วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

The Green Hornet : ฮีโร่จะดีอยู่ที่เพื่อนร่วมงาน

Rating:★★★★
Category:Movies
Genre: Comedy


แปลกใจเมื่อรู้ว่าโรงหนัง Enigma จะฉาย The Green Hornet (2011) ซึ่งถูกตั้งชื่อเป็นภาษาไทยว่า “หน้ากากแตนอาละวาด” เพราะไม่รู้จักฮีโร่รายนี้เลย (พอดีเกิดไม่ทันยุคบรูซ ลี) แถมยังดูแคลนเล็กน้อย ด้วยการคิดไปเองว่าคนดูหนังในโรงแบบนี้น่าจะชอบหนังดราม่าที่มีคลาสหน่อยไม่ใช่หรือ (หากเคยดูหนังในโรงหนังที่แพงขนาดนี้แค่ 2 เรื่อง คือ The Curious Case of Benjamin Button กับ Eat Pray Love เหมือนฉัน คุณจะคิดเหมือนกันไหมล่ะ?)

...ในที่สุดก็เข้าใจคนจัดหนังมาฉายใน Enigma มากขึ้น และได้รู้ว่า ‘หน้ากากแตนอาละวาด’ เป็นหนังที่สนุกมากที่สุดเรื่องหนึ่งในบรรดาหนังที่ได้ดูมา (ซึ่งปกติก็มักเป็นเรื่องโศก ดราม่า สืบสวน ยิ่งเครียดยิ่งบีบคั้นยิ่งชอบดู ว่างั้น)

The Green Hornet หรือหน้ากากแตนไม่ใช่ฮีโร่พลังพิเศษ เปี่ยมพรสวรรค์ หรือมีของวิเศษทำนองเดียวกับซูเปอร์แมน, สไปเดอร์แมน, ดิ เอ็กซ์เมน - - -โอเค อินทรีแดงเป็นฮีโร่ที่เป็นคนธรรมดาใส่หน้ากาก แต่ดูเหมือนโรม ฤทธิไกร จะถูกเทรนความสามารถในการรบมาแล้ว แถมยังหล่อ และเท่ ส่วนเจมส์ บอนด์ก็ทั้งหล่อ ทั้งเก่งฉลาด และมีเสน่ห์

แต่กับ บริตต์ รีด (Seth Rogen) ผู้คิดจะสถาปนาตัวเองเป็นหน้ากากแตนนั้น พูดได้ว่าไร้ศักยภาพในการเป็นฮีโร่อย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ไหวพริบ สติปัญญา ความสามารถในการต่อสู้ การใช้อาวุธ แม้แต่แผนในการ Launching เปิดตัวสู่วงการอาชญากรรมพี่แกยังต้องหลอกให้เลนอร์ (Cameron Diaz) เลขาคนสวยช่วยคิดให้เลย

เคโต้ (Jay Chou) หนุ่มจีนชงกาแฟเก่ง ผู้เป็น sidekick หรือผู้ร่วมงาน ซึ่งยังหาสมญานามไม่ได้ (ในภาคนี้?) ของเขายังจะเข้าสูตรความเป็นฮีโร่มากเสียกว่า (แต่เรายังไม่เคยมีฮีโร่ผิวเหลืองในอเมริกาเลยใช่ไหม) คือทั้งมีความสามารถในเชิงกังฟู สามารถเคลื่อนไหวรวดเร็วกว่าคนอื่นตอนที่ตัวเองหัวใจเต้นแรง ที่สำคัญคือมีความสามารถในการสร้างสรรค์นวตกรรมแปลกประหลาด ไม่ว่าจะเป็นแบล็กบิวตี้ รถดำสะเทินน้ำสะเทินบกที่ทนทายาด หรือปืนยิงยาสลบควันเขียว อาวุธประจำกายของหน้ากากแตน

เนื้อเรื่องของหนังไม่พิสดารอะไร เขาเล่าลำดับได้มีเหตุมีผล ตลกอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถเรียกเสียงหัวเราะออกมาได้จริงๆ บุคลิกของตัวละครก็ออกจะมีวิญญาณของผู้คนจริงๆ ลูกชายคนเดียว ทายาทหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ที่เติบโตอย่างลีบๆ เงียบๆ ใต้เงาตระหง่านของพ่อ ไม่รู้จะทำอะไร และเป็นแบบไหนถึงจะถูกใจพ่อ แล้วต้องอึ้ง ทำอะไรไม่ถูกเมื่อพ่อตายลงอย่างกระทันหันจากพิษของสัตว์มีเหล็กไน เด็กผู้ชายตัวโตที่ยังเพลินกับการเล่นของเล่นตัวต่อ สนุกกับการปั้นเรื่องหลอกคนอื่น และยังคงตืนเต้นตาเป็นประกายกับแผนการบ้าๆ บอๆ ..เขาจะทำอะไรดี เพื่อให้คนอื่นและตัวเองยอมรับในฐานะลูกของพ่อ

ไม่รู้ว่าเรื่องดั้งเดิมที่เอามาสร้างเป็นหนังถูกเขียนขึ้นมาเพื่อความบันเทิงล้วนๆ หรือถึงลึกล้ำถึงขั้นจะบอกว่าในเมื่อผู้ชายโหลยโท่ยอย่างบริตต์ รีด เป็นหน้ากากแตนได้ คนที่ไม่โหลยโท่นขนาดนั้น (อย่างเราๆ) ก็เป็นฮีโร่ได้


แค่ต้องหา ‘เคโต้’ ของตัวให้พบ?


หมายเหตุ
• อึ้งมาก เมื่อรู้ในภายหลังว่าผู้กำกับหนังเรื่องนี้คือ Michel Gondry ผู้กำกับ Eternal Sunshine of the Spotless Mind (2004)! แถม Seth Rogen ยังร่วมเขียนบทด้วยเสียอีก
• ชอบที่เขาเลือก Seth Rogen และ Jay Chou มาเล่น เพราะสองคนนี้ค่อนข้างจะใหม่เอี่ยม เรายังไม่ติดภาพลักษณ์ความเป็นอะไรของเขามา มีความรู้สึกว่า Seth ผู้มีบุคลิกที่ไม่โดดเด่นเป็นที่จดจำเอาเสียเลย เหมาะกับบทนี้มากๆ ส่วนเจย์ โชว์ เทรนภาษามาดีเชียว แล้วก็นะ ดีที่ยอมลดดีกรีความโดดเด่นมารับบทรอง เพราะจริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ใจกว้างมาก ให้พื้นที่เคโต้พอๆ กับหน้ากากแตนเลย
• คิดว่าเป็นหนังที่เกือบจะจัดสัดส่วนของน้ำหนักดีแล้วเชียว บทที่ให้ Diaz เล่นก็ดี ไม่มาก ไม่น้อย ไดอาล็อกก็ฉลาด ฉับไว สมกับเป็นตัวละครนั้น (ผิดหวังแค่เจ้าหล่อนหน้าเหี่ยวลงไปเยอะ) มารู้สึกว่ามันยืดยาดเอาอีตอนแบล็กบิวตี้บุกตึกหนังสือพิมพ์นี่แหละ แต่พอมาคิดดูอีกที ซีเควนซ์นี้อาจจัดมาสำหรับเวอร์ชั่น 3D โดยเฉพาะ
• ใครชอบดูหนังแอคชั่น 3D อาจจะชอบหน้ากากแตนละนะ แต่ถึงดูโรงธรรมดา (ไม่ต้องถึงกับ Enigma) หรือแม้จะดูแผ่นก็ได้หัวเราะเหมือนกันแหละ
• ประสบปัญหานิดหน่อยในการจัดประเภทหนังเรื่องนี้


11 ความคิดเห็น:

  1. ชอบที่เจ๋เขียนตะหากเล่า ^^

    ตอบลบ
  2. ..ขนาดนั้น

    เสาร์หน้าอย่าลืมสตรอเบอรี่ชอร์ตเค้กกับช็อกโกแลตมูสนะยะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ลืม
    แล้วจะต้องไปกี่โมง ที่ไหน แล้วก็เสร็จกี่โมง ??

    ตอบลบ
  4. ไปดูมายัง

    Decormart ทองหล่อ เริ่ม 10 โมง เสร็จเที่ยง

    ตอบลบ
  5. ไปไม่เป็นง่ัะ นัดที่อื่นก่อนได้ม้าย ^^"

    ตอบลบ
  6. โง่จริง ก็ดูกูเกิลแมพสิค้า

    ตอบลบ
  7. พี่หมีก็ดูเหมือนจะติดใจเรื่องนี้ เพราะมาเล่าให้เราฟังจัง เราไม่ได้ดู
    อ่านแล้วก็เพิ่มความอยากดูแฮะ :)

    ตอบลบ