Rating: | ★★★★★ |
Category: | Books |
Genre: | Other |
Author: | Bernhard Schlink แปลโดยสมชัย วิพิศมากูล |
***คำเตือน : บทความนี้มีคำเฉลยปมของเรื่อง ถ้าอยากอ่านหนังสือให้สนุกก๊ออย่าเพิ่งมาอ่านบทความนะจ๊ะ***
หลายๆ คนที่อยู่มาจนอายุขนาดนี้แล้วยังโสด จะเหงากันบ้างไหม?
เหงา เหมือนอยู่คนเดียวในโลกที่แสนจะวุ่นวาย ท่ามกลางผู้คนมากมาย ..แต่ไม่มีใครรู้จักเราจริงๆ เลย
อิฉันอ่าน The Reader จบเป็นครั้งที่สองเมื่อสองวันก่อน เมื่อจะลงมือเขียนถึง สิ่งแรกที่นึกถึงก็คือ “ความเหงา” ของตัวละครทั้งสองในเรื่องนี้
อย่างที่พอรู้นั่นแหละ นิยายเรื่องนี้เล่าเรื่องของสาวใหญ่วัย ๓๖ ที่มีอันได้มาพบ และมีสัมพันธ์สวาทกับเด็กหนุ่มวัย ๑๕ ก่อนที่จะเริ่มต้นอ่านอีกครั้ง อิฉันลองทบทวนดูว่าจำอะไรได้บ้าง ก็พบว่าภาพที่ยังค้างอยู่หลังการอ่านรอบแรกเมื่อ ๕-๖ ปีก่อนมีเพียงอ่างอาบน้ำใหญ่ในห้องครัว มีแสงยามบ่ายส่องมาจากด้านหลัง ในอ่างสาวมีใหญ่เจ้าของเรือนร่างสมบูรณ์ แข็งแรง กำลังอาบน้ำ ถูตัวให้เด็กหนุ่มแขนขายาวเก้งก้าง
นี่ไม่ใช่เรื่องเล่าลามกของสาววิปริตที่ชอบมีอะไรกับเด็ก หรือเรื่องของเด็กห่ามห้าว ก้าวหน้า อยากเรียนรักกับสาวใหญ่ แต่นี่คือภาพความสัมพันธ์ที่ลึกล้ำที่มีปมประเด็นซับซ้อน
เด็กน้อย (มิคาเอล แบร์ก) จะออกจากโรงเรียนมาพบกันหลังจาก ฮันนา (ฟราวชมิทซ์) เลิกงานขายตั๋วบนรถรางบ้าง ก่อนเธอไปทำงานบ้าง โดยก่อนจะสอนบทสวาทให้ เธอจะขอร้องให้เด็กน้อยอ่านหนังสือให้ฟังทุกครั้ง นอกจากนี้จะมีการอาบน้ำให้ เพราะเธอเป็นคนรักความสะอาด จนในที่สุด การอ่านออกเสียงและการอาบน้ำก็กลายเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ก่อนร่วมรักไป
และแม้ว่าทั้งสองจะสนิทสนมกันมาก แต่ฝ่ายที่โตกว่าก็แอบซ่อนความลับสำคัญของเธอไว้ในช่องว่างของวัย โดยที่เด็กไม่ได้สำเหนียก
ไม่ว่าฮันนาจะรู้ตัวหรือไม่ การปรากฏตัว และมีบทบาทแสนสำคัญในช่วงปีแรกๆ ของเด็กชายซึ่งกำลังทำความรู้จักกับชีวิต และโลก ทำให้เธอกลายเป็นหลายสิ่งหลายอย่างที่สำคัญในชีวิตของเขา เป็นแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่ เป็นปริศนา ที่สำคัญคือ ความสัมพันธ์ของเธอกับเขา กลายเป็นปมชีวิตไปในที่สุด
การลักลอบคบกันแบบนี้ไม่มีทางยาวนาน การค่อยๆ แก่ตัวลงของสาวใหญ่ ยังไม่มีนัยสำคัญเท่ากับการที่เด็กก็ค่อยๆ โตขึ้น ฮันนาทิ้งเด็กน้อยไปในวันหนึ่ง และสร้างรอยแผลยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา
เหตุการณ์นี้เหมือนฟ้าผ่าลงมาข้างตัว เด็กน้อยอึ้ง งง ไม่เข้าใจ หลังจากนั้นจึงเริ่มสร้างกำแพงป้องกันตัวเองจากการผูกพันทางความรู้สึกแบบนี้ และมีบุคลิกกระด้าง เย็นชาไปในที่สุด
เด็กน้อยได้พบกับฮันนาอีกครั้ง ระหว่างเรียนกฎหมาย ระหว่างวันคืนอันยาวนานของในการไปศาล เพื่อสังเกตการณ์การไต่สวนพิจารณาโทษอาชญากรที่ปล่อยให้เชลยหญิงชาวยิวถูกเผาทั้งเป็นจากการทิ้งระเบิดเมื่อครั้งที่นาซียังครองเมือง-ฮันนาคือหนึ่งในยามที่ถูกกล่าวโทษ
เขาไม่ได้เข้าไปถาม ว่าทำไมเธอถึงทิ้งเขาไปโดยไม่ร่ำลา แต่ทำกลับย้ำรอยแผลของตัวเองด้วยด้วยการฟังการซักค้านอย่างเย็นชา และระหว่างเฝ้ามองร่างกายด้านหลังของฮันนา เขาก็เริ่มปะติดปะต่อ ว่าฮันนาอ่านหนังสือไม่ออก และเขียนไม่ได้
เพื่อปกป้องความลับนี้ ฮันนาก็ยอมรับโทษจำคุกตลอดชีวิต
เด็กน้อยรู้สึกผิด ที่เขาไม่ได้แสดงความพยายามจะช่วยเหลือเธอเลย ความรู้สึกที่เจ้าตัวกดซ่อนให้ลึกอยู่ในใจนี้ทำร้ายเขารุนแรงกว่าที่เจ้าตัวจะนึกออก แต่ก่อนที่จะเป็นบ้าเป็นหลังไปเสียก่อน เขาก็ลุกขึ้นมากลางดึก และพาตัวเองให้พ้นความทรมานจากการนอนไม่หลับด้วยการอ่านหนังสือ บันทึกเทป ส่งไปให้ฮันนา
เขาอ่าน อ่าน และอ่าน โดยไม่พักจะสนใจว่า คนฟังจะชอบไหม ใช่..เหมือนเขื่อนเก็บน้ำที่เริ่มมีรูรั่ว เริ่มปล่อยน้ำที่กักไว้มหาศาลให้ไหลทะลักออกมา
จนในวันหนึ่ง ก็ได้รับโน้ตสั้นๆ เขียนด้วยความตั้งอกตั้งใจแน่วแน่ของคนเพิ่งหัดเขียน เพื่อชมเชยหนังสือเล่มสุดท้ายที่เขาอ่านให้ฟัง..มันเป็นหนังสือที่เด็กน้อยแต่งเอง
หลังจากปกปิดความลับนี้มาตลอดชีวิต ฮันนาตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่สุด ครั้งหนึ่งในชีวิตซึ่งเหลือเวลาไม่มากแล้ว เพื่อที่จะเรียนการอ่าน และเขียน อิฉันได้ทราบคำเฉลยในภายหลังว่า เธอเรียนโดยการที่หูก็ฟังเสียงที่เด็กน้อยอ่าน ตาก็ไล่ไปตามหนังสือที่ผู้คุม (มีเมตตา) หามาให้ยืม แล้วจึงเริ่มเขียน
ทั้งๆ ที่ประพฤติตัวดีจนได้รับการพิจารณาปล่อยตัว ทว่า ฮันนาไม่มีโอกาสออกมาใช้ชีวิตข้างนอก แล้วภาพจิ๊กซอว์ที่เด็กน้อยเพียรต่อโดยลำพังในเวลาหลายปีที่ผ่านมาก็เสร็จสมบูรณ์ คำถามหลายอย่างที่คนอ่านคาใจ ก็ได้รับคำตอบมีเหตุมีผลในช่วงนี้
อิฉัน ในวัยที่อยู่มาจนอายุขนาดนี้ โดยที่ยังเป็นโสด ปิด The Reader ด้วยความรู้สึกว่า
บางที ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง สิ่งที่เราโหยหาอย่างที่สุดมันไม่ใช่อะไรเลย นอกจากการรับรู้การมีตัวตน การยอมรับ และเข้าใจความเป็นเราอย่างแท้จริงจากใครสักคน..แค่นั้นเอง
(ปัญหาคือ การที่ใครคนนั้นจะรู้จักเราได้ เราก็ต้องเปิดประตูกว้างๆ ต้อนรับเขาก่อนใช่ไหม)
บันทึก:
• ชื่อเดิมในภาษาเยอรมันของเรื่องนี้คือ Der Vorleser
• ผู้เขียนชื่อว่า Bernhard Schlink เป็นศาสตราจารย์ทางกฎหมายและผู้พากษา ทั้งยังเป็นนักเขียนแนวสืบสวนอีกด้วย
• ส่วนคนแปล คือ สมชัย วิพิศมากูล
• อ่านเรื่องนี้อีกครั้งเพราะนึกอยากไปดูหนังที่ เคต วินสเล็ต เล่นจนได้ลูกโลกทองคำ (สาขาสมทบหญิง) ตอนอ่านครั้งแรกนั่น เพื่อนอิ๋วให้ยืมมา่อ่านฮะ
• ประทับใจคนเขียนมาก ทั้งๆ ที่เล่าเรื่องสลับลำดับเวลาไปมา แต่ช่างเขียนได้ดี อรรถาธิบายและถ่ายทอดภาพของความรู้สึกได้อย่างยอด ลีลาการเขียนอีโรติกก็ช่างสวยงาม พอเหมาะพอดี ที่รู้สึกได้ขนาดนี้ก็ต้องขอบคุณคนแปลด้วยนะฮะ
• ชอบภาพนั้นมาก ตอนฮันนาค่อยๆ รูดถุงน่อง จับให้เรียบ แล้วติดไว้กับสายยางรัดถุงน่อง
• คุกในเยอรมันสภาพดีจังเลย อ่านแล้วรู้สึกเหมือนอยู่บอร์ดิ้งสคูล
• การไม่รู้หนังสือ ทำให้ชีวิตลำบากมาก ยิ่งถ้าเราเป็นผู้หญิงอะนะ เพราะว่าเด็กผู้ชายสมัยนี้ นอกจากอ่านหนังสือไม่แตกแล้ว ยังไม่ค่อยจะอ่านกันเสียด้วยสิ