วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Change : ไม่ใช่(นักการเมือง)มืออาชีพ

Rating:★★★★★
Category:Other



ตอนแรกว่าจะไม่ดูแล้ว Change เพราะเพิ่งดูแว้บๆ ไปทางไทยพีบีเอส ซึ่งตอนนั้นเหมือนเขาเอามาฉายได้พอดีกับจังหวะของโอบาม่า และอภิสิทธิ์ (บางคนพยายามสุ่ยให้เป็น โอบามาร์ค) ขึ้นเป็นผู้นำพอดี

แล้วก็เพราะรู้อยู่ว่าการเมืองมันเป็นเรื่องสกปรก ถึงพระเอกจะคนดี มีอุดมการณ์ แต่ถ้าเขียนเรื่องให้คนดีและอุดมการณ์ดีๆ ทางการเมืองเป็นฝ่ายชนะ เรื่องมันคงจะเน่าจนรับไม่ได้

(ออกจะมองในแง่ร้ายไปบ้าง แต่ก็คิดงี้แหละ)

อย่างไรก็ตาม เพื่อนก็เอาดีวีดีมาให้ยืม ตอนแรกก็ให้มาแค่แผ่นเดียวก่อน เพราะชีดูจบไปแค่แผ่นเดียว อิฉันเองได้มาแล้วก็เฉย ดองไว้งั้น ได้หยิบมาดูจริงจังในวันก่อนสอบสัมภาษณ์ Y5 (เพราะเครียด ไม่อยากอ่านหนังสือแล้ว) ดูจบแผ่นแรกแล้วก็รู้สึกอยากดูอีก จนต้องส่ง sms จิกให้เพื่อนเอาแผ่นที่เหลือมาให้ในวันสุดท้ายที่จะได้เจอกัน-ในห้องเรียน

แล้วก็พบว่านี่เป็นเรื่องที่ดี (อีกตามเคย) จริงๆ

-----

เราๆ เองเคยสังเกตเอง คุยกันเองมานานแล้ว ว่างานที่ต้องเสียสละ เสี่ยง แล้วก็หนักอย่างนักการเมืองเนี่ย ถ้าไม่ได้ผลประโยชน์ ใครมันจะมาทำ (วะ?)

คนเขียนบทก็คงเริ่มต้นจากตรงนี้ เลยเขียนเรื่องให้ลูกชายที่ออกจากบ้าน เพราะรับไม่ได้ที่พ่อซึ่งเป็น สส. ไม่ยอมปฏิเสธว่าไม่ได้รับสินบน กลับต้องเป็นผู้ลงสมัครเพื่อสืบทอดและรักษาเก้าอี้ สส. พรรคเซยู แทนผู้เป็นพ่อ และพี่ชายซึ่งจู่ๆ ก็เสียชีวิตกะทันหันในอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์

จริงๆ ที่อาซากุระ เคตะ (ทาคุยะ คิมูระ) ยอมสมัคร ก็เพราะปกป้องแม่ ไม่ให้แม่ต้องลงสมัครเองนั่นแหละ

เคตะเป็นครูวัย ๓๕ ออกจากบ้านที่ฟุกุโอกะ ไปเป็นครูประถมอยู่ที่นากาโน่ เพราะไม่วางมาด แถมเป็นกันเองกับเด็ก เลยถูกเด็กๆ ล้อว่าเป็นครูหัวยุ่ง (ก็เคตะเค้าผมหยักศกธรรมชาติ) แต่จากเด็ก ป.๕ นี่แหละ ที่เคตะได้เรียนรู้ แล้วก็หล่อหลอมบุคลิก วิสัยทัศน์ของเขาให้เป็นแบบที่เป็นอยู่

ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งซ่อมแทนตำแหน่งของพ่อ เขาไม่มีความสุขเล้ย คิดดูเหอะ เคยเป็นคนรักสงบ เป็นตัวของตัวเองสูง แต่วันๆ ต้องแต่งสูท ไดร์ผมตรง ออกไปตระเวณทำความรู้จักกับคนโน้นคนนี้ โค้งคำนับแล้วคำนับเล่า แต่ก็ทำไปตามหน้าที่ เพราะหวังว่า ถ้าถึงวันเลือกตั้งแล้วแพ้ คนพวกนี้ก็จะได้หยุดยุ่งกับชีวิตเขา ปล่อยเขาไปตามทางเสียที

แต่ตอนที่หาเสียงงวดเข้ามา ฝ่ายตรงข้ามปล่อยข่าวเมื่อ ๒๐ ปีก่อน ตอนที่พ่อเขารับสินบน เคตะถูกถามระหว่างกำลังปราศรัยว่าเรื่องที่พ่อของเขาทรยศนั้นเป็นความจริงหรอ

เป็นคุณ คุณกำลังหาเสียง แล้วคุณก็รู้ด้วยว่าพ่อทำหรือไม่ทำ คุณจะตอบยังไง ตอบรับ หรือว่าปฏิเสธ??

-----

เคตะเลือกที่จะเล่าว่า เขาเคยถามพ่อ ว่าพ่อรับเงินจริงหรือ พ่อไม่ตอบ แต่บอกว่า การจะเป็นนักการเมืองต้องแลกมาด้วยอะไรหลายอย่าง

เคตะบอกว่า เขาเกลียดการเมืองนับตั้งแต่บัดนั้น เขาเคยคิดว่า ไม่อยากสมัครเลือกตั้งซ่อมอะไรนี่ แต่ตอนนี้รู้สึกดีใจ ที่ได้ขอโทษแทนพ่อ

แล้วเขาก็ก้มหัวขอโทษแทนพ่อ

เคตะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. ที่ยอมก้มหัวขอโทษประชาชนจริงๆ คนแรกที่หลายๆ คนได้เห็น
(อดีตนายกพลัดถิ่นของเราก็ไม่เคยขอโทษเรานะ ใช่ไหม?)

“ผมไม่อยากสอนพวกเด็กๆ ว่าสิ่งเลวร้ายเหล่านั้นเป็นสิ่งจำเป็นในสังคมนี้”

ดูสิ อย่างนี้ประชาชนจะไม่เลือกเคตะได้ไง?

-----

มิยาม่า (ฟุกาสึ เอริ) นางเอกของเราเป็นสาวเก่ง เป็นอดีตข้าราชการกระทรวงการคลังมากความสามารถที่ศรัทธาภาพลักษณ์ของนักการเมืองอาชีพ (แบบนี้จะชั่วนะ) จึงมุ่งมั่นเรียนรู้เพื่อที่วันหนึ่งจะได้เป็นนักการเมืองอาชีพบ้าง นอกจากจะถูกส่งมาหาผู้สืบทอดของ สส. ผู้ล่วงลับแล้ว เธอต้องทำหน้าที่ทีมสนับสนุนหาเสียงให้เขา และเมื่อเขาได้รับเลือก เธอก็ต้องมาทำหน้าที่เลขาให้เขาด้วย

เธอไม่เข้าใจเคตะ ผู้ไม่เคยเป็นนักการเมืองมาก่อน ว่าทั้งๆ ที่ผู้ใหญ่ในพรรครอกินข้าวอยู่ แต่ทำไมเคตะกลับมัวแต่เสียเวลาฟังปัญหาของผู้ชายเพี้ยน เจ้าของแมว ๓๕ ตัวที่เก็บมาเลี้ยง ซึ่งกำลังโดนชาวบ้านร้องเรียน

เคตะขอโทษขอโพย แต่ก็บอกว่า เขาได้มาเป็น สส. เพราะคะแนนเสียงที่คนแสนกว่าคนเลือกเขา เมื่อได้เป็น สส. แล้ว บ้านก็มีให้อยู่ หรือแม้แต่รถไฟ หรือเครื่องบิน เขาก็ยังได้ขึ้นฟรี แต่ตอนนี้กลับไม่รู้จะทำอะไรตอบแทนให้สมกับคะแนนเสียงที่ประชาชนเลือก และนี่คือสิ่งที่เขากำลังพยายามทำ

คำพูดของเคตะทำให้มิยาม่าเริ่มปรับโฟกัสของเธอใหม่

-----

ถ้านายกญี่ปุ่นเป็นคนไม่รู้เรื่องการเมืองเลย ประเทศญี่ปุ่นจะชิบหายไปภายใน ๓ เดือนไหม แกนนำคนสำคัญของพรรคเซยูถามแกนนำคนอื่น คนอื่นๆ ตอบว่าไม่มีทาง

อิฉันละเกลียดเสียงหัวเราะของคนพวกนั้นในฉากนั้นจริงๆ ก็พวกเขาเห็นนายกรัฐมนตรีเป็นแค่หุ่นเชิด จะให้ใครเป็นก็ได้ ถ้าเด็กป.๕ เป็นได้ตามกฎหมาย แล้วประชาชนพอใจและยอมรับ พวกเขาคงไม่มายด์ที่จะให้เด็กเป็น เพราะว่าคนที่จะคอยชักใยอยู่เบื้องหลังแท้จริงแล้วคือพวกเขาไงล่ะ

ว่าแล้วอีตาคนนี้ก็วางแผนจะดันให้เคตะ ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจ และเอ็นดูจากประชาชนและสื่อมวลชนขึ้นเป็นนายก อะไรๆ ก็ดูเข้าล็อคตามแผน เคตะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่เพิ่งเป็น สส. สมัยแรก ยังไม่เคยเป็นรัฐมนตรี และมีอายุเพียงแค่ ๓๕ ปี

เขารับตำแหน่งด้วยอุดมการณ์เรืองโรจน์ ว่าจะทำงานหนัก จะเดินไปด้วยกัน และยืนเคียงข้างประชาชน จะมองเห็นสิ่งเดียวกับที่ประชาชนเห็น

แต่ดูเหมือนพวกที่ดันเขาขึ้นมาไม่ได้คิดอย่างนั้น


-----


"Change" ที่ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเรื่อง หมายถึงการเปลี่ยนแปลงอะไร โดยใคร และอย่างไร ถ้ามีโอกาสก็หามาดูกันเองเองนะ แม้ซีรีส์เรื่องนี้จะไม่มีบทพิศวาสหวานแหวว ไม่รีดน้ำตา แต่ไม่เสียเวลาดูหรอก



บันทึก:
• ดูเหมือนทาคูยะ คิมูระ จะได้บทคล้ายๆ เดิมอีกแล้ว ยังไงน่ะหรอ? ก็บทพระเอกอินดี้ เก๋ เท่ แหวกธรรมเนียมแนวทางสามัญ ที่มาพร้อมกับสัญชาตญาณ ความจริงใจ แล้วก็เฮงเรื่องบริวารไง
• ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว น่าเคารพในเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวละคร อาซาคุระ เคตะ มาก
• อายุมากขึ้น แต่ยังหล่อเหมือนเดิมนะ
• ถ้ามีอะไรสักอย่างที่เราต้องเชื่อมั่น สิ่งนั้นควรเป็นความดี เพราะว่าความดีมันคือความคงทน ค่าของมันไม่แปรผันเหมือนอัตราเงินเฟ้อ
• ความดีคืออะไร (อาจมีคนถาม) ความดีคือการทำหน้าที่ของตัวเองอย่างซื่อสัตย์ ไม่คดโกงเอารัดเอาเปรียบใคร และแม้จะมีคนประณามว่าเราไม่ใช่มืออาชีพ ก็อย่าได้แคร์ ความเป็นมืออาชีพนั้นมันแล้วแต่การให้ความนิยาม จงเชื่อมั่นในสิ่งที่เราเชื่อมั่น (นั้นคือความดี) แล้วจงเป็นมืออาชีพในสไตล์ของเรา
• ทำไมละครไทยไม่มีงี้มั่งฟระ?





5 ความคิดเห็น:

  1. ขอขอบคุณสปอนเซอร์มา ณ ที่นี้

    ตอบลบ
  2. อยากดูเหมือนกัน ^ ^

    ตอบลบ
  3. ชอบเรื่องนี้เหมือนกัน : )

    ตอบลบ
  4. เรื่องนี้อยากดูตั้งแต่ TPBS ยิงทีเซอร์ออกมา แต่ดันเป็นช่วงที่งานยุ่งพอดี กลับมาไม่เคยทันเลยซักตอน -__-"

    ตอบลบ
  5. ทำไมละครไทยช่าง...หาสาระอะไรไม่ได้
    แต่คนทำละครก็มักให้เหตุผลว่า มันทำให้เข้าใจชีวิต (ไม่ดีๆ) ของคนไทย (ที่จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ดูจากละครที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเนื้อหา)

    ตอบลบ