วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Shiawase no Kaori : รสชาติแห่งความสุข

Rating:★★★★
Category:Movies
Genre: Drama



เชฟเก่งๆ ของร้านดังๆ เขาพยายามทำกับข้าวให้อร่อยเพราะอะไร เพื่อใครกันนะ?
เพื่อตัวเอง เพราะอีโก้สั่งให้รักษามาตรฐานความอร่อยของตัวเองไว้ อย่าให้ตก
หรือเพื่อคนอื่น?

“หวางซัง” หรือเชฟหวาง (Tatsuya Fuji) ใน Shiawase no Kaori (2008) ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ใจความว่า Flavor of Happiness ไม่ได้มีอีโก้แบบนั้น เขาปฏิเสธเทียบเชิญให้ขึ้นห้างดัง และยืนยันจะทำอาหารขายในร้านเล็กๆ ซอมซ่อของตัวเองต่อไปด้วยเหตุผลง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

เพียงเพราะเขาอยากเห็นหน้าตาคนกินเวลามีความสุข เมื่อได้กินอาหารของเขา เท่านั้นเอง

รสชาติอาหารที่ปรุงอย่างตั้งใจ ใส่ใจ แม้เป็นอาหารกลางวันง่ายๆ ราคาไม่แพงนั้น อร่อยกินใจทาคาโกะ (Miki Nakatani) จากบทบาทที่ควรเป็นคนมาจูงใจให้เชฟหวางยอมขึ้นห้าง ไปเรียกกำไรมหาศาลให้บริษัทของเธอ มากินอาหารของเขานานวันเข้า เธอกลับอาสา สมัครเป็นศิษย์รับสืบทอดวิชาการปรุงอาหารจากเชฟเมื่อเชฟล้ม และกลายเป็นอัมพฤกษ์ ยกกระทะไม่ไหวอีกต่อไป

ทาคาโกะทิ้งงานมาถือปังตอ มาจับกระทะ เพราะเธอมีเหตุผลบางอย่างของเธอ เป็นเหตุผลเล็กๆ แต่ก็กินใจมนุษย์ปุถุชนที่แสนเหงาและแสนคิดถึงใครบางคนอย่างเราๆ

ระหว่างที่ทาคาโกะเรียนรู้ คนดูก็ได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากที่รู้อยู่แล้ว ว่าความสุขของคนได้กินอาหารอร่อยๆ เป็นอย่างไร ฉันได้เห็นขั้นตอนการเตรียมอาหารจีน การหั่น การสับ การใช้ไฟ เทคนิคการใช้กระทะ และที่สำคัญ ฉันเหมือนได้สัมผัสถึงความสุขของคนทำอาหาร

แล้วก็อยากจะออกไปกินอาหารอร่อยๆ ที่คนทำตั้งใจทำให้เรากินอย่างมีความสุขขึ้นมาทันที
(มีที่ไหนจะแนะนำช่วยบอกด้วยนะ)




บันทึก:
• เพลงประกอบหนังเรื่องนี้เพราะมาก เพลง End Title ก็เพราะ นักร้องเสียงดีจริงๆ
• นักแสดงนำทั้งสองถ่ายทอดความรู้สึกได้ดีจริงๆ
• สำหรับมิกิจังนั้น ฉันอยากตบมือให้ด้วยซ้ำ ค่าที่เธอเป็นนางเอกญี่ปุ่นชั้นนำ ที่ไม่ติดกับบทนางเอ๊กนางเอกเลย (จำ Kiraware Matsuko no isshô หรือ Memmory of Matsuko ได้ไหม?) เรื่องนี้เธอทั้งผอม ทั้งโทรม ไม่สวย ไม่อะไรทั้งสิ้น แต่เธอสง่านะ ท่าทางและแววตาตั้งอกตั้งใจเวลาตั้งใจทำอาหาร
• ดูหนังเรื่องนี้แล้วไม่ใช่แค่ต่อมน้ำลายแตกอย่างเดียว แต่มันทำให้ฉันอยากเข้าครัวทำอาหารง่ายๆ ให้มีรสชาติแห่งความสุขบ้างบ้าง (ว่าแต่ใครล่ะ จะมาทำหน้าตามีความสุขเมื่อได้กินอาหารของฉัน)
• นอกจากนี้ยังทำให้ฉันตั้งใจว่า ต่อไปถ้าเลี่ยงได้ จะไม่กินอาหารจากคนที่สักแต่ทำๆ มาขายให้เรากินอีกแล้ว


17 ความคิดเห็น:

  1. ปล. โปรดหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า "ทาน" ในความหมายว่า "กิน"
    เพราะจริงๆ แล้ว ทาน ไม่ได้แปลว่า กิน

    ตอบลบ
  2. แมวสองตัวของเจ๋ไงล่ะ
    อิอิ

    ตอบลบ
  3. ..เดี๋ยวพวกมันก็ได้อายุสั้นกันพอดี

    ตอบลบ
  4. เคยอ่านรีวิวเรื่องนี้ครั้งนึงแล้ว...พอมาอ่านที่ม้อยเล่า ยิ่งตอกย้ำความอยากดูเข้าไปอีก

    ตอบลบ
  5. เค้าเก่งจริงๆอะ เคยดูโฆษณาที่เค้าเป็นพรีเซ็นเตอร์ ...สวยมากเลย แต่พอเล่นหนังปั๊บก็สวมบทบาทนั้นๆจริงๆ

    ตอบลบ
  6. ทำอาหารแล้วมีความสุข

    และมีความสุขยิ่งกว่า เมื่อคนกินอาหารที่เราทำแล้วมีความสุข

    ตอบลบ
  7. อ่านแล้วอยากซื้อมาดูทันที

    ตอบลบ
  8. ดูแล้วต้องหิวแน่ แน่อ่ะ

    ตอบลบ
  9. ไม่ดูก็หิว...ดูดีกว่า จะได้หิวให้มันสุดๆ กินข้าวอร่อยดี อิอิ

    ตอบลบ
  10. มันไม่เข้าโรงนะพี่

    ตอบลบ
  11. ้อันที่จริงเพื่อนยังตัดใจจากอาหารญี่ปุ่น (ข้าวหน้าปลาดิบ) ข้างทางในตลาดปลาที่ญี่ปุ่นไ่ม่ได้
    กลัวว่าดูแ้ล้วจะอยากบินกลับไปญี่ปุ่นเพื่อกินร้านนั้นอีก

    ตอบลบ
  12. แว่วว่า airasia จะบินกรุงเทพฮาเนดะปีหน้า เริ่มต้นที่ 25xx ค่าวีซ่าอีกพันห้า ที่พักไม่เท่าไหร่ น่าสนไหม อิอิ

    ตอบลบ
  13. บินกลับไปเลย (ยุๆๆๆ)

    ตอบลบ