วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Atonement: พังกำแพงอคติ

Rating:★★★★★
Category:Movies
Genre: Drama
บ้างก็ว่าเป็นหนังอีโรติก บ้างก็ว่าเป็นหนังอีปิก
แต่ดิฉันมอง Atonement ว่าเป็นหนังดราม่าชั้นเยี่ยม

เยี่ยมเท่าไหร่นะเหรอ? เอาเป็นว่า ในความรู้สึกแล้ว Atonement จัดเป็นหนังดราม่าที่ดีที่สุดในหนังที่ได้ดูในรอบปีได้เลย

จะว่าไป ดิฉันซื้อตั๋วดูหนังเรื่องนี้ด้วยอคติงี่เง่า คือ ความไม่ค่อยปลื้ม Keira Knightley เท่าไหร่ (ไม่ได้อิจฉาเพราะชีได้จูบปากกับออร์แลนโด บลูม หรอก แต่กับ จอห์นนี่ เดปป์ มันเป็นอีกเรื่องนึงนะ-ฮึ่ม!) แต่พอดูจบแล้วต้องหันไปบอกป้าอ้อย เพื่อนหญิงใหญ่(กว่า)วัยแพลตินั่ม(โสด)ที่เกี่ยวก้อยมาดู เพื่อแก้ตัวจากกรณี Sweeney Todd เลยว่า
“หนังดีจัง ดีใจที่ได้ดู”

“Atonement ตราบาปลิขิตรัก” สร้างจากนวนิยายที่ได้ยินมาว่าขายดีมากๆ ของ Ian McEwan ดิฉันไม่เคยอ่านหรอก โดยเนื้อเรื่องก็มีพล็อตที่ดีอยู่แล้ว ทว่า พอมาทำเป็นบทหนังก็ยิ่งน่าทึ่ง เพราะคนเขียนบทเล่นหักเรื่องไปมา นำพาคนดูไปโดยที่เราเดาเรื่องไม่ถูกเลย บทจะจี้ความรู้สึกคนดู ก็จี้ซะร้อน ช่วงไหนจะเค้นความรู้สึกให้ร่วมด้วยช่วยเศร้า ก็ช่างทำได้ตามที่ตั้งใจ สมกับเป็นบทหนังดราม่าชั้นดี ซึ่งส่วนนี้คงต้องให้เครดิตกับ Christopher Hampton คนเขียนสกรีนเพลย์

และแน่นอนที่สุด Joe Wright ผู้กำกับ เจ้าของผลงาน Pride and Prejudice (2005) หนังที่สร้างจากวรรณกรรมชิ้นเอกของ Jane Austen นักเขียนสาวอังกฤษ ซึ่งดิฉันเองก็ปลื้มมากๆ กับฉบับแปลโดยจูเลียต (ภรรยาของศรีบูรพา) แต่กับตัวหนัง ยังไม่ได้ดูเพราะอคติเดียวกันที่มีกับคุณนางเอกปากเจ่อคนเดียวกันนี้ (กำแพงอคติกั้นโอกาสดีๆ อีกแล้ว)

Atonement น่าจะเป็นศัพท์ทางศาสนา หมายถึงการชดเชย หรือจะเรียกแบบเราๆ ก็ไม่น่าจะผิดไปจากการใช้กรรม ซึ่งกรรมที่ตัวละครนำต้องชดใช้ไม่ยักเป็นกรรมที่ตัวละครนั้นก่อขึ้นเอง แต่เป็นกรรมที่เกิดจากความแผลง ความเยาว์ ความเขลา และความรัก ความหวงแบบเด็กที่กำลังพยายามโตของเด็กหญิงอายุ 13 ปีไปซะงั้น

หนังเล่าถึงความรัก ทั้งด้านที่อ่อนหวาน ดูดดื่ม บริสุทธิ์สะอาด และอีกด้านที่อยู่ตรงกันข้าม คือความร้อนเร่า Passionate ของความรัก ความไม่เข้าใครออกใครของความรัก ความเห็นแก่ตัวเพราะว่ารัก จึงอยากจะได้ไว้ครอบครองคนเดียว รวมทั้งสิ่งที่คนเรากระทำได้เพราะมีความรักเป็นแรงบันดาลใจ

โปรดักชั่นของ Atonement ใหญ่ใช่เล่น 1 ใน 3 ของเรื่องเป็นฉากในคฤหาสน์ในชนบทของผู้ดีอังกฤษ เป็นการออกแบบฉากที่เลิศมาก ทำคู่ไปกับคอสตูม และการออกแบบแสงได้สวยลงตัวจริงๆ อีก 1 ใน 3 ที่เป็นฉากสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นก็ไม่มีอะไรจะติได้ โดยเฉพาะฉากรวมพลรอขึ้นเรือกลับที่ริมทะเลซึ่งถ่ายกันคัทเดียวนั้น (คัทเดียวจริงหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ทำได้เนียนมาก) เจ๋งจริงๆ

พูดถึงคุณน้องเคียร่า นางเอกจอมเผยอปากรอจูบของดิฉัน เธอก็ทำงานของเธอได้ดี มองหน้ามองตาเธอแล้วดิฉันก็ร้อนไปด้วย บทจะก็รักก็รักไปด้วย แล้วก็รอไปกับเธอ สงสารเธอไปด้วย นอกจากนี้ ดิฉันไม่อาจปฏิเสธว่าในหนังเรื่องนี้เธอสวยจริงๆ ไม่ได้เป็นความสวยที่เพอร์เฟคท์แบบนางฟ้าจักรวาล แต่เป็นสวยแบบที่เคียร่าจะสวย โดยเฉพาะสีปากตอนที่เธอแต่งชุดเขียว ชุดที่อาจทำให้เกิดเรื่องนั่นแหละ

James McAvoy พระเอกของเราก็ใช่เล่น ดิฉันน่าจะยังไม่เคยผ่านตากับงานของนักแสดงคนนี้เลย ก็ไม่รู้ว่าเขาไปหาตัวมาจากไหน ไอ้หล่อน่ะ ไม่หล่อมากหรอก แต่คนคนนี้เป็นคนมีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ของหนัง ตอนมองนางเอก ก่อนที่จะมีโอกาสได้บอกว่า I love you น่ะ

สงสัยจริงๆ ว่าเขาเล่น เขาซ้อมเขาเทรนกันยังไงนะ พระเอกนางเอกเล่นเข้าคู่กันชนิดที่ดูแล้วเชื่อหมดเลยไม่สงสัยอะไรเลย

อีกคนที่ต้องชมคือแม่หนู Saoirse Ronan ชื่อนี้จะอ่านว่าไรละเนี่ย (เซาอีร์? เซาร์อีส?) คนนี้นอกจากหน้าตาสวย (อีก 2-3 ปีอาจสวยชนะเคียร่า) แล้วยังเพอร์ฟอร์มได้สุดยอด ความเป็นดราม่าของหนังเรื่องนี้เป็นหนี้บุญคุณเด็กคนนี้อยู่ถึง 25% เชียวนะ ดิฉันว่า

สรุปว่า ใครอยากดูหนังดีๆ สักเรื่อง ใครชอบดูหนังดราม่า ไม่น่ารอจนเป็นดีวีดี ใครชอบหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือชอบหนังพีเรียด ควรรีบไปดูตอนที่ยังฉายที่โรงสยาม ส่วนใครที่ชอบเคียร่า หรืออยากจะดูเพราะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงฉากอีโรติกในเรื่อง

คงไม่ต้องรอให้ดิฉันชวนไปดูกระมัง?



***โปรดอย่าถือว่าบทความนี้เป็นการรีวิวหรือวิจารณ์ภาพยนตร์ เพราะมันเป็นเพียงแต่บันทึกความประทับใจจากหนังที่ได้ดู-ซึ่งอยากจะแชร์กับเพื่อนบ้าง-เท่านั้นเอง***

13 ความคิดเห็น:

  1. พรุ่งนี้ไปอุดหนุนในเครือเอเพล็กซ์ของเราดีฟ่า

    ตอบลบ
  2. อืมม อ่านแล้วน่าดูมากก แต่คงต้องรอแผ่นอะคร้าบบบ

    ตอบลบ
  3. น้องค่ะ

    พี่ไปอ่านรีวิวมาจากไบโอสโคบ เขาสัมภาษณ์ผู้กำกับเรื่องนี้
    แกบอกว่า ลองคัทอันนั้นยาวตั้ง 4.5 นาทีแนะ ผลาญเงินไปพอสมควร โชคดีที่ถ่ายแค่สามสี่เทค

    ส่วนน้องผู้หญิงที่เล่นเป็นเด็กเนี่ย
    ชั้นว่าเขาเป็นตัวเอกของเรื่องเลยนะ
    แบกหนังไว้ทั้งเรื่องเลย

    ตอบลบ
  4. เออ ป้าคะ ตกรง ชื่อน้องเค้าสมควรอ่านว่าไรคะ
    น้องจะได้จำไว้

    น้องแย้คะ (นี่คือชื่อเล่นจิงๆ หรอ?-พี่ควรเรียกน้องว่าไรดีคะ?) ทำไมไม่ไปดูในโรงเล่า จอใหญ่ดีนะแก จะได้ตืนตะลึงๆ กับทั้งฉากอีโรติกและฉากคัทเดียวนั่น โรงสยาม 100 เดียวเอง รอบเช้าวันเสาร์อาทิตย์ 80 บาทเองค่า (โฆษณาแฝง)

    ตอบลบ
  5. อือ น่าดูจริงด้วยล่ะ

    ตอบลบ
  6. พอดีที่ผมอยู่จะมีแค่หนังตามกระแส ที่ช้ากว่าเมืองไทย สัก สองสามเดือนได้ ครับ ( ไม่นับรวมหนัง bollywood ที่มีเยอะมาก ) เคยลองเข้าไปดูครั้งหนึ่ง แล้วรับไม่ได้กับความสะอาดและเบาะอันแสนนุ่มที่ทางโรงเค้าจัดให้ครับ

    แย้ ไม่ใช่ชื่อเล่นจริง ๆ หรอกครับ แต่เรียกผมอย่างนี้ได้ครับ

    ตอบลบ
  7. "โดยเฉพาะสีปากตอนที่เธอแต่งชุดเขียว ชุดที่อาจทำให้เเกิดเรื่องนั่นแหละ "
    น่าสนจังค่ะ
    จะมีโอกาสได้ดูมั้ยน๊อออออ

    ว่าแต่ทำไมไม่เคยเห็นโฆษณาหนังตัวอย่างเรื่องนี้เลยแฮะ

    ตอบลบ
  8. เป็นได้ว่ามันอาจจะไม่เหมาะกะเยาวชนอะค่ะ

    ตอบลบ
  9. ดูแล้วเจ๋งดีนะครับ

    มันคล้าย ๆ ว่า เป็นความผิดพลาดที่อยู่ในใจ เด็กตัวเล็ก ๆคนนึง ที่ มีความรักแบบ สาวแรกรุ่น

    สุดท้าย แล้วความรักนั้น ก็เป้นปัจจัยหนึ่งที่ัทำให้เธอ ต้องทำร้าย อนาคต ของคนสองคน ดดยไม่ได้ตั้งใจ

    ตอบลบ
  10. http://jaywis2006.multiply.com/reviews/item/43

    ขออนุญาตแจม ท่านเจ้าของบ้านนะครับ ด้วยความเคารพ ครับ ^^

    ตอบลบ
  11. ประทับใจเรื่องนี้เช่นกันครับ

    ตอบลบ