วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2551

เบื่อตัวเอง

หน้าตาก็แค่บ้านบ้าน
สติปัญญาก็เฉยเฉย
พรสวรรค์ไม่มี
ความพยายามไม่เคยปรากฏ
เรียนหนังสือก็เรียนไปงั้นๆ
ก็เลยไม่มีสิทธิจะเลือกงานดีดี
เรื่องผู้ชายไม่ต้องพูดถึง
ที่เขารักก็ไม่รู้จักถนอม
เลือกไปรักคนที่เขาไม่รัก
พออกหักก็มาคบกับคนไม่เคยเข้าใจ
เบื่อไหม
เบื่อจะตายอยู่แล้ว

วันนี้กลับมาจากสอบภาษาญี่ปุ่น Y1
ไม่อยากจะโทษว่า สสท. ออกข้อสอบยาก
(ยากจริงๆ นะ)
แต่อยากด่าตัวเอง
เสียเวลาเรียนไป 3 เดือนกว่า ทำไมไม่ลงทุนอะไรบ้างเลย
ศัพท์ก็ไม่ท่อง แกรมม่าก็ไม่อ่าน
เรียนภาษาใหม่นะเฟ้ย ทำงี้ได้ไง
โดดงานมาอ่านหนังสือก่อนสอบ 1 วันแทบไม่ให้ผลอะไร
(แต่ได้รู้ว่าอ่านหนังสือไม่กี่ชั่วโมงเข้าใจอะไรเพิ่มขึ้นอีกเยอะ-แต่กับศัพท์น่ะ ต้องท่องทุกวันนะยะ ถึงจะจำได้)
ในห้องสอบวันนี้เลยทั้งมึนทั้งอาย มึน เพราะจำอะไรไม่ได้ อ่านข้อสอบยังไม่ค่อยจะออก
อายนี่ก็อายเซนเซ ถ้าแกแอบอ่านข้อสอบเรา แกคงละอาย ที่เสียเวลาสอนยายคนนี้ตั้ง 3 เดือนกว่า
เหมือนไม่มีอะไรซึมเข้าสมองชั้นเลย

เซ็งชีวิต
เมื่อไหร่จะจริงจังกับชีวิตเสียที
สอบคราวนี้ตกแหง๋
ซึ่งก็แปลว่าถ้าอยากเรียน Y2 ต้องสอบซ่อม
ปัญหาคือจะซ่อมไหวไหมละเนี่ย

ที่บ่นนี้แค่บ่นให้คนกันเองบางคนได้อ่านเท่านั้น
อ่านแล้วอย่าคิดมาก
แค่ขอบ่นหน่อยนึง

เบื่อตัวเอง
เบื่อตัวเอง
เบื่อตัวเอง

12 ความคิดเห็น:

  1. ที่บ่นๆ มาเนี่ย
    ไม่เกี่ยวอันใดกับ"ชีวิตทาส" ใช่มั้ย?

    ตอบลบ
  2. Headshot อันนี้สวยสคราญมาก

    โทษนะไม่ค่อยเกี่ยวกับที่น้องบ่นเท่าไหร่ แต่อยากบอก

    ตอบลบ
  3. ให้กำลังใจซะหน่อยนะ

    แค่แกกล้าและพยายามขวนขวายไปเรียนภาษาอื่นๆ ทั้งสเปนและญี่ปุ่น ก็เลิศแล้ว
    ระหว่างทางย่อมได้เรียนรู้พอสมควร
    ส่วนปลายทางจะเป็นไง อย่าไปซีเรียสมากนัก

    ตอบลบ
  4. โอป้าขา
    รักป้าที่สุด (ป่าวแหล๋)
    คือถึงจะได้รู้ว่าตัวเองอุบาทว์แค่ไหน
    แต่การโดดงานไปอ่านหนังสือเมื่อวานนี้ทำให้น้องได้ทราบว่า
    แค่เราอ่านหนังสือจิงๆ จังๆ และมีสมาติ๊เพียง 4-5 ชั่วโมงนั้น
    ก็ทำให้อะไรบางอย่างซึมซาบเข้าสู่สมองเราไม่น้อย
    แม้ว่าเราจะยังจำศัพท์ไม่ได้ก็ตาม

    เรียกว่าการสอบครั้งนี้ทำให้คุณน้องทราบว่า ถ้าขยันอ่านขยันทวนกว่านี้
    การสนทนากับชายญี่ปุ่น(หล่อ)คงไม่ไกลเกินฝัน

    รูปเฮดช็อตนี้คุณน้องดูเหมือนบียองเช่ใช่มั๊ยล่า??
    อุตส่าห์เอาไปทำให้สีผิวเข้มขึ้นนะเนี่ย

    ตอบลบ
  5. ไม่เกี่ยว ไม่เกี่ยว
    การไปเรียนภาษาญี่ปุ่นไม่มีใครมากราบกราน
    ชั้นแส่ไปของชั้นเอง

    ไอ้ชีวิตทาสนั่นประชดเรื่องงาน
    ชีวิต(โสด)ของกูตอนนี้เหมือนไม่ใช่ชีวิตตัวเอง
    มีแต่ต้องทำอะไรๆ ให้คนอื่น
    ทั้งงานราษฎร์งานหลวง ยิ่งงานฝิ่นนะ เค้าจิกทวงงานชั้นยังกะไก่ไซ้หาข้าวเปลือก
    ไหนจามีคิวไปเยี่ยมเพื่อน เพื่อนอกหัก ประดิษฐ์สิ่งของให้เพื่อน
    ฯลฯ
    เหนื่อยจะตายห่าอยู่แล้ว
    เสาร์อาทิตย์จะนอนแผ่สักวันยังรู้สึกผิดเลย

    ถ้ามีแฟนชีวิตจะดีขึ้นไหมนะ
    (อาจจะมีคนมาเป็นทาสแทนเราไง?)

    ตอบลบ
  6. ดีใจจังเราได้เป็น "คนกันเอง" ด้วยล่ะ ^ ^

    ตอบลบ
  7. ลืมให้คอมเม้นท์ (- -)"
    พ้อนว่าความรู้สึกเวลาเรียนอะไรมันก็คล้ายๆ กันน่ะแหละเจ๋
    มันจะกดดันเราเฉพาะเวลาสอบ พอเข้าห้องสอบจะรู้สึกไม่ดีเวลาไปนั่งมึนอยู่หน้าข้อสอบ และสุดท้ายจะคนพบว่า แค่อ่านไป+ทุ่มเทกว่านี้ก็สบายไปแล้ว ^ ^
    อาการสากล อะค่ะ
    แต่ สุดท้ายตอนเรียนเสร็จก็ต้องรู้สึกฉลาด (นิดๆ) + ฟังคนอื่นที่อยู่ในแวดวงคุยกันรู้เรื่องมากขึ้นก็โอฯ แล้วนี่นา

    ตอบลบ
  8. ฟังออกแค่เวลา
    hai กับ
    arigatogosaimastsu เนี่ยหรอคะ
    T T
    อายเซนเซอ่ะ
    อายเซนเซ

    ตอบลบ
  9. พี่ม้อย อะไรๆ ที่เราคิดว่าแย่ในวันนี้
    เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

    แปลกเนอะ คนเราส่วนมักคิดว่าชีวิตตัวเองแย่ๆ ทั้งนั้น
    ทั้งที่จริงแล้วมันมีดีกว่าคนอื่นๆ อีกตั้งเยอะ

    พี่ม้อยจำตอนเราไปกีฬาสีที่อมรินทร์ได้ไหม ในปีแรกที่เราได้รู้จักกัน
    วันนั้นที่ใต้ต้นหางนกยูงแห้งๆ...พี่ม้อยก็พูดจาคล้ายอย่างนี้แหละ

    วงจรอารมณ์คนเรามันอาจเวียนกลับมาที่เดิม
    แต่ไม่นานพี่ม้อยก็จะกลับมาเป็นสาวใหญ่ ผู้สดใสซาบซ่าและเป็นที่รักยิ่งของชาวmultiply

    ก็การไปเรียนภาษาญี่ปุ่น เรียนแล้วมีความสุขกับมันก้น่าจะเพียงพอแล้ว ผลจะเป็นอย่างไรก็ช่างมันเถิด
    ไม่มีผลกับคะแนนโอเน็ต เอเน็ต หรือสอบเอ็นทร้านซ์อะไรนี่นา

    ตอบลบ
  10. ช่วงนี้เป็นสาวน้อยไปก่อน

    ตอบลบ
  11. วุ้ย
    กรโดล่าวาจาถูกใจ

    ตอบลบ
  12. โอ๋ที่รัก
    พี่จำไม่ได้

    ตอบลบ