Rating: | ★★★★★ |
Category: | Movies |
Genre: | Drama |
Great Expectations (1998) เป็นหนังที่พี่เทพให้ยืมมาจะครึ่งปีแล้ว จริงๆ ก่อนที่พี่เทพจะให้ยืมก็ดูมาแล้วหลายครั้ง จากเคเบิลบ้าง บิ๊กซินีม่าบ้าง แล้วก็ยังยืมมาดูเองอีกสีก ๒ ครั้งได้
สรุปว่าได้ดูหนังเรื่องนี้มาหลายรอบแล้ว
ก็ยังคงปลื้มกับความเท่ของไตเติ้ล ยังคงยักไหล่ตามจังหวะต่างๆ ในเวอร์ชั่นต่างๆ ของ Besame Mucho ยังคงทึ่งกับเรือนร่างอ้อนแอ้นแต่แข็งแรง โครงหน้า และสีหน้าอันหยิ่งยโสของ กวินเน็ต พัลโทรว ยังเผลอเลียฝีปากในซีนที่เด็กสองคนดื่มน้ำพุ แล้วมีคนนึงโดนขโมยจูบ ยังคงติดใจกับภาพพอร์ตเทรตที่เน้นประกายตาของโรเบิร์ต เดอ นีโร และยังคงปลื้มกับเสียงซินธิไซเซอร์ของ Life in Mono
เคยคิดเล่นๆ เหมือนกัน ว่าถ้าคนคนนึง โคตรจะมีพรสวรรค์ในอะไรสักอย่าง แล้วถ้าเขาไม่มีโอกาสแสดงพรสวรรค์ของเขาเลย จะเรียกได้ว่าเขามีพรสวรรค์ไหม (ถ้าไม่ได้แสดงความสามารถ พลโลกจะประจักษ์ใน Gift จากพระเจ้าได้ไง จิงปะ)
ฟินนิแกน เบลล์ หรือฟิน (แหม๋ คุณพ่อคุณแม่ช่างตั้งชื่อได้เริ่ดสะแมนแตนดีแท้) ก็เข้าข่ายนี้ เมื่อยังเล็ก เขาก็เป็นแค่เด็กบ้านๆ แถวสะพานปลาในฟลอริด้า ถึงจะมีพรสวรรค์ และมีความสุขที่ได้วาดรูป แต่ถ้าไม่ได้รับโอกาส ไม่ได้ถูกแนะนำตัวต่อโลกศิลปะในนิวยอร์ก ชีวิตทั้งชีวิตเขาก็คงเป็นได้แค่ชาวประมงที่มีงานอดิเรกเป็นการวาดภาพ
หนังเรื่องนี้ฉายชีวิตของ ฟิน (ตอนเล็กๆ แสดงโดย Jeremy James Kissner-หน้าตาโคตรจิ้มลิ้มน่ารัก ตอนโตแสดงโดย Ethan Hawke-ไม่ค่อยหล่อเท่าไหร่) ที่อิฉันดูดูแล้วรู้สึกว่า ช่างเป็นชีวิตที่ไม่ได้ลิขิตด้วยตัวเองเอาเสียเล้ยยย
เราเป็นคนดู เราเห็นได้ชัดๆ จาก “โอกาส” จากผู้อุปถัมภ์ลับๆ ของเขา ตอบแทนน้ำใจใสซื่อแบบเด็กๆ ให้ความช่วยเหลือไว้เมื่อตอนอายุ ๑๐ ขวบ ในเวลาเดียวกัน ฟินก็ได้ “โอกาส” ที่จะได้พบกับผู้หญิงคนเดียวที่เขารัก จากการเป็นของเล่นของ (มหา) เศรษฐีนีชราช้ำรักจนเพี้ยน ผู้ตกพุ่มม่ายขันหมากมาร่วมสามสิบปี ซึ่งอาศัยอยู่กับเอสเตลล่า (ตอนโตคือ Gwyneth Paltrow) หลานสาวแสนสวย (ใครนะ ช่างวางใจให้คนเพี้ยนๆ เลี้ยงเด็ก) ในคฤหาสน์หลังบะเฮิ่มซึ่งถูกปล่อยทิ้งไปกับกาลเวลา
ฟินช่วยตัวเองไม่ได้ เขาตกหลุมรักเอสเตลล่าตั้งแต่แรกเจอ แต่ก็นั่นแหละ คุณป้าที่ไม่เหลือความศรัทธาในความรักอีกแล้ว ได้สอนให้หลานสาวรู้สึกแบบเดียวกัน เธอเรียนรู้จะป้องกันตัวเองโดยการหลอกผู้ชายเสียก่อนที่จะโดนผู้ชายหลอก.. โดยมีฟินเป็นแบบฝึกหัดพื้นฐาน
เมื่ออยู่ๆ เอสเตลล่ามาทิ้งไป ฟินก็เศร้าเสียใจแล้วครั้งหนึ่ง แต่เมื่อโอกาสมาถึงเขาในอีกหลายปีให้หลัง ชักพาให้เขามาถึงนิวยอร์ก เขาก็ได้พบเอสเตลล่าอีกครั้ง เพื่อที่จะหัวใจสลายเป็นครั้งที่สอง และในวันที่เขาพบว่าภาพการเปิดตัวศิลปินหน้าใหม่อันสวยหรู รวมทั้งการประสบความสำเร็จ โซลเอาท์ ขายเกลี้ยงทุกรูปในวันเปิดตัวเป็นการจัดฉากของผู้อุปถัมภ์ลับๆ ของเขาอีก ก็เหมือนหัวใจฟินสลายลงเป็นครั้งที่สาม
ดีที่ฟินไม่ต้องหัวใจสลายเป็นครั้งที่สี่ ห้า และหก เพราะชาร์ลส์ ดิกกินส์ เขียนให้เขาเดินทางพิสูจน์พรสวรรค์และความสามารถจนเป็นที่ประจักษ์ที่ปารีส
เมื่อฟินกลับมาที่บ้านเกิด ณ ที่ที่เขาพบกับเอสเตลล่าเป็นครั้งแรก เขาก็ได้พบกับเธออีกครั้ง
แล้วเรื่องก๊อจบลง อย่าง(น่าจะ)แฮปปี้เอนดิ้ง
(พอดีไม่ได้อ่านนิยายอะนะฮะ ไม่รู้จิงๆ จบยังไง)
อิฉันดูจบมาแล้วหลานรอบ ก็ได้แต่สงสัยว่า…ชีวิตเรามีผู้อุปถัมภ์ลับๆ คอยจัดฉากให้อย่างนี้มั่งไหมเนี่ย?
บันทึก
• หนังเรื่องนี้กำกับโดยผู้กำกับแม็กซิกัน Alfonso Cuarón จากนวนิยายของ Charles Dickens เขียนสกรีนเพลย์โดย Mitch Glazer
• งานสเก็ตช์สวยๆ ในเรื่องเป็นผลงานของศิลปินหนุ่มอิตาเลียน นาม Francesco Clemente (http://en.wikipedia.org/wiki/Francesco_Clemente)
• ในหนังเรื่องนี้ คุณจะได้ฟังเพลง Besame Mucho ถึง ๖ แบบ
• Estella คือชื่อของนางเอก ในภาษาสเปนหมายถึงดวงดาว ส่วน Besame Mucho เป็นภาษาสเปน แปลว่าจูบฉัน จูบฉัน จูบฉัน จูบฉัน จูบฉัน….แบบที่เราสั่งให้คนรักจูบอีกๆๆๆๆๆๆๆ (ได้โปรดเถอะ) อารมณ์เนี้ยนะฮะ
• ผู้กำกับหนังเรื่องนี้จะรู้ไหมว่าหนังของเขาเป็นอีกแรงบันดาลใจหนึ่งที่ทำให้อยากเรียนภาษาสเปน
• ลองสังเกตดีๆ หนังเรื่องนี้คุมโทนให้เป็นสีเขียว ซึ่งน่าทึ่งมาก ที่ไม่มีนักแสดงคนไหน “ดูไม่ได้” ในสีเขียวเลย (เป็นสีที่อิฉันใส่แล้วตายไปเลย)
• ซีนที่เอสเตลล่ามาเป็นแบบให้ฟินสเก็ตภาพถึงเตียงนอนนั่นแสงโคตรสวย และนี่คงจะเป็นหนังที่บอกได้ว่า ตอนอายุแค่นั้น กวินเน็ต พัลโทรวสวยแค่ไหน
• ใครที่ตั้งแต่เกิดยังไม่เคยจูบปากกับคนรัก ดูหนังเรื่องนี้ไว้ แล้วคุณจะเริ่มต้นได้ถูกทาง
• สงสัยมานานแล้วว่า Great Expectations นี่คือ expectations ของใคร ผู้อุปถัมภ์ลับๆ เศรษฐีนีช้ำรัก สาวสวยผู้แสนเศร้า หรือว่าศิลปินหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์? ใครดูแล้วมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันหน่อยเถอะฮะ
สร้างบรรยากาศ
ตอบลบLife in mono - Mono
อย่างอื่นจำไม่ได้ เว้นแต่ฉากจูบ
ตอบลบยังไม่ลืม
ที่จำได้แม่นคือการคุมโทนด้วยสีเขียวนี่แหละค่ะ ส่วนฉากจูบจำได้แต่ฉากกินน้ำ สงสัยต้องไปดูใหม่ซะแล้ว
ตอบลบเอิ่มมมมม พี่ม้อย จัดอันดับหนังฉากจูบในดวงใจกันดีมั้ยคะ เหอเหอ
ชอบหลายซีนค่ะ มีโอกาสได้ดูเเค่ 2 ครั้ง
ตอบลบฉาก kiss ที่น้ำพุ
ฉาก ที่ Estella ยืนอยู่หน้า Finnegan ที่นั่งอยู่ตรงขอบเตียง เเล้ว...
ฉากที่ Ms. Dinsmoor ดึงมือ Finn มาเเตะที่หัวใจบอกว่า It's broken เเล้ว Finn ก็ทำเเบบเดียวกัน
(ใช่ๆ... นึกว่าตัวเองก็มีหัวใจคนเดียวหรือยังไง หา...)
เเละทั้งๆที่ไม่ชอบสีเขียวเอาซะเลย เเต่ก็อดรักโทนสีของหนังเรื่องนี้ไม่ได้
ต้องหาเสื้อผ้าสีนี้มาใส่บ้าง เเม้ใส่เเล้วจะไม่มีประกายเท่า
สีเขียวมีหลายโทนนะคะพี่ม้อย... มันต้องมีสักอันหล่ะน่าที่ใส่เเล้วเเจ่ม
Ethan Hawke ก็โอนะคะพี่ สงสัยจะไม่เเนวพี่ม้อยหล่ะมั้ง
ยังมิเคยได้ดูเลยฮะ มีแต่หนังสือภาคภาษาอังกริดที่ยังอ่านไม่จบ
ตอบลบแย้จาง
...ปรูต่าย ปรูต่าย
ตอบลบ(พี่ก้อชอบตอนนี้นะ)
โอ้ววววว ลืมตอนนี้ไม่ด้ายเลย
ตอบลบไฮโซมั่กนะน้า
ตอบลบสีเขียวติดตา ดูครั้งแรกตอนเรียน Eng วิชานึง เค้าให้อ่านเป็นหนังสือนอกเวลา ทั้งที่เล่มโคตรบางแต่ก็อ่านไม่จบ เลยไปเช่าหนังมาดู อื้อหือ ดุหนังแล้วติดใจพยายามกลับไปอ่านหนังสืออีกรอบ...แต่ก็ไม่จบอยู่ดี...
ตอบลบสีเขียวติดตา ดูครั้งแรกตอนเรียน Eng วิชานึง เค้าให้อ่านเป็นหนังสือนอกเวลา ทั้งที่เล่มโคตรบางแต่ก็อ่านไม่จบ เลยไปเช่าหนังมาดู อื้อหือ ดุหนังแล้วติดใจพยายามกลับไปอ่านหนังสืออีกรอบ...แต่ก็ไม่จบอยู่ดี...
ตอบลบฮัมไมเราไม่ได้อ่านมั่งนะ
ตอบลบเคยอ่านแต่ a woman who disappeared (เขียนถูกป่าวหว่า)
จำได้ว่าหนังเรื่องนี้สีเขียว
ตอบลบ
ตอบลบเพิ่งซื้อ dvd เรื่องนี้มาเก็บไว้ใน collection หนังของตัวเอง
ดูหลายรอบแล้ว และดูกี่ครั้งก็ยังหลงเสน่ห์ความลึกลับของหนังเรื่องนี้อยู่
ชอบมากชอบขนาดซื้อ soundtrack เก็บไว้
เมื่อคืนวันก่อนก็เพิ่งได้ดูจากช่องเคเบิ้ล
สรุปว่า...ก็ยังชอบอยู่ดี...
และทำให้รู้ว่า แต่ละช่วงชีวิต ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ตีความไม่เหมือนกันเลยสักครั้ง :)
กรี๊ด กรี๊ด
ตอบลบเห็นด้วยเรื่องหนังเรื่องเดียว หนังสือเรื่องเดียว
อ่านแต่ละที ดูแต่ละที รู้สึกไม่เหมือนกัน
^_^
เห็นละอยากจูบปากเด็กนะ
ตอบลบ..น่าหนุกนะ
ตอบลบฉากจูบนั่นสุดยอดนะ มันให้อารมณ์กึ่งๆ ระหว่างอีโรติกกับไร้เดียงสา
ตอบลบอย่างอื่นจำไม่ได้แระ เว้นแต่...ฉากวาดรูปเปลือย
ตอบลบเหมือนกับเรื่องไททานิค ฉากอื่นลืมหมดยกเว้นฉากที่
แจ๊ควาดรูปเปลือยของโรส
...
การมีผู้อุปถัมภ์ในเรื่องซื้อผลงานบางที มันก็เหมือนดาบสองคม
ผลงานเราดีจริงหรือเพียงแค่...ดี...สวย...สำหรับบางคน
ธีมสีเรื่องนี้ มันเหงาๆ เศร้าๆ และหดหู่ยังไงไม่รู้
อือ...เข้าใจพูดแฮะ
ตอบลบก้อมันออกจาน่าจำนินา
ตอบลบเคยดูใน UBC สองสามหน แต่ไม่เคยดูเต็มๆทั้งเรื่องได้สักที
ตอบลบช่วงนี้หนังดีๆ ละเมียดละไมเข้าโรงหลายเรื่อง รอคุณ mois รีวิวอยู่นะ ชอบอ่าน
จำได้แต่ว่า หม่น มัว และเขียว
ตอบลบคร่าวหน้าไปเยือนเรือนริมน้ำต้องยืมพี่เทพบ้างละ
ตอบลบเหอ เหอ
ตอบลบหนังที่เข้าตอนนี้อ้ะหรอ อยากดูมันทุกเรื่องเลยล่ะ
แต่ว่า...
ถ้าเรามาเขียนพล่ามเสีย หนังเขาจะขาดรายได้เพราะว่าหลายคนไม่ต้องดูแล้วหรือป่าว?
นะ
ตอบลบเข้ามาโหวตเรื่องโปรด
ตอบลบชอบยัยป้า!
...ว่าแล้วเชีย
ตอบลบไม่รู้เป็นไง ถูกจริตกับป้าแก่จำพวกนี้มาก
ตอบลบยิ่งแต่งหน้าเวิ่นเวอ แต่งตัวเว่อร์ๆ หลงมาจากยุค '60
เหวี่ยงๆ บ้าๆ บอๆ บราบาร่ามากๆ ยิ่งอยากเข้าไปคุยด้วย . . . หนุกหนานดี
(บางทีก็นึกอยากมีแม่แบบนี้บ้าง -_-')
ดูเรื่องนี้ครั้งเดียวทางเคเบิล
ตอบลบภาพสวย แต่ไม่ค่อยประทับใจ
ชอบ Before sunrise กะ sunset มากกว่า
เ พราะพระเ อกเรื่องนี้ต่อมา เป็นนักเขียน
สองเรื่องนั้นยังไม่เคยดูเรย
ตอบลบI just watched this movie again this evening.
ตอบลบHowever, it is a lot of edit especially the scene that I told you.
Unfortunately, I didn't finish the movie coz I hv to go to work.
I do agree with you that Ethan Hawk does not look good.
But please see him in before sunrise and before sunset. (I used to find them from youtube)
เอ่อ ยังไม่เคยได้ดูซะที Before Sunrise
ตอบลบ