วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

Ahiru to kamo no koinrokkâ กับเหตุผลของการมีชีวิตอยู่

Rating:★★★★
Category:Movies
Genre: Drama


คุยกับแม่ลูก (อ่อน) สองเมื่อวานนี้เรื่องชีวิต เห็นตรงกันว่าการมีลูกและการเลี้ยงสัตว์ทำให้เราเรียนรู้ที่จะคิดถึงคนอื่น (บ้าง) ไม่ใช่แต่อะไรๆ ก็คิดถึงแต่เรื่องของตัวเองเหมือนสมัยยังสาว ตอนที่โลกทั้งใบยังหมุนรอบตัวเรา

แม่ลูกสองสำทับด้วย quote คำพูดของศิลปินสุดเซอร์คนหนึ่ง “การมีลูกทำให้เป็นอิสระ” ...เขาหมายถึงอิสระจากการวนเวียนคิดถึงแต่เรื่องตัวเอง ฉันเถียงไปว่า ไม่จริงเลย ถ้ามันคืออิสระจากการวนเวียนคิดถึงเรื่องตัวเอง เพียงเพื่อจะไปคิดวนเวียนเรื่องลูก (หรือสัตว์เลี้ยงของเรา) แล้วก็พานให้คิดถึงการมีชีวิตอยู่ หัวข้อที่ฉันคิดวนเวียนตั้งแต่รับลูกแมวพิการมาเลี้ยงคู่กับแมวสมบูรณ์ (แล้วก็มีอันว่าแมวที่คิดว่าสมบูรณ์ก็ไม่ได้มีสุขภาพสมบูรณ์อย่างที่คิดเสียอีก!) นังหนูสามขาหน้าโง่และแบ๊วของฉันนี่เอง ที่ทำให้ฉันถามตัวเองออกบ่อยไป ว่าถ้ามันเป็นคน มันจะเลือกมีชีวิตอยู่ในสภาพร่างกายแบบนี้ไหม หรือถ้าฉันเป็นอย่างมัน ฉันจะมีหน้าร่าเริงวิ่งสามขาจู๊ดๆ ไล่หลังพี่สี่ขาอ้วนพีดีของมันไปทั่วห้อง เพียงเพื่อจะไล่ฟัดกันเล่นๆ ไหม จะรักชีวิตและจ้องมองจิ้งจกด้วยตากลม เป็นประกายอย่างนั้นได้หรือเปล่า

มีหนังเรื่องหนึ่งที่อยากจะเขียนถึงตั้งนานแล้ว แต่ดูแล้วก็ทึ่งจนอึ้ง ไม่รู้จะเขียนถึงอย่างไรดี จนถึงวันที่ผ่านบทสนทนาเรื่อง ‘ลูก’ กับ ‘แมว’ ในวันนี้ ฉันจึงได้นึกออก ว่าแท้ที่จริงหนังเรื่องนี้พูดถึงการมีชีวิตอยู่

Ahiru to kamo no koinrokkâ (2007) ซึ่งแปลตรงๆ ได้ว่า “เป็ดเทศ กับเป็ดบ้าน และล็อกเกอร์หยอดเหรียญ” หนังที่เพื่อนสาวจัดให้มาตั้งนานแล้ว ด้วยเธอชอบหนังเรื่องนี้ที่อะไรอีกหลายอย่าง นอกจากเพราะมีนักแสดงในดวงใจของเธอร่วมแสดงด้วย เริ่มอย่างเอื่อยๆ เฉื่อยๆ ด้วยภาพและเพลง Blowin’ in the Wind ในเสียงของ Bob Dylan อย่างหนังแนวๆ (ซึ่งทำให้ฉันหลับไปภายใน 15 นาทีแรกอยู่หลายรอบ) แต่พอผ่านครึ่งเรื่องไปแล้วต้องบอกว่าทึ่งกับบท และความยอกย้อนท้าทาย ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนตอนเล่นเกมตรรกะที่ทดสอบไหวพริบและสมาธิของเราไปในตัวไม่มีผิด

หลอกเราให้เราเข้าใจเป็นอย่างหนึ่งในตอนแรก แล้วก็มาเฉลยว่า ‘นั่นมันผิดหมดเลยจ้ะ’ ในตอนหลัง เด็กแปลกถิ่นคนหนึ่ง ย้ายเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งเพื่อเรียนหนังสือ เขาไปพร้อมกับเสียงฮัมเพลง Blowin’n in the Wind เพลงที่ตัวละครบางคนบอกว่าเสียงของบ็อบ ดีแลน คนร้องในเทปนั้นเป็นราว ‘เสียงของพระเจ้า’ และเป็นความเกี่ยวเนื่องกับเพลงนี้ของตัวละครแต่ละตัวนี่เอง ที่เชื่อมโยงพวกเขาเข้าด้วยกัน
เด็กใหม่ถูกชักชวนไปร่วมปฏิบัติการงี่เง่าที่ดูไม่มีเหตุผล แต่ที่จริงแล้วมีเหตุผลหนักแน่นควรแก่เหตุ การทำให้คนอื่นเข้าใจว่าตัวเองเป็นอีกคน และการลงโทษคนบางคนด้วยวิธีที่เลือกสรรเอง ก็ล้วนมีเหตุผลของมัน

ฉันคิดว่าการเลือกที่จะใช้ชีวิต และ ‘เป็น’ ในแบบที่คนแต่ละคนปรารถนาจะเป็น เป็นเรื่องที่ต้องเคารพ แต่การเลือกที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อชีวิตอื่น จะเป็นพ่อแม่ คนรัก หรือแม้จะเป็นแค่หมาแมว นอกจากน่าเคารพแล้ว ยังเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ด้วย

(ยิ่งใหญ่จนควรค่าแ่ก่การได้รับการอภัยจากพระเจ้่าเลยล่ะ!)

12 ความคิดเห็น:

  1. เพื่อนสาวคนจัดหนังเรื่องนี้ให้เขียนถึงหนังไว้น่าอ่านเชียว
    http://lonely-turtle.blogspot.com/2010/05/ahiru-to-kamo-no-coin-locker.html

    ตอบลบ
  2. อยากดูจังเลยล่ะม้อย...เดี๋ยวตามไปอ่านตาม link ที่ม้อยให้ไว้ด้วยดีก่า

    ตอบลบ
  3. น่าดูจัง :)

    ป.ล. เราว่าน้องเหมียวรู้ว่าชีวิตต้องดำเนินต่อไป และใช้ชีวิตอย่างเหมียวธรรมดา แม้ว่าเราจะมองว่าเค้าไม่เหมือนแมวตัวอื่น
    แต่เค้าอาจจะไม่ได้รู้สึกแตกต่างจากพี่น่อยก็ได้นะ เค้าอาจไม่ได้ตัดสินชีวิตตัวเองในรูปแบบที่เราตัดสินก็ได้ เราว่านะ ..
    แต่ .. ใครจะรู้ใจแมว ^.^

    ตอบลบ
  4. ชอบมากเวลาม้อยเขียนถึงแมว ยิ่งเป็นแมวสามขาน่าเอ็นดูของหม่ามี้ตัวนี้
    เนื่องจากเป็นคนชอบดูหนังอยู่บ้าง แต่ด้วยความเรื่อยเฉื่อยของหนังญี่ปุ่นมักจะทำให้ไม่ค่อยเลือกหยิบมาดู แต่ก็รู้ว่าเนื้อหาของหนังประเทศนี้มักจะมีเรื่องลึกซึ้ง(อย่างรุนแรง)ซ่อนอยู่เสมอ...อย่างเช่นเรื่องนี้พอนึกออกว่าทำไมม้อยจึงหลับใน 15 นาทีแรกตลอด...ฮา

    ตอบลบ
  5. มีชีวิตเพื่อเป้าหมายส่วนตัว ^^
    เรียก self esteem ได้ปะ

    ตอบลบ
  6. โม่เดาได้ไหม เพื่อนคนนั้นคือใคร

    ตอบลบ
  7. ถ้าอยากดูจะจัดให้นะจี้


    มานี่เนี่ย อย่างที่บอกโม่ไปวันก่อน มันแค่ "I believe I can climb"
    ไม่รู้หรอกว่าตัวเองมีขาไม่เท่าพี่ แค่อยากจะขึ้นไปนั่งชูคอบนโต๊ะข้างพี่ มันก็พยายามป่ายปีนของมัน

    สัตว์มันโชคดีที่ไม่คิดมากวนไปวนมาอย่างคนนะ
    แล้วก็ไม่โชคร้ายแบบมีร่างกายดีเท่าที่มีแล้วยังทำร้ายตัวเองอย่างพวกที่เสพยามากเกินจนเป็นบ้าเป็นบอไปด้วยอะ
    (พอดีเมื่อเช้าดูข่าวคนดมกาวมากจนคลั่งฆ่าลูกเมีย และเทคยาอีจนหลอนเผาห้องชาวบ้าน+เอามีดไปจี้คอเค้ามาอะซี่)

    ตอบลบ
  8. เราไม่ตั้งใจดูเองแหละทริป :-)

    ้อ้อ นกสีน้ำเงินที่บอกอยากดู หาดูได้ยังจ๊ะ ถ้ายังไม่เจอ จะจัดให้นะ

    ตอบลบ
  9. อยากเรียกอะไรก็เรียกเุถอะค่ะ

    ตอบลบ
  10. เพิ่งซื้อหนังสือมาเล่มนึง เพราะเปิดมาหน้าแรกเขียนไว้ว่า "แมวทุกตัวมีทางเดินเป็นของตัวเอง" :)

    ตอบลบ
  11. หนังสือชื่อ "มูรี..แม่วป่วนโลก" ^.^

    ตอบลบ