วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551

FROZEN


วันพุธที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๑


You only see what your eyes want to see

มาดอนน่าเอื้อนเอ่ยขึ้น พอดีกับจังหวะก้าวออกจากลิฟต์

ออกจากออฟฟิศก็ปาเข้าไปสามทุ่มครึ่ง
อากาศกำลังดี ฟ้าโปร่ง ลมพัดเย็นสบาย
การจบลงด้วยดีของบทสนทนายุ่งขิงนานสามชั่วโมงกว่าทำให้ยิ้มกริ่ม

How can life be what you want it to be
You're frozen
When your heart's not open

จากหน้าตึกโอเชียน เดินไปปากซอย ๑๙ เลี้ยวขวาไปทางอโศกมนตรี
มุ่งหน้าไปสถานีบีทีเอส

You're so consumed with how much you get
You waste your time with hate and regret

เิริ่มจะดึกแล้ว แต่รถราบนถนนอโศกยังจอแจ
'บรรยากาศสวยจัง' ไม่ได้ใส่แว่นก็จะเห็นโลกกลางคืนเบลอๆ สวยๆ แบบนี้เอง
และขณะที่กำลังอิ่มเอมกับอารมณ์อยู่นั้น....

นั่นมัน...
ก้อนอะไร ใหญ่ๆ ดำๆ กำลังเคลื่อนที่มา

You're broken
When your heart's not open

ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ
ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ

Mmmmmm, if I could melt your heart

เฮ้ย!
นั่นมันช้าง เอ๊ย! ไม่ใช่ ลูกช้างนี่นา

Mmmmmm, we'd never be apart

แล้วมันจะวิ่งไปไหน?
บนทางเท้าริมถนนอโศก?
ตอนสามทุ่มกว่า?
หรือมันตกมัน?

Mmmmmm, give yourself to me

บ้า
ตัวมันยังเล็กอยู่เลย

Mmmmmm, you hold the key

เฮ้ย มันเป็นไรอะ?

Now there's no point in placing the blame
And you should know I suffer the same

หลบ หลบ
ต้องหลบ

If I lose you
My heart will be broken

ตุบ ตุบ ตุบ
ช้างน้อยผ่านไป

บนทางเท้าริมถนนอโศกเวลาสามทุ่มครึ่งที่ยังมีรถวิ่งจอแจ
มันวิ่งข้ามแยกเข้าตึกรัชภาคย์ไป
ยังตรงไปอีก

Love is a bird, she needs to fly
Let all the hurt inside of you die

ดูมันรีบๆ
จะไปไหนล่ะนั่น?
แล้วถ้ามันไปถึงปากซอยเรา มันจะดูรถก่อนข้ามถนนไหม?

You're frozen
When your heart's not open

แล้วเราควรทำไงดี?
เจ้าของมันก็ไม่เห็นวิ่งตามมาสักที
หรือควรตามมันไป

If I could melt your heart
We'd never be apart

...ปลอบให้หายตกใจ ?

บ้าสิ
มันโกรธไร หนีไรมาก็ไม่รู้

Give yourself to me

'แล้วเราควรทำไงเนี่ย?'
ยืนอึ้งอยู่ในแสงเบลอสวย
บนถนน รถรายังขวักไขว่
คิดยังไม่ออก

You hold the key

ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ
เท้าทั้งสี่ของมันพาเจ้าของวิ่งไกลออกไปเรื่อยๆ

แล้วมันจะถูกรถชนไหม?

You only see what your
eyes want to see
How can life be what
you want it to be
You're frozen
When your heart's not open

....อะไรนะ
มาดอนน่าว่าเราป่าวเนี่ย?


25 ความคิดเห็น:

  1. ummmm ชอบจังค่ะ เขียนเก่งมาก ได้บรรยากาศ

    ตอบลบ
  2. ภาษาอังกฤษนี่
    ผมอ่านได้นะครับพี่
    แต่แปลไม่ออกอ่ะ

    ตอบลบ
  3. คุณม้อยน่าจะลองเขียนเรื่องสั้นนะ .... อ่านเพลินไปเลย
    สมกับที่เป็นเด็กวารสารจริงๆ ^___^

    ตอบลบ
  4. ชอบมาดอนน่าดิ?

    เหมือนกันเลย
    มามะ ขอหอมทีนะคุณต่าย

    ตอบลบ
  5. แหม๋
    ปลื้มใจจนตัวพองเลยคุณแพท
    (ที่จริงไม่ได้อ้วนหรอกนะเนี่ย)

    ตอบลบ
  6. อย่ามาเนียนหน่อยเลย

    เออ ให้เมียแปลให้ดิ

    ตอบลบ
  7. แล้วตกลง มันวิ่งทำไม หรือมัน ตกมัน นึกถึงภาพแล้วคงดูตื่นเต้นไม่หยอก
    ดีนะที่ไม่โดนมันชน
    แปลกดีที่ ม้อย เขียนถึง มาดอนน่า เราเขียนถึง ริค ในเวลาไล่เลี่ยกัน

    รูปนี้ ดูผอม หัวโต

    ตอบลบ
  8. เปลี่ยนแนวได้น่าสนใจดีเจ้

    ตอบลบ
  9. เราว่ามันหนีควานมา
    แต่ไม่รู้เค้าไปทำอะไรมัน (หวังว่าคงไม่ได้ให้ช้างกินน้ำผสมยาบ้านะ)
    คือตอนที่เรายืนรอดูมันวิ่งจนลับตาไปนั่น เราก็รอนะ ว่าเมื่อไหร่เจ้าของเค้าจะวิ่งตามมันมา
    ปรากฏว่าไม่มาสักที

    จนเราตัดใจ เดินตามทางของเราต่อไปอีกสัก ๑๐๐ เมตร นั่นแหละ ถึงได้ไปเจอกับขี้ช้างกลุ่มใหญ่และผู้ชายเลี้ยงช้างที่มีถุงอ้อยสำหรับขายให้คนซื้อเลี้ยงช้างกิน เขาหน้าแดงๆ เห่อๆ เราว่าเขาคงเมา กำลังถามอะไรผู้ชายคนนึงที่ยืนตรงนั้นพอดี ผู้ชายคนนี้ก็ทำท่าชี้โบ๊ชี้เบ๊ทำนองว่านู่น ช้างวิ่งไปทางนู้น

    (อาอิรู้ไหม ว่าเราดีใจแค่ไหนที่เห็นกองขี้ช้างกับเห็นผู้ชายสองคนนั้น เพราะมันคือพยานว่าเราไม่ใช่คนเดียวที่ได้เห็นลูกช้างตัวนั้นวิ่งจู้ดดดด หนีไป)

    หลังจากนั้นมีผู้ชายเลี้ยงช้างคนที่สองมาสมทบกับคนแรก
    ดูสองคนนี้ปฏิกิริยาช้ามาก เราว่าเค้าเมาแน่ๆ

    แต่ที่เราสงสัยที่สุดคือช้างน้อยตัวนั้นคิดอะไรอยู่
    มันวิ่งหนีไปไหน จะไปหาแม่ หรือแค่ไปให้พ้นจากผู้ชายสองคนนี้

    เราสงสารมัน เพราะคิดว่ามัน lost แต่เราไม่กล้าหยุดมันหรอก
    เราว่าถ้ามันโกรธเรา เราคงเจ็บตัวอะ

    (นึกแล้วน้ำตาจะไหลที่ช่วยอะไรมันไม่ได้)

    ตอบลบ
  10. สงสัยเราสองจะมีอะไรที่สื่อถึงกันได้นะ ว่ามะ

    เราว่าแม้เพลงของ มาดอนน่า กะ ริค จะเหมือนคนละแนว
    แต่เราว่าสองคนนี้โคตร feminine โคตรจะเป็นแม่เลยอะ

    ตอบลบ
  11. อืม เวลาเห็นช้างในเมือง เราเศร้าทุกที กะอีแค่ ซื้อกล้วย ถุงละ 20 ก็ไม่ได้ช่วยอะไร หนำซ้ำ ก็เป็นการสนับสนุนอีก
    ช่วงนี้ มันกลับมาระบาดอีกแล้ว หลังจากหายไปพักหนึ่ง ยิ่งเป็นลูกช้าง ยิ่งน่าเศร้าใหญ่
    เศร้าเพราะไม่รู้จะช่วยอะไรได้ ชะตากรรมของช้างเมืองไทย ช่างน่าสงสารจริง ๆ เวลาที่เห็นใคร มีใจที่จะช่วยช้าง
    แล้วนับถือเขาจริง ๆ เหมือนผู้หญิงคนนั้น ที่เชียงใหม่ เขาชื่ออะไรนะ

    ตอบลบ
  12. สงสารช้างอ่ะ มันคงคิดถึงแม่ T.T
    เหมือนเลตอนตื่นมา แล้วร้องหาแม่อ่ะ

    ตอบลบ
  13. เศร้าจังม้อย..
    ที่เมืองนนท์เมื่อก่อนไม่มีเลย...

    ..เดี๋ยวนี้เดินกันทุกวัน
    ลูกช้างทั้งนั้น...เวลาเห็น พี่อดมองที่เท้าเค้าไม่ได้นะ
    ...ถึงจะหนังหนาเถอะ...แต่ปูนซีเมนต์นะ ร้อนจะตาย
    โอย

    ตอบลบ
  14. เออเนี่ย
    มันเหมือนเสียขวัญอะ
    จำภาพเลตอนนั้นติดตาเลย
    เผอิญน้าก็ถูกปลุกให้ตื่นซะด้วย
    จะกอดปลอบก้อไม่กล้ากอดเหมือนกัน

    "น้าม้อย น้าม้อย แม่หนูไปไหนอ่ะ
    หนูคิดถึงแม่
    น้าม้อยขึ้นไปดูแม่กับหนูสิ"

    ตอบลบ
  15. ขอสารภาพว่าเวลาเห็นช้างม้อยตัดสินใจไม่ถูกค่ะ ว่าจะทำไงดี
    ตอนนี้ช้างเดินไปถึงซอยบ้าน (ชานกรุงสุดๆ) แล้วอะค่ะ่

    ตอบลบ
  16. ม้อยเขียนดีจัง...ชอบ

    เราว่าเจ้าช้างน้อยตัวนี้เราเคยเห็นนะ เวลาไปแถวซอยประสานมิตรน่ะ

    ตอบลบ
  17. เห็นพ่อทะเลบอกว่า

    เลบอกว่า "อยากกอดแม่จัง" ด้วยอ่ะตอนพาไปฉี่

    ช้างคงคิดถึงแม่จริง ๆอ่ะ

    ตอบลบ
  18. ม้อยส ทำไมกลับดึกนะ

    ตอบลบ
  19. คุยโทรศัพท์เสร็จสองทุ่มกว่า
    แล้วอยู่เป็นเพื่อนน้องที่ทำงานอยู่คนเดียวอีกนิด
    ระหว่างนั้นก็เขียนบล็อกก่อนหน้าอันนี้ไปด้วยอะ

    ..ก๊อไม่มีใครรออยู่ที่บ้านนี่นา พี่อ้วนก้อ

    ตอบลบ
  20. อาจจะมีคนนั่งอยู่บนไหล่ก็ได้นะ ปวดหลังมั่งไหมช่วงนี้ ฮึฮึฮึ

    ตอบลบ
  21. ไหล่แกล่ะ พี่อ้วน?

    ตอบลบ
  22. ก็พี่จาพนม หาอยู่ตั้งหลายปีไม่ใช่เหรอ
    ช้างกู อยูไหน.........555

    ตอบลบ
  23. เห็นช้างเดินในเมืองทีไรใจหายทุกที คิดถึงแม่พังที่อยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ถึงจะไม่ได้เดินอยู่ในป่าแต่ก็ดูช้างสบายใจกว่าอยู่ในเมือง

    ตอบลบ