Rating: | ★★★★ |
Category: | Movies |
Genre: | Drama |
Aoi Tori หรือนกสีฟ้า (2008) เป็นหนังเล็กๆ เรียบๆ แต่พูดถึงเรื่องยิ่งใหญ่ คือการสอนเด็กให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างกล้าหาญ และสง่างาม
“การลืมนั่น ขี้ขลาดนะ”
มูริอูจิเซนเซ (Hiroshi Abe) ผู้เข้าสอนแทนครูประจำชั้น ม. 2/1 ซึ่งถูกพักงานหลังจากมีนักเรียนในห้องคนหนึ่งพยายามฆ่าตัวตายเพราะถูกเพื่อนแกล้ง พูดกับนักเรียนทั้งชั้นในครั้งแรกหลังจากกวาดตาไปทั่วชั้นแล้วหาโต๊ะที่ควรเป็นของเด็กเจ้าปัญหาคนนั้นไม่พบ
เซนเซ หรือครูคนนี้ก็เป็นอีกคนที่มีปัญหา
“เซนเซเป็นคนพูดตะกุกตะกัก ไม่สามารถพูดแบบปกติได้” เขายอมรับ “แต่เซนเซก็ตั้งใจพูด พวกเธอก็ควรตั้งใจฟัง แต่เพราะว่าพวกเธอทำไม่ได้ เซนเซถึงได้มาสอนที่นี่”
ปัญหาที่เกิดกับ โนะงูจิ ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นเรื่องสามัญเพียงแค่ในโรงเรียนในญี่ปุ่น แต่เป็นในโรงเรียนทั่วโลก ที่มีเด็กวัยเดียวกันมาอยู่รวมกัน สังคมกัน มีการจัดกลุ่ม ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากกลุ่มใหญ่ จากนั้นใครคนหนึ่งจะถูกอุปโลกให้เป็นหัวโจก แล้วก็ต้องมีใครสักคนเป็นอย่างน้อยที่ถูกแกล้ง
ไม่ใช่การใช้กำลังหรือขมขู่ เพื่อนๆ ในห้องแค่แกล้งให้โนะงูจินำของจากบ้านที่เป็นร้านสะดวกซื้อมาให้ แล้วเพื่อนทั้งห้องก็แค่หัวเราะใส่เพราะขำ โดยที่เจ้าตัวคนถูกแกล้งก็ได้แต่หัวเราะรับโดยที่ไม่เห็นขำด้วย
แต่สำหรับเด็กคนนั้น นั่นก็รุนแรงพอจะบีบจิตใจจนทำให้เขาคิดฆ่าตัวตายแล้ว
โชคดีที่เขาไม่ประสพความสำเร็จในการพยายามตาย พ่อแม่จึงปิดร้าน ย้ายเขาไปเรียนที่อื่น เพื่อนร่วมชั้นหลายคน ทั้งที่รู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ยังไม่ยอมรับว่าแค่หัวเราะใส่ และไม่ช่วยเหลือ นั่นเป็นการแกล้งเพื่อนแล้ว โรงเรียนเองไม่สามารถตัดสินใจทำอะไรได้มากไปกว่าพยายามแสดงความสำนึกผิดหมู่โดยให้นักเรียนทั้งชั้นเขียนเรียงความสำนึกผิด เขียนซ้ำๆ จนกว่าจะได้ใจความที่กินใจ ว่ารู้สึกผิด สำนึกแล้ว ขอโทษ และ “ลืมมันซะ พวกเธอยังมีการสอบที่สำคัญรออยู่”
กล่อง “นกสีฟ้า” ถูกนำมาตั้งขึ้นหลังเหตุการณ์นั้น เพื่อรับข้อความจากคนที่มีอะไรอัดอั้นตันใจ บอกใครไม่ได้ โรงเรียนฝันไว้สวยๆ ว่าทุกอาทิตย์จะมีการรวมกลุ่มกันเปิดกล่อง อ่านข้อความในกล่อง แล้วก็รับรู้ร่วมกัน ทีนี้ก็จะไม่มีปัญหาอะไรของนักเรียนที่หลุดรอดสายตาของโรงเรียนอีกต่อไป ...แต่จนแล้วจนรอดกล่องนกสีฟ้าก็ไม่มีข้อความอะไรเป็นเรื่องเป็นราว นอกจากคำถามว่า “นกสีฟ้าคืออะไร”
ไม่ใช่กล่องนกสีฟ้าหรอก ที่ช่วยเปิดใจ แล้วเข้าไปสะสางเรื่องในใจของนักเรียนห้องนี้ แต่เป็นครูชั่วคราวที่มีปัญหาในการพูด แต่ตั้งใจที่จะฟังพวกเขา แล้วก็อธิบายว่าทำไมการ “ลืม” จึงเป็นหนทางหนีปัญหาแบบคนตาขาว ส่วนคนที่ “จำ” ไว้เสมอจึงเป็นคนกล้าหาญ
บันทึก :
• ภูมิใจนำเสนอ อาเบะ ฮิโรชิ นักแสดงชาย (ญี่ปุ่น) ในดวงใจในเวลานี้
• ดูแล้วก็อดย้อนนึกถึงเรื่องในโรงเรียนของตัวเองไม่ได้นะ
• เพลงเปิดและปิดเรื่องเพราะอีกตามเคย เนื้อร้องก็ดี๊ดี รู้เพราะดีวีดีแผ่นนี้มีซับเนื้อเพลงด้วยน่ะซี
• น่าคิดนะ ว่าเรื่องไม่ดีที่เราพลาดมาในอดีต เราควรเลือก “ลืม” หรือ “จำ”
อ่านดูแล้วน่าสนใจครับ :) จะลองไปหาดูครับ
ตอบลบจะหาดูได้จากไหนนะม้อยดี้ มีขายมั้ยเรื่องนี้
ตอบลบมีขายตามเว็บที่ขายหนังผีน่ะจ่ะ
ตอบลบที่ได้มาดูก็ได้มาจากแหล่งนั้น
งั้นตามแหล่งหนังผีคงมี เนอะ
ตอบลบทริปอยากยืมเรามะ?
ตอบลบน่าดูอีกแล้ว...
ตอบลบพี่อาเบะเล่นเป็นครูหลายครั้งนะ ตอนที่เล่นเป็นทนายความที่ตกยากแล้วต้องมาเป็นครู เรื่องนั้นก็สนุก (เก่าแล้ว...ม้อยได้ดูรึยัง ถ้ายัง เดี่ยวเราส่งไปให้)
ดีใจชะมัดที่มีคนทำหนังเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มา ...นึกถึงตอนเด็ก ขนาดเราเป็นเด็กที่ไม่ทั้งเด่นแต่ก็ไม่ได้โดนแกล้ง (ก็เป็นเด็กธรรมดานั่นล่ะ) เรายังมีวูบที่รู้สึกเดียวดายเลยนะ
เคยอ่านที่เค้าเขียนไว้ในหนังสือที่เอ๊าทส์วิช โปแลนด์....บอกว่าให้เรา"จำ"ไว้ให้ดีว่าเรื่องเลวร้ายแบบนี้เคยเกิดบนโลก เพราะเราจะได้สำนึกและไม่ทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย อาจจะไม่ตรงกับอดีตที่เราพูดถึงกันในหน้านี้ แต่เราว่าทุกอย่างมันควรเลือก "จำ" ไว้นะ (ให้อภัย และทำใจยอมรับเป็นอีกเรื่องนึง))
ตอบลบไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ไม่รู้จะทำยังไง หรือแค่คิดว่าเราเด็กอยู่วันยังค่ำ ถึงได้ชอบสอนว่า ลืมมันซะ มันแค่ฝันร้าย
ตอบลบน่าดูจ้ะ
ตอบลบ