วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552

5x2 (cinq fois deux) : หนังเรียกน้ำตา

Rating:★★★★★
Category:Movies
Genre: Drama



และแล้ว François Ozon ผู้กำกับ Swimming Pool ก็ทำร้ายหัวใจสาวโสดที่ยัง(แอบ)มีความฝันซึ่งดิสนีย์ยัดเยียดมาให้ตั้งแต่จำความได้ ที่ว่า..แล้วเจ้าชายกับเจ้าหญิงก็ครองรักกันตลอดไป


ก็รู้นะว่าชีวิตจริงมันไม่ได้จบอย่างนั้นเสมอไป แต่..ต้องทำกันขนาดนี้เลยหรอ?


เปล่าหรอก 5x2 (2004) ไม่ได้เฆี่ยนตีหัวใจคนดูด้วยแส้หนัง ไม่ใช่ทั้งก้านมะยม
ไม่ได้ใช้ไดอาลอกรุนแรงสะเทือนหัวใจคนดู ไม่ใช่ทั้งภาพการใช้กำลังทำร้ายกัน

เขา่แค่เล่าเรื่องของคู่รักคู่นึงที่ไปไม่รอด

เล่าง่ายๆ เริ่มจากตอนจบ ไล่ไปจนจุดเริ่มต้น


ที่มันเรียกน้ำตาได้มากนัก คงเป็นเพราะหนังมันค่อยๆ พาเราออกจากความทุกข์ ไปจบเอาตอนเริ่มต้นอันแสนสุขนี่ละมั้ง?








บันทึก:
-ด้วยความเคารพรายละเอียด(ม้าก-มาย)ในชีวิตสมรส อิฉันไม่ได้ต่อต้านหรือสนับสนุนการหย่า แต่คิดว่าถ้ายังอยู่ด้วยกันแล้วปวดใจมากจนหาความสุข ความสงบไม่เจอ ก็หย่าแล้วแยกกันไปเถอะ ในทางกลับกันถ้าความสุขยังพอหาได้ ลองปรับปรุงความสัมพันธ์ดูก่อนก็ดี
-ถ้าคุณดูหนังเรื่องนี้แล้วไม่คิดถึงตอนเริ่มต้นของคุณกับคนรักที่จบความสัมพันธ์กันไปแล้วเลยละก็
...แปลว่าคุณลืมได้แล้วจริงๆ
-ผู้กำกับใจร้ายมาก เรื่องนี้เขาเขียนบทคู่กับ Emmanuèle Bernheim
-นางเอก Valeria Bruni Tedeschi ได้ Best Actress จาก 2004 Venice Film Festival
-เป็นหนังฝรั่งเศส ที่ฝรั่งเศ้ส ฝรั่งเศส ผู้กำกับแอบถามท้าคนดูอีกตามเคย-ใช้ชีวิตคู่กันแล้วทำไมต้องซื่อสัตย์?
-อยากได้ OST
-กราบขอบคุณสปอนเซอร์คนสวย ขอโทษที่ดองนาน จะส่งคืนในเร็ววันนี้ฮะ



(-ทำไมเราต้องเลือกหนังเรื่องนี้มาดูก่อนไปงานแต่งด้วยวะ?)



56 ความคิดเห็น:

  1. เพลงไม่เกี่ยวกับหนัง แต่คำถามนี้มันเจ็บปวดดี
    Que reste-t-il de nos amours?

    ตอบลบ


  2. อยากดูมั่งจังม้อย

    ตอนนี้ รู้สึก อยากแต่งงาน 555

    ตอบลบ
  3. ดูแล้วจะไม่อยากแต่งอะสิพี่ หุ หุ

    ตอบลบ
  4. ดูแล้วเรื่องนี้
    รู้สึกถึงความเป็นหนังฝรั่งเศสม้ากมาก (ชอบนะ)

    ถ้าอยากดูเรื่องราวแบบนี้เวอร์ชั่นฮอลลีวูดต้องไปดู Story of Us
    แต่เราชอบเรื่องนี้มากกว่าอยู่ดี
    ตอนดูไม่ได้นึกถึงจุดเริ่มต้นของความรักที่จบไปแล้ว
    แต่นึกถึงจุดเริ่มต้นของความรักที่กำลังดำเนินอยู่ตอนนี้ .. (ด้วยความกลัวจุดจบ)

    ตอบลบ
  5. อย่าไปกลัวน้องจี้
    ดื่มด่ำกับปัจจุบันขณะไป
    ถ้าวันนั้นมันมาถึงจริงๆ ก็ให้มันเป็นอย่างในเพลงนี้นะ
    v
    v
    ...อย่างน้อย เธอก็ทำให้ฉันรู้ว่าเคยมีความสุขเพียงใด
    ได้เป็นคนที่เธอเคยรักก็ดีแค่ไหน

    ตอบลบ
  6. เรื่องนี้ซื้อเก็บไว้....อยากดูแต่ไม่กล้าหยิบมาซะทีเพราะเคยอ่านรีวิวเรื่องวิธีเดินเรื่องนี่แหล่ะ

    เค้าไม่กล้าดูเพราะมันใจร้ายเหมือนการย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้น...ซึ่งคนเราจะคิดงั้น ส่วนใหญ่ก็ตอนเลิกกันน่ะ

    :P

    ตอบลบ
  7. หนังมันไม่ได้ดูใจร้ายนะ
    แต่ทำร้ายความรู้สึกโคตร ๆ

    ตอบลบ
  8. เห็นด้วย
    เราว่าหนังเรื่องนี้ถูกเล่าอย่างเย็นชาด้วยซ้ำ
    ไม่ได้ใส่ความคิดเห็นแนวชี้นำของผู้กำกับเลย
    แค่ตบหน้าคนดูด้วยเหตุการณ์ ๕ ช่วงนั่นเท่านั้น

    เราว่าโม่ไม่น่าต้องกลัวไปก่อน
    ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่มันมี details ต่างกัน
    factors ต่างๆ ก็ต่างกัน
    เชื่อว่าถ้ายังมีความรักเป็นพื้นฐาน เป็นทุนเดิม
    อะไรๆ ก็ยังพอเคลียร์ได้นะโม่

    ตอบลบ
  9. ู^
    อารมณ์แบบหนังฝรั่งเศสเต็มๆสินั่น

    เราน่ะดูอะไรแบบนี้แล้วจิตจะห่อเหี่ยวหลังจากดูเป็นระยะๆ
    เราไม่ค่อยได้เอามาเปรียบกะตัวเองหรอกนะม้อย
    เพราะมันก็อย่างที่ม้อยบอกว่าความสัมพันธ์ของแต่ละคู่มันมี details ต่างกัน

    แต่ไอ้ความห่อเหี่ยวนี่มันค้างนานน่ะ (ราล่ะเบื่อตัวเอง)
    ต้องช่วงกล้าแกร่งถึงจะอยากดูหนังแบบนี้

    ตอบลบ
  10. งืมม์

    เราเองเสาร์อาทิตย์นี้ก็เสียน้ำตาไปเยอะมากเรย


    ตอบลบ
  11. ไม่ได้ดู บอกตามตรง เห็นหน้าหนังก็เบื่อแล้ว
    มันดูราวกับพวกยุโรป ทำหนังคู่รักเป็นแต่การเล่นสัมพันธ์เชิงชู้ไปเรื่อย

    ผมชอบหนังตอแหลมากกว่า หนังที่เรารู้ว่ามันโคตรตอแหล
    แต่กลับสนุก แม้เราไม่เชื่อในสิ่งที่หนังบอกเลย
    อย่างหนังของคาเมรอน โครว์ หนังอย่าง ไฮ ฟิดอลลิตี้
    เพราะหนังพวกนี้ มันให้ความหวัง ท่ามกลางโลกที่เลวร้าย

    ปล่อยไอ้พวกฝรั่งเศสมันหมกมุ่นไปเถอะ

    ตอบลบ
  12. อ้อหรอ...ขอบคุณนะจ๊ะที่แจ้ง

    อิฉันละ ชอบหนังฝรั่งเศสมาก
    แล้วก็ไม่เชื่อด้วย เรื่องที่ว่ามนุษย์เป็นสัตว์ผัวเดียวเมียเดียวน่ะ

    ตอบลบ
  13. แต่ขอโทษนะ อิฉันว่าทัศนคติแบบนั้นมันทำให้เราเหมือนว่ายอยู่ในบ่อแหละ

    ไม่มีทางรู้ว่าคลื่นในทะเลมันเร้าใจแค่ไหน

    ตอบลบ
  14. ออกจากกะลาแล้วจะเห็นว่าโลกมันกว้าง

    ตอบลบ
  15. ดูท่าคุณท่าจะเป็นคู่เถียงที่สนุกแน่ คุณม้อย แนวคิดเรื่อง "กะลา" และ "โลกกว้าง" นี้ น่าสนใจ น่าสนใจ
    ที่ผมว่าจริงหรือ? ผมกำลังจะถามว่า เรา ซึ่งขออนุญาตเหมารวมว่าทั้งคุณและผม รวมถึงผู้คนบนโลกไซเบอร์นี้
    ออกจากกะลาแล้วจริงๆ จนมองเห็นว่า "เอ้อ เบื้องนอกมันช่างกว้างใหญ่ขนาดนี้เีชียว"

    ผมชอบเที่ยว ชอบไปสถานที่แปลกๆ และบางครั้งก็ไปซ้ำมากกว่าครั้ง
    แต่ผมไม่เคยมองว่าการได้พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตา จะทำให้รู้จักโลกลึกซึ้ง
    หากเพียงหัวใจเราเอง ยังมองไม่เห็น

    ผมเชื่อเรื่องการเดินทางใน "โลกภายใน" มากกว่า
    ไม่รู้ว่าโดยนัยของคำนี้ คือ กะลาครอบ รึเปล่านะ?

    เพราะผมไม่ค่อยชอบพวกเด็กหนุ่มสาวรุ่นใหม่
    ที่ดูถูกแนวความคิดคนโบราณว่าคร่ำครึ แต่ตลกที่พอกระแสท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บูม
    ก็ทำเป็นเฮกันไป ทว่าผมไม่เคยเห็นนักเที่ยว หรือจะเรียกตัวเองว่านักเดินทางก็ได้นะ
    ไปแวะเวียนดูด้านหลังของตลาดสามชุก นั่งนิ่งๆ ห่างไกลจากสภาพอึกทึกพลุกพล่านของอัมพวาเท่าไหร่

    มีคำพูดหนึ่ง ซึ่งผมได้ยินคนอัมพวาพูดกัน ขำมากๆ อาจไม่เกี่ยวโดยตรงต่อทัศนะเรื่องกะลาและโลกกว้างที่เราเถียงกัน
    เขาพูดไว้ว่า "เห็นโฆษณาที่แม่มันบอกเงินยี่สิบบาท ซื้อข้าวยังไม่ได้ ทำไมจะซื้อประกันให้ลูกไม่ได้ป่ะ ให้มันมาที่นี่เด่ะ ยี่สิบบาท ซื้อได้สองจาน"

    เหตุและผล ที่ผมยกเอาเรื่องนี้มาคุยนั้น ก็แค่จะบอกว่า แต่ละชนชาตินั้นมี "ราก" ที่แตกต่างกัน และคำว่าแตกต่างกันไม่ได้หมา่ยความว่า อีกฝ่ายนั้นอยู่ในกะลา อีกฝ่ายไม่เคยโผล่พ้นออกมาดูโลกกว้าง

    มิใช่ทัศนคติแบบนี้หรือ? ที่ฝรั่งเศสเอามาใช้ครอบคนเวียดนาม จนเขาไม่มีภาษาตัวเขียนดั้งเดิมของตัวเอง

    ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนเสมอครับ

    ตอบลบ
  16. ไม่มีอะไรจะแลกเปลี่ยนหรอก คุณนักเขียน

    ใครใคร่เสพอะไรก็เสพกันไปละกัน

    มีสิทธิจะแสดงความคิดเห็นก็แสดงความคิดเห็นกันไป
    แค่อย่ามาเบียดบังสิทธิของคนอื่นก็พอค่ะ

    ตอบลบ
  17. อีกอย่าง กะลาของแต่ละคนก็ใหญ่ไม่เท่ากันอีก

    ...เฮ่อ

    ตอบลบ
  18. ภายในกับภายนอก เราว่ามันพอกันนะ

    เหมือนคนอยู่ในเหตุการ์ณสงคราม แต่เราๆมักจะชอบมาเคลมว่า
    คนใน คือคนที่รู้ดีที่สุด
    ถ้ามองอีกมุมคนในมักจะเต็มไปด้วยอคติบังตา ทำให้มองเหตุการณ์บิดเบือนได้ง่าย
    ในขณะที่นักเที่ยวเดี๋ยวด๋าว ตามกระแส ผ่านมา
    เป็นการมองแบบภายนอก จะได้อย่างอื่นที่คนในไม่มี


    ประเด็นก็คือ เราว่า หนังแบบประโลมโลกเชิดชูรักแท้ หรือ หนังแบบหมกมุ่นความรักใคร่ชู้สาว
    ทั้งหมดก็มีฐานอยู่ที่ การอธิบายเรื่องของมนุษย์
    หากอยากจะรอบด้านก็ลองมองการอธิบายหลายแบบก็ได้

    มากกว่าที่จะเคลมว่า แบบไหน ดีกว่า (เพียงแบบเดียว)

    ..............................

    มันอคติเกินไปมิใช่หรือ
    ที่จะย้ำและเหมาว่า หนังฝรั่งเศส ที่เอาแต่ พูดเรื่องรักเป็นแต่การเล่นสัมพันธ์เชิงชู้ไปเรื่อย

    เป็นเรื่องหมกมุ่น ไม่น่าสนใจ
    มนุษย์ก็งี้แหละ

    ตอบลบ
  19. คุยอะไรกันอ่ะ
    หนัง 5x2 (cinq fois deux) : หนังเรียกน้ำตา
    มิใช่หรือ?
    ...
    เข้าประเด็นดีกว่า
    เราชอบดูหนังนะ...ไม่ว่า จะจีน ไทย ลาว แขก
    แต่เราจะไม่ไปวิจารณ์ว่าหนังของประเทศนั้นๆ เป็นงั้น เป็นงี้
    หรือหนังเรื่องนั้น...มันน่าเบื่อ...ห่วยแตก...หรือคง...เอา...กันทั้งเรื่อง

    เพียงแค่...เห็นปก

    เราจะวิจารณ์ว่าหนังเรื่องนั้น...ประเทศนั้น...ดีหรือไม่
    เราคงดูจนจบ (และอาจจะมากกว่าหนึ่งรอบ) แล้วค่อยวิจารณ์
    เหมือนอย่างเรื่อง...ME YOU THEM...(หนังบราซิล)
    ที่เราเรียกกันเล่นๆ ว่า ญ 3 ผ ( หญิง 3 ผัว ) นั่น
    ถ้าไม่ได้ดูกับตา...เพียงแค่เห็นปกกับคำโปรย อีกนิดหน่อย
    แล้วเอามาคิดเอง เออ เอง ว่ามันเป็นยังงั้น ยังงี้

    เราว่า... มันจะใจแคบ ไปหน่อย ฮะ

    ตอบลบ
  20. เอ่อ..นอกเรื่องนิดฮะ

    เงินยี่สิบบาท

    ไม่ต้องไปอัมพวาหรือตลาดสามชุกก็ได้ฮะ
    หลังมอ( มหาลัยเชียงใหม่)
    ข้าวไข่เจียวกล่อง 10 บาทเองฮะ( อิ่มได้ )

    ไม่เจียวธรรมดาด้วยฮะ...สารพัดจะเจียวเลยฮะ ;)

    ตอบลบ
  21. อ้อ...อีกนิดดดดดดดดดนึงฮะ...:)
    ข้าวสารพัดจะไข่เจียวนั้นพิเศษ...15 บาทฮะ
    (เห็นคนแถวนี้อยากกิน) หุหุ

    ตอบลบ
  22. เอ๊ะ เจ้าชายน้อยว่าไงนะฮะ

    ตอบลบ
  23. อุ๊ยตาย..เจ้าชายน้อยวรรณกรรมฝรั่งเศสนิหว่า

    ตอบลบ
  24. "สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตา"

    ตอบลบ
  25. เดี๋ยะก็เจอ..ชายน้อย...แห่งบ้านทรายทองล่ะฮะ
    ...
    อ่ะ...ล้อเล่น

    ตอบลบ
  26. ...ชะอุ๋ย!

    น่ากัวทั้งชายน้อย-ชายกลาง

    ตอบลบ
  27. พอดีผมไม่ใช่นักวิจารณ์ครับ คุณจะว่าผมใจแคบ หรือเป็นกบในกะลา ก็ไม่ว่ากัน ผมยอมรับ

    ผมเอ่ยอย่างกัดหยิกต่อหนังฟากฝั่งยุโรปที่มักสร้างและอิงแต่สัมพันธภาพที่ไม่มั่นคงของคู่รัก
    ถ้าพวกคุณว่ามันติสต์ ก็แถลงสิครับ ว่านัยยะของการสร้างหนังนั้น คืออะไร?
    เศร้า ทำไมถึงเศร้า

    ที่เข้ามานี้ ก็เพราะชอบข้อเขียนของคุณม้อย อ่านแล้วได้ "มุมมอง"

    แต่กระนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะชอบในหนังที่คุณม้อยหยิบมาเขียนนี่ครับ
    ผมเขียนรึเปล่าว่าคุณม้อยห่วย ไม่ดี ผมพูดถึง ทัศนคติของการสร้างงานศิลปะ
    ของพวกยุโรป โดย ณ กระทู้นี้ คือฝรั่งเศส ถ้าคุณไม่เห็นด้วยว่าไอ้ทัศนคติผมมันแคบ
    ก็แย้งสิครับ ไม่ใช่มาแบบ เอ่อ เพียงแค่เห็นปก คำโปรย ก็ไม่ดู

    เพราะถ้าคุณกำลังจะบอกว่าผมตัดสินงานศิลป์ที่หน้าตา และรู้ข้อมูลเพียงเลาๆ
    งั้นผมจำตองไปดูหนังอย่างผีตุ๋มติ๋มด้วยป่ะ ถึงจะบอกได้ว่ามันห่วยหรือไม่ห่วย

    หรือถ้าบอกว่าผมชอบหนังอย่าง In The Mood For Love และ Before Sunset ที่เล่นกับประเด็นเรื่องรักซ้อน
    และการคบชู้เหมือนกัน ถึงจะบอกได้ว่าความคิดผมไม่กะลา งั้นหรือครับ?

    เซ็งตาย

    แต่ก็นะ สงสัยผมคงต้องไปหามาดูซะแล้ว
    เผื่อกะลาจะได้เปิด ซะมั่ง

    ตอบลบ
  28. อ้อ อีกนิดดดดดดส์

    ทำไมเราต้องซื่อสัตย์?
    สำหรับผม เพราะผมเชื่อว่าสิ่งเดียวที่ค้ำจุนสังคมและโลกได้
    คือความรักของคนสองคน

    ก็นะ คงอย่างที่คุณว่า กะลาแต่ละคนมันไม่เท่ากันน่ะแหละ

    ไปดีกว่า

    ตอบลบ
  29. ทั้งเรื่องความซื่อสัตย์และรสนิยมในการเสพงานศิลป์มันเป็นเรื่องส่วนบุคคล
    ด้วยความเชื่อว่าคนทุกคนเป็นคนดี อิฉันจึงเชื่อว่าใครๆ ก็ไม่อยากเป็นคนไม่ซื่อสัตย์
    แต่ว่า

    มันก็ไม่เสมอไปที่คนเราจะตั้งอยู่บนความซื่อสัตย์ได้
    แต่ทั้งนี้ ใช่ว่าอิฉันจะนิยมการไม่ซื่อสัตย์หรือนอกใจ

    แล้วใครจะซื่อสัตย์หรือไม่ซื่อสัตย์ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา
    ซื่อสัตย์ก็ดีไป จงภูมิใจ
    ไม่ซื่อสัตยก็เรื่องของมึง
    อิฉันไม่เห็นความจำเป็นของการต้่องมาประกาศให้โลกรู้ว่า กูเป็นคนซื่อสัตย์

    หนังฝรั่งเศสและหนังยุโรปมีเสน่ห์น่าประทับใจอย่างหนึ่งในความรู้สึก
    คือเขาซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง
    ที่จะนำเสนอบางประเด็นที่เป็นจริง ซึ่งหนังเอเชียหลบๆ เลี่ยงๆ มาตลอด

    ส่วนถ้าใครไม่ชอบก็เรื่องของเขา
    ในเมื่อมีแบ็คกราวนด์ต่างกัน ประสบการณ์ต่างกัีน
    รสนิยมในการเสพอะไรๆ ของคนเรา ไม่มีทางเหมือนกันอยู่แล้ว

    ตอบลบ
  30. อ้าว ...ไปแล้วหรอ
    งั้นที่เขียนมาตั้งยาว ใครจะอ่านวะ?

    ตอบลบ
  31. เออ แล้วโลกมันก็อยู่มาได้ตั้งนาน
    โดยมีทั้งคนดี-เลว ซื่อสัตย์-อสัตย์ ตงฉิน-คอรัปชั่น
    ผู้ชาย-ผู้หญิง-เกย์

    ก็ไม่รู้ว่าใครค้ำจุนมันอยู่อะนะ โลกน่ะ
    ซาตานมั้ง?

    ตอบลบ
  32. น่าจะจำเป็น ถ้าถึงกับจะบอกว่าหนังเขาห่วยหรือไ่ม่ห่วยอย่างจริงๆจังๆ
    จะหา "โลกภายใน" ของหนัง คงดูแค่ปกไม่ได้หรอก

    โอเคแหละ บางเรื่องเราเห็นปก เห็นชื่อคนกำกับ เห็นสัญชาติของหนัง ยังไ่ม่ได้ดูหนัง เราก็จัดประเภทมันเรียบร้อย รวมถึงตัดสินด้วยว่าดูไ่ม่ดู เลยถึงดีไม่ดี แต่นี่เราไม่ได้พูดถึงหนังแบบรวมๆหนิ เราพูดถึงหนังเรื่องนี้...

    เรื่องทัศนคติในการสร้างงานศิลปะ อันนี้ไม่รู้จริงๆ อยู่ในกะลาเลยแหละเลยแลกเปลี่ยนไม่ได้

    ตอบลบ
  33. don't judge a book by it's cover - ใครไม่รู้บอกไว้
    สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตา - สุนัขจิ้งจอกบอกเจ้าชายน้อย

    ตอบลบ
  34. คุณ nithiveragul ไม่ได้กำลังโกรธใช่ไหมคะ

    คือ เราเข้าใจจากที่อ่านทั้งหมด
    จากที่คุณ nithiveragul แสดงความคิดเห็นในวันที่ 29 (คห.ที่1) และ วันที่30 คหที่4

    ประเด็นมันถูกดึงมาว่า คุณnithiveragul ค่อนข้างเคลมและเหมารวมมากๆเลย


    ซึ่งวิธีกัดหยิกเหมาคห.อีกฝ่าย แล้วเคลมความคิดเห็นตัวเองถูกมากฝายเดียว
    เป็นการเปิดคุยที่ได้ผล เพราะมันน่าชวนทะเลาะ (มากกว่าการถกเถียงเพื่อชวนคุยน่ะค่ะ)

    แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เป็นธรรมดาโลก เพียงเราต่างต้องยอมรับในวงสนทนากันด้วย เพื่อให้เข้าใจบรรยากาศ และเวลาอ่านก็จะได้มองข้ามๆเนื้อหาที่โวยๆกันไปมาออกนะ _เพื่อคุยไม่ใช่ทะเลาะ


    พอตัดๆพวกไม่เกี่ยวอื่นๆ เราคิดว่าเนื้อหา และเป็นสิ่งที่คุณ nithiveragul พยายามจะสื่อ
    ก็คือ

    "หนังที่สื่อสารถึงความรักที่ซื่อสัตย์" ควรค่าแก่น่าดูมากกว่า "หนังที่เล่าเกี่ยวกับการคบชู้"
    เพราะสังคมปัจจุบันมันแย่ ใช่ไหมคะ

    (ถ้าไม่ใช่ แก้ให้ด้วยนะ)


    เราไม่พูดถึง เรื่องชั่วกับดี ขาวกับดำเป็นของคู่กันบนโลกนะ ยกไว้ในฐานที่เราต่างเข้าใจว่า โลกมันต้องมีทั้งสองอย่าง และต้องสร้างความสมดุล (ในตัวเราก็สร้างสมดุลเอาเอง ไม่ต้องไปว่าคนอื่น)

    ตอบลบ
  35. เราชอบดูหนังทั้งสองแนวพูดจริงๆนะ ไม่ใช่พูดแบบเพลย์เซฟ
    ก็ไม่ได้ดูทั้ง "ไฮ ฟิดอลลิตี้" และ "5x2"
    จึงพูดได้แบบกว้างๆ

    จะว่าไปชัดที่สุด เราสนใจดูหนังที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์ จะเล่าแบบรักแท้น้ำเน่า หรือเล่าแบบ รักมากผัวมากเมีย อยู่ที่ศิลปะของหนังแต่ละเรื่อง_เจ๋งไม่เจ๋งก็วัดกันไปตรงนี้

    เช่นเดียวกับ หนังเรื่อง"ผีตุ๋มติ๋ม" เราก็ไม่คิดจะดูนะ เพราะดูจากตย. มันไม่ได้เล่าในสิ่งที่เราสนใจเลยสักนิด
    ตัวโปสเตอร์ก็ออกแบบมาไม่น่าสนใจ ดูแกนๆ "วงค์คำเหลา" ยังตั้งใจดีไซน์กว่า มีที่ทางสื่อสาร

    แต่ถ้าไม่ดู เราก็ไม่กล้าพูด ไม่กล้าเคลม
    ว่า หนังผีตุ๋มติ๋มมันห่วยยยยย (อาจจะพูดกับแฟน และกับเพื่อนบางคน)
    จะบอกว่าห่วย ไม่ห่วย เต็มปากก็ขอทนดูก่อน วัดกันที่ศิลปะในหนัง (เช่น วิธีการเล่า เนื้อหาที่สื่อสาร ภาพ บรรยากาศอารมณ์ ก็ไปถึง การแต่งกาย เทคนิคการถ่าย ฯ ว่ากันไป)

    ...
    เราชอบอ่าน หนังสือที่หมกมุ่นกับความสัมพันธ์เชิงชู้ อย่างงานเขียนของ มิลาน คุนเดอร่า (ขอโทษที่ยกตย.ที่ไม่ใช่หนัง ขออนุญาต เพราะเรามีตย.ในมือน้อยเหลือเกินที่จะอิน อ่านหนังสือก็ไม่เยอะ แต่ชอบงานคนนี้มากเลยนะ)

    การอธิบายแบบถึงขั้นหมกมุ่น (จะชอบมาก) เพราะจะใส่ใจกับรายละเอียดที่เราข้าม
    ทำให้เข้าใจความเป็นไปของมนุษย์ เชื่อป่ะจนบางทีเรากลับคิดว่า ตัวคุนเดอร่าเองอยากจะบอกว่า มนุษย์นี่หนามันช่างเคว้งเบาจนสาหัส หากไม่ยึดติดกับอะไรที่จริงแท้ซะบ้าง

    กลับไปกลับมา หนังรักแท้สวยงาม บางทีดูแล้วก็อยากมีจะชู้ ฉิบเป๋ง
    มองบางมุม คงเพราะคนอยากรู้ขอบเขตของรักแท้กระมั้ง
    หรืออีกมุม เพราะมันบูลชิต บัดซบที่สุด

    กลับไปกลับมา อีกหลายรอบ
    หนังชู้ดูแล้วกับอยากแสวงหารักแท้_ถมเถ
    ก็ว่ากันไป

    แต่ไงซะน่าเบื่อที่สุด คือ ดูหนังอยู่แนวเดียวทั้งชีวิต

    ตอบลบ
  36. เราก็ชอบสอดแนมความสัมพันธ์ของมนุษย์
    เรานับถือป้าจุ๊กับลุงปุ๊ย
    แต่เราก็เข้าใจ ทำไมคนเราถึงมีชู้ แม้เราไม่สบายใจเวลาได้ยินเรื่องนี้

    และเราเคารพความเป็นส่วนตัวของแต่ละคู่ด้วย

    เราซื้อตั๋วดูไฉไล เราเลี้ยงน้องชายเราด้วย (มันอยากดู เพราะมันทำงานดีแทก ดีแทกเป็นสปอนเซ่อ)
    เราขอพูดสั้นๆ ว่าเป็นการดูหนังที่เราเสียดายตังค์ที่สุด
    และนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเราไม่ค่อยดูหนังไทย-กัวเสียดายตังค์
    (นึกไม่ออกเลย หนังไทยเรื่องสุดท้ายที่เสียตังค์ดูคืออะไร)

    T-T

    ตอบลบ
  37. อย่าเพิ่งปายยยย
    เน็ตเรามัน...เต่าฮะ...
    กว่าจะเดินทางมาถึง

    ไปซะแระ
    ไปมั๊ง...ไปหาข้าวไข่เจียวกินก่อน
    เดี๋ยวมา
    กินด้วยกันมั๊ยฮะ...:)

    ตอบลบ
  38. จะว่าไปนะ ในความคิดเห็นของเรา
    หนังชู้ มันพูดเรื่อง"รักแท้" ได้ถึงใจกว่า

    อย่างเช่นเรื่อง closer
    เล่นกับ ความซื่อสัตย์จริงใจได้ดีมาก

    ตอบลบ
  39. ใช่ๆๆๆๆ
    เคยดู unfaithful ชู้มรณะป่ะ (ริชาร์ด เกียร์, ไดแอน เลย และโอลิวิเยร์ มาร์ติเนซ-หนุ่มฝรั่งเศส(!)สุดหล่อ)
    ดูแล้วสยองเลย ไม่เอาหรอก ไม่อยากมีชู้

    ตอบลบ
  40. ต๊ายยย ว่าแล้วอยากจัดเทศกาลหนังชู้
    มันต้องปลากรอบไปด้วย Closer, Unfaithful, The End of the Affair (ราล์ฟ ไฟน์ส+จูลีแอน มัวร์), Adore (เกาหลี)
    ไรอีก เสนอๆๆๆๆ

    ป.ล. เราคิดว่าเราจะอ่าน อมตะ ฉบับแปลจาก Immortality ของมิลาน คุนเดอร่า จบในเร็ววัน

    ตอบลบ
  41. เคยเปรี้ยวกะ "ชู้รักเลดี้แชตเตอร์เลย์" ละด้วย

    ตอบลบ
  42. โหย อันนี้ดูแล้วก็นิ่ง อึ้ง กะยัยนางเอกก่อนเลย...
    แต่ดูแล้วสยองแหล่ะ...เห็นเวลาลุงเกียร์ระเบิดอารมณ์แล้วความอยากมีชู้ของใครๆคงหดหายกันเลยทีเดยว ;p

    ตอบลบ
  43. คิกๆ เค้ายังไม่เคยอ่านเรื่องนี้เลย ...เจอแต่ที่คนยกความประทับใจมาเล่าให้ฟังเท่านั้น

    ตอบลบ
  44. เราก็ไม่ใช่...นักวิจารณ์...ฮะ
    เพียงแต่ว่าจะไม่ใช้การ...มอง...แต่ไม่ได้...ดู... แล้วตัดสิน

    เรากำลังพูดกันถึงหนังเรื่องนี้อยู่...มิใช่หรือฮะ?

    ต่อมความรู้เรื่อง...งานศิลป เราน้อยฮะ
    เราแยกไม่ออกหรอกว่า...หนังคบชู้...หนังชายรักชาย...หรือหญิงรักหญิง
    แบบไหนถึงจะเรียกว่า...หนัง Art...

    แล้ว...หนังน้ำเน่า...ที่จบแบบ แฮบปี้ ล่ะฮะ จะเรียกว่าไร
    Art ตัวพ่อหรือ Art ตัวแม่ดี
    :)




    ตอบลบ
  45. ชู้ - April Snow
    เคยดูป่ะ...

    พี่เบยองจุน(พระเอกสุดเลิฟ)
    เล่นเรื่องนี้แล้ว...เฮ้อ

    ตอบลบ
  46. ^
    เออ ใช่ เรื่องนี้ด้วย ตรงประเด็นมาก

    ตอบลบ
  47. แฟร์เวลฯ ไม่ใช่ชิมะ หยั่งนั้นน่าเป็นอนุภริยา

    ตอบลบ
  48. แต่ว่า หล่อเร้าใจอย่างโอลิวิเยร์ก็....นะโม่นะ

    ตอบลบ
  49. มาเติมรายชื่อหนังชู้
    -Original Sin
    -In the Mood for Love

    ตอบลบ
  50. ไงละ ..ชอบใช่มะ ดูกี่ครั้งก็อึ้ง ยิ่งตอนจบ ที่กลับไปจุดเริ่มต้น พูดไม่ออก บอกไม่ถูกเลย รักกันขนาดนี ดูวันแต่งซิ แล้วไง... ทำไมคนทีรักกันมากๆ ก็ต้องจบแบบนี้ ดูแล้วบอกไม่ถูก จะว่ากลัวหรือปลงดี
    OST เพราะมาก หาอยู่ แต่แพงได้ใจ ชอบ Sparring Partner มาก ฉากที่มึนๆเต้นรำกันนะ

    ตอบลบ
  51. นี่เลย...น่ากลัวโคตร ต้นตำหรับก่อน Unfaithful อีก เรื่อง Fatal Attraction ว่ากันว่าเรื่องนี้ซื้อให้เป็นของขวัญเจ้าบ่าววันแต่งจะดีมาก ดูแล้วไม่กล้ามีชู้ Michael Douglas and Glenn Close ตั้งแต่ปี 1987 แล้ว ลองหาดูอ่านหนังสือเจอ เลยลองไปตามดูนะ....อ้อ ชอบ April Snow นะ ดูแล้วร้องไห้ด้วย ไม่ว่าใครผิดหรอก

    ตอบลบ
  52. จ่ะ ถ้าได้จัดจริงคงมีคนมาดูเยอะนะ ^_^

    ตอบลบ