วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

รู้อะไรจากดาว?

ใช่แล้ว เพิ่งกลับจากเขาใหญ่

ไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปกับ True Sphere งานนี้เขาเชิญแขกไปเที่ยวเขาใหญ่ ชมดาวและขึ้นบอลลูนในเทศกาลบอลลูนนานาชาติประจำปี

โชคดีจังเนอะ อยู่ดีๆ ก็ได้ไปนอน KIRIMAYA รีสอร์ตที่ใครๆ ก็ว่าหรู ใครรู้ก็อิจฉา (แต่อย่าอิจฉากันเลยนะ ก็ไปทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยว)

ถึงปากช่องก็รู้เลยว่าอากาศเย็นกว่าเมืองกรุง ซึ่งตอนนี้ก็เย็นลงเยอะแล้ว พอถึงคีรามายาเมื่อเวลาเที่ยงครึ่ง โอ้โห ลมเย็นพัดโชย พนักงานโรงแรมบางคนยังสวมเสื้อกันหนาวยูนิฟอร์มอยู่เลย สี่โมงก็เริ่มหนาวแล้ว พอสองทุ่มอุณหภูมิเหลือ 15 องศา-กรี๊ดดดดดด ใส่รองเท้าบู๊ตยังหนาวหน้าเท้าเลยอ่ะ

ตัวรีสอร์ตนั้นสมควรจะขายราคาประมาณนี้อยู่แหละนะ ก็ที่เขาสวยมาก (รีสอร์ต+สนามกอล์ฟ 18 หลุมอยู่เชิงป่าเขาใหญ่) งานภูมิสถาปปัตย์สวย ทั้งไม้น้ำและไม้ใหญ่ ออกแบบตึกเอย ห้องเอย ล้วนสวยไปทั้งสิ้น

สิ่งที่อยากจะชมเป็นพิเศษคืองานรับเหมา เพราะเท่าที่ตรวจดูรายละเอียดงานเล็กๆ น้อยๆ ไม่มีหลุดเลย ช่างทำงานเรียบร้อยดีมาก แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ก็เรียบร้อย แม่บ้านก็ทำความสะอาดดี อายุรีสอร์ต 2-3 ปี แต่ใหม่+สะอาด เหมือนเพิ่งเปิดเมื่อต้นปี

เสียดายไม่มีโอกาสชมวิลล่าที่ทำเป็นเต็นท์สีขาวหลังใหญ่ ไฮไลท์ของเขา
ไม่เป็นไร อาจได้กลับมาใหม่ในโอกาสหน้า

ตามกำหนดการแล้ว True มีกิจกรรม Art Therapy, ดูดาว แล้วก็ขึ้นบอลลูนชมป่าเขาใหญ่ ซึ่งก็ได้แจมแต่ละกิจกรรมไปอย่างกระพร่องกระแพร่ง จากกิจกรรมศิลปะทำให้ได้เสื้อยืดลายประหลาดที่เราวาดเองกลับมาตัวนึง ส่วนการขึ้นบอลลูนนั้น ทั้งที่วาดหวังไว้ว่าจะมาถ่ายรูปมุมจากบอลลูนตอนอยู่เหนือน่านฟ้ากลับไป แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ขึ้น เพราะ หนึ่ง ชาวคณะเรามาถึง(กองพันทหารสุนัข-ที่ไม่เจอะสุนัขทหารซั๊กตัว-เจอะแต่คนๆๆๆ)สาย บอลลูนขึ้นไปเกือบหมดแล้ว (ขนาดตื่นกันตีห้านะเนี่ย) สอง เห็นใจพีอาร์ทรูเขา เพราะการขึ้นบอลลูนนั้นไซร้ มันเป็นการผจญภัยที่ไม่รู้อนาคต ถ้าเกิดลมพัดไปลงในป่าเขาใหญ่ จะลำบากคนตามเก็บแค่ไหน ด้วยเหตุนี้ ก็เลยยืนดูแต่ข้างล่าง วิ่งๆๆๆ เก็บภาพอีตอนเค้าเป่าลมเข้าไปในบอลลูนซะก่อน แล้วก็จุดแก๊สฟู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (ร้อนดีมาก) เพื่อให้มันเริ่มพอง พอง พอง พร้อมจะลอยขึ้น

ยังดีที่พอมีรูปตอนมันลอยขึ้นไปนิดหน่อยมาให้ดู

กิจกรรมที่สะดุดใจคือการดูดาว อาจารย์ชัยพงษ์ รังสุวรรณ จากภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ ม.ขอนแก่น มาบรรยาย (สนุกนะคะอาจารย์) วิธีการดูดาวเบื้องต้น ประกอบวิธีใช้เข็มทิศ แผนที่ดาว และไฟฉาย มีอยู่ตอนนึง อาจารย์เล่าเกร็ดว่า แสงดาวบางดวงที่เราเห็นน่ะ มันต้องเดินทางมากี่แสนแสงปีไม่รุ ดาวดวงนั้นในเวลาเดียวกันนี้จะเป็นอย่างไร ยังสว่างอยู่หรือว่ามืดดับไปแล้ว ต้องรอดูใหม่ในอีกหลายๆ ปีแสงข้างหน้า
ดังนั้น สิ่งที่เรากำลังมองกันอยู่ก๊อคือภาพประวัติศาสตร์เมื่อหลายแสนปีแสงของดาวดวงนั้น
อาจารย์ยังให้ดูรูปอันใหญ่โตของจักรภาพ ระบบสุริยะ และขนาดของดาวต่างๆ ในระบบสุริยะที่เอามาเปรียบเทียบกันด้วย

....
ดูแล้วก็เกิดความสงสัยขึ้นในใจนะ ว่า
มนุษย์เรานี้ช่าง 'เล็ก' จัง อายุก็แสนสั้น
ตลอดชั่วอายุของเราจะใช้เรียนวิธีการคำนวณวงโคจรของดาวหาง xxx ติดตามศึกษาพฤติกรรมของดาวดวงนึง ทางช้างเผือก หรือดักฟังคลื่นวิทยุที่ส่งมาจากดาวอะไรสักดวงได้สักกี่มากน้อย?
ถ้าเป็นอย่างนี้เราจะเรียนเรื่องดวงดาว จักรวาล และอวกาศไปทำไมกันนะ?

ก็แอบเก็บคำถามนี้ไว้ กะว่าถ้าเจออาจารย์แบบเป็นส่วนตัวตอนดูดาว จะถามดูสักที แต่ก็ยังหวั่นๆ เกรงว่าจะเป็นคำถามที่ดูหยาบคาย ไม่เหมาะสมจะหลุดจากปากสตรีหน้าหวานที่อาจารย์เพิ่งได้รู้จักเป็นครั้งแรก
ก็เลยแอบไปถามเอากับน้องนักศึกษาที่มาช่วยอาจารย์

น้องเค้าบอกเป็นแนวๆ ว่า เราเรียนเรื่องดง
ดาวเพื่อจะได้ศึกษาหาเพื่อน (หมายถึง alien น่ะค่ะ) ทว่า น้องเขาก็ยังมีข้อสังเกตว่า "ซึ่งถ้าเพื่อนของเรามีความเจริญทางเทคโนโลยีเท่ากับเรา เราก็คงไม่ได้เจอกัน" ดิฉันขอขยายความต่อว่า น้องเขาหมายถึงว่า ต้องให้เค้าเจริญกว่ามากๆๆๆๆๆๆ หลายๆ ขุมโน่นแหละ ถึงจะได้ปรากฏตัวให้เราเห็นได้ หรือสามารถเดินทางมาหาเราได้เร็วกว่าการเดินทางของแสง


ว่าแล้วดิฉันก็ถามต่อ แล้วน้องเชื่อไหมคะ ว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง
คุณน้องให้คำตอบได้เป็นผู้ใหญ้-ผู้ใหญ่ค่ะ (คือไม่ฟันธง) แกตอบว่า "จากข้อมูลก็เป็นได้ครับพี่"

(โธ่ น้องคะ พี่ถามว่า 'น้องเชื่อไหมว่ามีจริง' ไม่ได้ถามว่า 'มันมีจริงไหม' ซะหน่อย)






ป.ล. แม้เขาใหญ่จะอากาศดี แต่ท้องฟ้าแจ่มไม่ได้ถึงครึ่งของฟ้านอกเมืองสุราษฎร์ธานี ที่ได้เห็นบ่อยๆ นอกจากนี้ คงไม่มีท้องฟ้าไหนจะมีดาวมากมายกว่าฟ้าเหนือป่าแก่งกรุงที่เคยเห็นตอนไปค่ายกับพี่อนุรักษ์เมื่อตอนปี 1 ซึ่งยังเป็นภาพที่จับอยู่ในใจจนทุกวันนี้
คืนนั้นดาวดวงใหญ่ ส่งแสงอย่างกับแข่งกัน แสงดาวพร่างพราวตาจนทำให้นอนไม่หลับ ต้องออกมานั่งนับดาวผิงไฟแก้หนาวกันจนค่อนคืน

นอกจากนี้ อากาศหนาวเย็นและน้ำค้างที่ตกลงมาอย่างโหดไม่เอื้อให้ประชาชีมีฟีลลิ่งอยากจะค้นหาดวงดาวกันสักเท่าไหร่ เหมือนจะเห็นช้าดดดดดเจนอยู่กลุ่มเดียวคือ cassiopea ซึ่งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางฟ้าในเวลานั้นพอดี
เอาไว้ไปแก้ตัวใหม่กับดาวเหนือฟ้าป่าทีลอซูต้นเดือนหน้าละกาน




18 ความคิดเห็น:

  1. ข้อดีของการเดินทางทริปนี้

    * อยู่ดีๆ ก็ได้มานอนค้างที่คีรีมายา
    * ได้รู้ว่า ต้องหนาวแค่ไหนถึงจะคู่ควรกับคำว่า "หนาว"
    * ได้พบว่า รีสอร์ตหรูใช่จะทำอาหารอร่อย
    * ซึ่งนั่นหมายความว่า รีสอร์ตไม่หรูอาจะมีของอร่อยจนคาดไม่ถึง
    * ฉะนั้น อย่าพึงด่วนประเมินค่ารีสอร์ตที่ความหรู หรือราคาห้องพัก หรือยี่ห้อรถลิมูซีน
    * ได้เรียนรู้ว่า ถ้าไม่เคยมือกันมาก่อนก็ไม่ควรเลือกนวดไทยแบบสุ่มสี่สุ่มห้า
    * ได้รับแจกเข็มทิศ ของที่อยากได้มานาน แต่ไม่เคยคิดจะซื้อ
    * ได้ฟังพี่โต๊งเหน่งร้องสดๆ ใกล้ๆ เสียงดีจังค่ะ ร้องเก่งด้วยค่ะ คอสตูมก็สวยนะคะพี่
    * ได้เพ้นท์เสื้อยืดตัวแรก สำหรับตัวเอง
    * ได้เห็นดางหางกลุ่มใหม่ที่นักดาราศาสตร์เพิ่งเจอเมื่อเดือนก่อน
    * ได้หัวใจเต้นแรง(เพราะหนุ่มนะ ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นตกใจกลัวสิ่งใด) หลังจากเต็นแบบเฉยชา-เฉยชา-(และ)เฉยชา มาพักใหญ่
    * แม้มันจะเต้นแบบนั้นอยู่ไม่ถึง 48 ชั่วโมงก็ตามที

    ตอบลบ
  2. พ้อนเคยเดินไปดูดาวบนเขาหลวง ... สวยมาก ดาวเกลื่อนฟ้าเลยล่ะ ทั้งที่เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง กับอีกทีตอนที่มหาวิทยาลัยเปิดใหม่ของพ้อนไฟดับตอนปีหนึ่ง ... ดาวสวยมากๆ เห็นทางช้างเผือกเป็นครั้งแรก
    และ
    เวลาว้าวุ่นใจเพราะคิดว่ามีปัญหาใหญ่หนักอึ้ง วิธีที่ใช้บ่อยตอนเป็นเด็กคือ ... ยืนดูดาวบนท้องฟ้า .. ให้สำนึกตัวได้ว่า เราและปัญหาที่เจอมันกระจอกขนาดไหน หรือ ไปยืนดูทะเล เพื่อให้เห็นว่า เรานี่มันช่างเล็กน้อยเสียจริง ^ ^
    """

    ตอบลบ
  3. เคยอ่าน joke ใน reader digest เกี่ยวกับป้ายประกาศกึ่งเชิญชวนที่น่าสนใจจนต้องเอามาเล่าต่อ ป้ายที่ว่าแปะไว้หน้าท้องฟ้าจำลองแห่งหนึ่ง บอกว่า
    "เชิญแวะเข้ามาดูเราก่อนสิ เจ้าสิ่งมีชีวิตกะจิริดที่แสนจะไร้ค่าในจักรวาล"
    อ่านเรื่องของน้องข้างล่างแล้วนึกขึ้นมาได้

    ตอบลบ
  4. ไม่รู้ความคิดค้อมยอมรับ และเจียมตัวต่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเยี่ยงนี้จะเคยอยู่ในหัวพวกขี้กร่างบ้างไหม

    ตอบลบ
  5. -_-
    ....
    เป็นข้อความที่ดุได้ใจมากค่ะ ^ ^

    ตอบลบ
  6. ถือเป็ลคำชมนะพ้อนจัง

    ตอบลบ
  7. โอ๋ย...
    อ่านไปๆ ต่อมโรแมนติกมันจี้ด

    นึกถึงเวลาไปนอนดูดาวอยู่บนดอย
    แล้วมีคนเล่นกีตาร์
    เพลง"...คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนฟ้า..."

    ขอบคุณพี่ม้อย
    ที่สร้างบรรยากาศให้ระลึกถึงคืนวันดีๆ

    ตอบลบ
  8. อ่อ
    อ่านเรื่องชั้นแล้วต่อมโรแมนติกจี๊ด
    ...
    ช่วงนี้แม่หมูอารมณ์อ่อนไหวเป็นพิเศษ
    น่ากลัวจะมีน้องหมูตัวใหม่จัง

    ตอบลบ
  9. ถ้าเป็นผู้หญิง ตั้งชื่อว่า เด็กหญิงผิงดาว ดีไหม
    ชื่อเล่นน้องขนมผิง

    อ่ะ พูดเล่นจ้ะ
    งงตัวเองเหมือนกัน
    คิดว่าช่วงนี้ที่อารมณ์อ่อนไหวเป็นพิเศษ
    เพราะลมหนาวมันเย็นกว่าทุกปีมั้ง
    สนุกกับการทำตัวตามฤดูกาล หวิวๆ ไหวๆ เล่น
    เพิ่งไปซื้อเสื้อไหมพรมสีหวาน มาใหม่อีกสองตัวแหละ (เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าอยากใส่เสื้อหนาวในกรุงเทพ)
    อ๋อ แล้วเป็นภาวะอารมณ์ที่คลี่คลายกับบางสิ่งบางอย่างที่มันมาคุมานานมั้ง
    คล้ายๆ ทะเลสงบหลังสึนามิ..ประมาณนั้น

    ตอบลบ
  10. ...อยากมีอีกคนจริงหรอแก?

    ตอบลบ
  11. ก็เฉยๆ นะ
    ตอนนี้ยังอยากรักลูกหมูคนเดียว
    รักมากๆ รักเยอะๆ รักยังไม่ต้องแบ่งให้ใคร


    มีลูกสองคนต้องปวดหัวกว่ามีคนเดียวแน่ๆ

    ตอบลบ
  12. มีลูกสองคนอาจจะปวดหัวน้อยกว่ามีผัวสองคนนะคะน้อง

    ฮี่ๆ


    (แกๆ สถานีวิทยุเค้าเปิดเพลงคริสมาสต์แล้วว่ะ)

    ตอบลบ
  13. ปีนี้ตอนปีใหม่จะมีระเบิดอีกไหม?

    ลมเย็นๆ อยากพาลูกหมูไปเดินเล่น ไปดูไฟในเมือง
    แต่ยังแหยงๆ อยู่อ่ะ
    แถวราชดำริ สยาม เค้าเปิดไฟคริสต์มาสกันหรือยัง
    ช่วยส่งข่าวด้วย นานๆ ได้เข้าเมืองที

    ตอบลบ
  14. แกคะ
    ชั้นไม่ใช่พีอาร์กลุ่มก่อการร้ายนะยะ
    ไม่ได้มีเพื่อนชายอยู่โต๊ะข่าวอาชญกรรมหรือมีกิ๊กอยู่สายทหารด้วย
    จะได้รู้ว่าเค้าจะบึ้มไปบอมบ์ไรกันที่ไหน เมื่อไหร่

    เรื่องไฟ ชั้นก็บ้านนอกเหมือนแก แต่อาทิตย์ก่อนไปเอสปลานาด เค้าเปิดไฟหน้าห้างแล้วนะ
    ในโรบินสันรัชดาเดาะเปิดเพลง "สวัสดีวันปีใหม่พา" ซะด้วย
    เชื่อว่าราชประสงค์ติดไฟแล้วล่ะ

    ตอบลบ
  15. อาจารย์บรรยายเรื่องสุริยะได้สนุกจริงๆ แต่อากาศหนาวจนควันออกปากเลยเชียว

    ตอบลบ
  16. การที่เราดูไปในความกว้างไม่มีที่สิ้นสุดของจักรวาล ทำให้เรามองเห็นว่ามนุษย์คือฝุ่นอณูหนึ่งเท่านั้นไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลย
    เราจะได้เลิกคิดว่าตัวเองใหญ่ในกะลากันสักที สุดท้ายก็แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ชีวิตคือวูบเดียวจริงๆ นะ

    ตอบลบ
  17. มาใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากันเหอะ

    ตอบลบ