาเม็ด หนุ่มสาวทั้งสองก็ห้ามความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่ได้
ฉันรู้ว่าทำไมซาโตโกะถึงยอมคิโยอากิ แต่ฉันไม่รู้ว่าที่คิโยอากิห้ามใจตัวเองไม่ได้นั้น เพราะรักหรือ ใคร่
ผู้ชายรักแล้วจึงใคร่
ใคร่ให้มากพอ ก็จะรักได้้
หรือแท้ที่จริงแล้วผู้ชายทั้งรักและใคร่ได้ในเวลาเดียวกัน?
ราวกับความสุขของคนทั้งสองยาวนานได้เพียงชั่วชีวิตของผีเสื้อ
หลังลอบพบกันไม่กี่ครั้ง ซาโตโกะก็ตั้งครรภ์ แม้ว่าชีวิตที่ถือกำเนิดขึ้นในร่างกายของเธอคือพยานรับรองความรู้สึกที่ทั้งสองมีต่อกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือตราบาปที่ต้องกำจัด
โศกนาฏกรรมแห่งความรักไม่อาจจบลงอย่างอิ่มสุข
คนดูอย่างฉัน ได้แต่ดูแล้วก็คิดเสียดายแทนคิโยอากิ
ครั้งนั้นถ้าไม่มัวแต่ลีลา ต่อต้าน ไม่ยอมรับว่ารู้สึก ก็คงไม่ต้องอดทนรอคอยให้วันเวลาค่อยผันผ่านฤดูหนาวอันโหดร้ายสู่ฤดูใบไม้ผลิอันอบอุ่น ที่ผีเสื้อจะได้คืนชีพอย่างร่าเริงอีกครั้ง
บันทึก:
• เคยดูหนังของผู้กำกับ อิซาโอะ ยูกิซาดะ หรือยังหว่า?
• “ฉันอยากชื่นชมหิมะแรกกับเธอ” ...เขาช่างเขียนให้ซาโตโกะบอกรักได้นิ่มนวล และอ่อนหวานเหลือเกิน
• จริงๆ คิโยอากิน่าจะสำเหนียกถึงความปรารถนาและความรู้สึกต่อซาโตโกะตั้งแต่ฝันถึงผีเสื้อคืนแรกแล้วนะ
• ไม่รู้ว่ามันไม่มีเซนส์ หยิ่ง หรือว่าโง่กันแน่
• หนังเรื่องนี้เป็นงานศิลปะ มันคงเป็นงานศิลปะมาตั้งแต่ตอนเป็นบทประพันธ์แล้ว (ขออภัย ยังไม่ได้อ่าน) พอมาเป็นหนังก็ใช้ภาษาหนังได้อย่างมีรสนิยมมาก มันแช่มช้า สวยงาม สงบ สุข ลุ่มลึก และแสนเศร้า
• ภาพในหนังงามมาก ไม่ว่าจะเป็นภาพจริงหรือ CG น่าหลงใหลจริงๆ งามทุกฤดู งามทั้งโตเกียว นารา และคามากุระ (แต่นั่นมันต้นศตวรรษที่ ๑๙???)
• การแสดงของ ยูโกะ ทาเคอูชิ คือสิ่งที่ต้องยกย่อง เธอแสดงความรู้สึกของซาโตโกะผ่านออกมาทั้งทางดวงตา ท่าทาง จังหวะที่ร้องไห้ แม้กระทั่งมุมของใบหน้าที่รอจูบจากคิโยอากิ ฉันชอบสำเนียงเธอมากๆ พูดช้า มีแกรมมาร์ สมเป็นผู้ดี (เลยทำให้ฟังทัน โฮ่ โฮ่ โฮ่)
• ซาโตชิ ทสึมาบูกิ ก็ทำให้เรารู้สึกว่า ไอ่น้องคิโยอากินี่มันเด็ก โตไม่ทันซาโตโกะ หน้าตาก็รั้นสมบท
• น้องหนุ่ม-จันดารา กับโอ-อนุชิต ไปเล่นเป็นตัวละครเจ้าชายไทย ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้คิโยอากิรู้ตัว เป็นการปรากฏตัวที่..ดูยังไงก็เด่นเด้งออกมาไม่เนียนไปกับหนัง (ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี แต่ก็ไม่เลวหรอก)
• ตอนที่น่าสงสารมากคือตอนซาโกะนอนอยู่บนเตียงในโอซาก้า แต่ตอนที่อดน้ำตาหล่นคือตอนที่คุณย่าถามว่าถ้าคนรักมาหา เธอจะยอมพบเขาไหม
• น่าสงสารชะตากรรมของลูกผู้หญิงไม่มีทางเลือก
• (ถ้าซาโตโกะอยู่ในสมัยนี้ เธอจะทำยังไงหรือ ฉันอยากรู้)