วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
อยู่ๆ ก็คิดถึงขึ้นมา
คุณตัวนี้ชื่อว่า "คุณขาว" ไม่ใช่หมาที่หม่าม๊าดิฉันเลี้ยงไว้ตั้งแต่แรกหรอก ว่ากันว่าคุณขาวอพยพจากบ้านยาย มาด้อมๆ มองๆ แถวๆ บ้านเรา-พอดีบ้านเราไม่มีรั้ว
หม่าม๊าดิฉันเห็นมาอยู่เรื่อยๆ คงจะเอ็นดู สงสาร เลยแกล้งวางชามข้าวเอาไว้ให้
หลังๆ คุณขาวเลยย้ายสำมะโนครัวมาเป็นการเกือบถาวร ที่ว่าเกือบก็เพราะเธอไม่ได้ทำตัวเป็นหมาในบ้านเต็มรูปแบบ
ออกแนว "หมาอิสระ" มากกว่า
คุณขาวไม่เคยยอมอยู่นิ่งให้ใครจับตัวมันได้ เธอยังคงรักษาระยะห่างระหว่างตัวเองกับคนในบ้านไว้เท่าเดิม แต่ดิฉันก็เชื่ออยู่ลึกๆ ว่า ถ้าไม่ติดที่หมาบ๊องซึ่งหม่าม๊าเลี้ยงไว้ประดุจลูกคนเล็ก (เพราะลูกจริงๆ ไม่มีใครอยู่ด้วยเลย) คุณขาวก็อาจจะยอมเข้าใกล้เรามากกว่านี้ ไม่วางตัวอยู่นอกวงโคจรอย่างนั้น
ดิฉันเห็นคุณขาวครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตา ด้วยดิฉันมักรำคาญหมาประเภทชอบประจ๋อประแจ๋ จึงรู้สึกปลื้มคาแรกเตอร์ของคุณขาว หมาตัวใหม่ สีขาวออฟไวท์เพราะไม่ยอมให้ใครจับอาบน้ำอยู่ไม่น้อย
เคยถามหม่าม๊าว่าทำไมมันไม่เข้าใกล้เรา และไม่ยอมให้เราเข้าใกล้ หม่าม๊าคงไม่รู้หรอก แต่ฟันธงว่าคุณขาวมันมี 'อดีตที่เจ็บปวด' ประมาณว่าตอนเล็กๆ คงจะถูกคนตีมา..อะไรพรรค์นั้น
ทว่า ในกลับบ้านประมาณครั้งที่ 2-3 ถัดจากครั้งนั้น มองหาคุณขาวไม่เจอ เจอแต่หมาขี้ประจบ ก็ถามถึง หม่าม๊าบอกว่า ก็ตามหาอยู่เหมือนกัน แต่วันก่อนเด็กๆ มาเล่าว่าคุณขาวมันตายแล้ว
เพราะว่ามันชอบไปแถวๆ หมู่บ้านทางโน้น แล้วคนในหมู่บ้านนั้นเค้าคงไม่ชอบหมา
เค้าเลยเอาอะไรบางอย่างผสมกับอาหารให้หมากิน หมาก็เลยตาย
ไม่ได้ตายแต่คุณขาวหรอก มีอีกหลายตัวเลย
ทีนี้เนื่องจากว่าคุณขาวเธอไม่ยอมเข้าบ้าน ก็เลยไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นตายร้ายดีอย่างไร ก็ได้แต่คิดกันไปว่า สงสัยไปเที่ยว เดี๋ยวก็คงมา
รู้แล้วก็สงสารจัง ตอนเด็กๆ ก็ถูกคนตีจนกลัว ไม่กล้าไว้วางใจ เลยไม่มีโอกาสมีความสุขในการประจ๋อประแจ๋เจ้าของ ไม่ได้มีความสุขในการแสดงความเป็นเจ้าของคนที่เป็นเจ้าของเหมือนหมาอื่น แล้วก็ยังต้องมาตายเพราะคนใจร้ายอีก
(แอบคิดไม่ได้ ว่าไม่รู้คนใจร้ายจะทำยังไงกับศพของมัน)
เห็นรูปแล้วคิดถึง
(มันคงไปดีแล้วกระมัง?)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
สาธุ
ตอบลบความผิดอยู่ที่คน ไปลงกะหมาซะงั้น
ตอบลบเลวมาก ... ทำงั้นได้ไง..ขอให้โดนแบบนั้นบ้าง..ฮือ T_T
ตอบลบเอ็ง
ตอบลบข้าว่า ทางหนึ่งที่เราจะลดความใจร้ายของคนได้ ก็คือ ต้องสร้างระบบหรือกฎในการเลี้ยงสัตว์ให้เป็นเรื่องเป็นราว
บอกตามตรง ความใจบุญของบางคน มันไม่ได้มาพร้อมความรับผิดชอบ
ตอนอยู่บางกอก มีคนข้างบ้าง รักสัตว์ ชอบเอาอาหารให้หมาให้แมว
แล้วไง มันมาอึใส่ แล้วก็อะไรอีกสารพัด
สรุปคือว่า มันมาก่อความรำคาญ
พอไปบอก เขาว่าไม่ใช่หมาเขา ไม่ใช่แมวเขา
นี่แค่รำคาญ ยังไม่นับที่ข้าเคยเห็นคนขับรถหลบแล้วล้ม หรือชนแล้วล้ม
พอถึงเวลานั้นคนใจบุญไม่เห็นออกมารับผิดชอบ
มันถึงเวลาต้องมีกฎที่เป็นกฎ
กร
ตอบลบเอ็งกำลังด่าว่าแม่ข้าเลี้ยงหมาไม่ดูแลป่าว?
T_T
เปล่า
ตอบลบข้าแค่ว่า แต่ละคนมันก็มีเหตุผลของตัวไง
ฉะนั้น นอกจากการหวังให้เขามีใจเอ็นดูสัตว์แล้ว (ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว)
สังคม ต้องมีเครื่องมือที่เป็นรูปธรรมด้วย
"ทางหนึ่งที่เราจะลดความใจร้ายของคนได้ ก็คือ ต้องสร้างระบบหรือกฎในการเลี้ยงสัตว์ให้เป็นเรื่องเป็นราว"
ประเด็นอยู่แค่นี้แหละ
ปัญหามาจาก ลูกหมาลูกตัวน้อยๆ น่ารักๆ แต่พอโตมามันไม่น่ารักแล้ว
ตอบลบก็เลยเอาไปปล่อย ไม่ก็พอมันมีลูกก็เลี้ยงไม่ไหว เอาไปปล่อยอีก
ทีนี้ก็เต็มบ้านเต็มเมืองเลย ไปออกลูกออกหลาน ขี้ไปเรื่อยเลย ต้องมีกฎครับอย่างที่คุณ korndola
แต่ว่า แมว เมี๊ยวนี่สิ ทำไงเนี่ย ผมก็ไม่อยากให้มันออกจากบ้านหรอกนะ
บ้านก็รั้วรอบขอบชิดดี แต่มันข้ามได้อะ กำแพงสูงตั้งสองเมตรกว่า มันยังขึ้นได้
ทำไงดี จะเลี้ยงแมวสงสัยต้องสร้างบ้านเป็นกรงนกซะละมั้ง
เห็นด้วยว่าคนเลี้ยงหมาแมวต้องเคารพสิทธิ์ของคนไม่เลี้ยง
ตอบลบแต่ช่วยไม่ได้ที่หมาแมวต้องออกจากบ้านไปหาสาว
เพราะนั่นคือธรรมชาติของมัน
ไม่เห็นด้วยกับคนที่รังเกียจขี้หมาขี้แมว แล้วก็เอาน้ำร้อนสาดมัน เอาของปามัน ด่ามัน ตีมัน หรืออย่างร้ายแรงที่สุดคือ เบื่อมัน
ความจริงข้อหนึ่งมีอยู่ว่า ตราบที่เมืองไทยยังไม่สิ้นหมาข้างถนน ขี้หมาก็ไม่มีวันหายไปจากฟุตปาธ
ถ้าอยากให้มันหาย ก็ต้องช่วยกันเก็บจ่ะ
เอาแต่บ่นหรือก่นด่า ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา
ป.ล. ใช้ถุงสวมมือ เก็บอึ เสร็จแล้วพลิกถุงกลับด้าน รัดให้เรียบร้อยก่อนทิ้งถังขยะด้วยนะ
อันที่จริงก็อยากอยู่บ้าน
ตอบลบแล้วก็เลี้ยงหมาตัว แมวอีกตัว ถ้าบุญถึง
หมานี่เป็น Therapist อย่างดี สำหรับบำบัดเวลาจิตตก ดมกลิ่นหมา+ลูบไล้ๆ หมาแล้วจะหาย
ตอนเด็กๆ สามพี่น้องที่บ้าน เวลาน้อยใจพ่อแม่ก็ไปหลังบ้าน ไปร้องไห้กับหมา ถ้าตัวไหนใจดีมันจะช่วยปลอบโดยการเลียให้ด้วย
ส่วนแมวนี่ดี มันชอบเตือนให้เราคอยคุมอีโก้ เพราะว่ามันเป็นไรที่ไม่ค่อยตามใจคน ตามใจแต่ตัวเอง
ว่าแล้วก็อยากกลับบ้านจัง อยากกินข้าวคลุกปลาทูทอดกะแกงจืดตำลึง
มนุษย์นี่แหละร้ายสุดแล้ว
ตอบลบ