วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2552

จดหมายถึงคุณมิ่ง


 

จันทร์ที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๑

มิ่ง,

 
            จำได้ไหมในวันที่เจอกันครั้งแรก เราคุยกันถึงหนังเรื่องโปรด เธอพูดถึงหนังเจ๋งๆ หลายเรื่องที่ฉันยังไม่ได้ดู แล้วฉันก็พูดเล่นๆ ว่าให้เธอเขียนรายการมาเลย เดี๋ยวฉันจะไปหามาดู

            จนแล้วจนรอด รายการของเธอก็ยังไม่เสร็จ และในวันที่เราเจอกันเป็นครั้งสุดท้าย เธอไม่รอเขียนรายการแล้ว เธอนำมันมาให้ฉันเลย

            The Fountain คือหนังที่เธออยากให้ฉันได้ดู ครั้งนั้นฉันถาม ทำไมถึงเป็นเรื่องนี้’ ‘เธอชอบอะไร ในนั้น’ ‘เรื่องเป็นยังไงอะฯลฯ ฉันคงถามจนเธอตอบไม่ถูก ก็เลยไม่ตอบยาวไปกว่า ชอบผู้หญิงคนนั้นมั้ง ...ผู้หญิงคนที่เธอบอกว่าชอบ แต่จำชื่อไม่ได้ เธอชื่อ ราเชล ไวสซ์ นะจ๊ะ


            ฉันยังดองหนังของเธอไว้ตั้งนาน เพราะว่าหัวอ่านดีวีดีที่มีมันใช้ไม่ได้แล้ว ไม่ยอมอ่านอะไรทั้งสิ้น ตายสนิท ระหว่างการดองเค็ม ฉันเหลือบไปเห็น The Fountain ของเธอเป็นบางครั้งบางคราว แต่ก็ได้แต่ผัดกับตัวเองว่า เดี๋ยวจะซื้อหัวอ่านใหม่แล้วจะดู

            ฉันได้หัวอ่านใหม่ในวันก่อนวันสิ้นปี และฉันได้ดูหนังของเธอแล้วเมื่อคืนนี้ หลังจากมันมาอยู่กับฉันตั้งเดือนครึ่ง และฉันมีคำถามมากมายจะถามเธออีกแล้ว

 

            มิ่ง.. ต้นไม้โบราณในเรื่อง ใช่ต้นเดียวกับที่เธอเคยเล่าให้ฉันฟังหรือเปล่า? ต้นไม้ต้นนั้น คือต้นไม้แห่งชีวิตใช่ไหมมิ่ง?

            มิ่ง.. ที่อยากให้ฉันดูหนังเรื่องนี้ เพราะเธออยากให้ฉันได้สัมผัสกับความโศกเศร้าอาดูรจากการสูญคนรัก เฉกเช่นตัวละครในเรื่องที่เสียภรรยาไปโดยช่วยอะไรไม่ได้ กระนั้นหรือ?

            มิ่ง.. เธอรู้ไหม? เมื่อคืนฉันน้ำตาหล่นเมื่อเห็นน้ำตาของ ทอมมี่หลั่งออกมาหลังจากพบว่าภรรยาของเขาได้จากไปแล้วจริงๆ และวันนี้ ฉันได้เห็นอีก จากดวงตาพ่อ ผู้ถือภาพถ่ายของลูกสาว ที่ตามหาลูกมาตั้งแต่รู้ว่าเธอคนนั้นหายไปในกองไฟโหมซานติก้าในชั่วโมงใหม่ ของปีใหม่

            มิ่ง.. ทำไมน้ำตาที่หลั่งให้การจากไปของคนรักจึงทำร้ายใจคนที่ได้รับรู้อย่างฉันได้รุนแรงนัก?

            มิ่ง.. บอกฉันหน่อย ความรู้สึกระหว่างคนสองคน หากมันคือความรักอันแท้จริงแล้ว มันจะเบาบางจนพร้อมจะลอยหายไปพร้อมลมหายใจที่หลุดลอยของคนรักอย่างนั้นหรือ? หรือว่า แท้ที่จริงแล้วมันเป็นความรู้สึกที่แสนจะหนักแน่น และฝังลึกลงไปในใจของคนที่ยังอยู่?  

            มิ่ง.. ด้วยหนังเรื่องนี้ เธอกำลังบอกเล่าความรู้สึกที่อัดแน่นมานานในใจเธอกับฉันใช่ไหม?

            มิ่ง.. บอกฉันได้ไหม ความเจ็บปวดโศกเศร้าในใจของเธอ มันเกิดขึ้นจากสิ่งใด ความสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รัก หรือเพราะเธอยังติดค้างบางอย่างกับเธอผู้นั้น หรือเพราะเธอรู้สึกผิด ที่ไม่อาจช่วยเธอผู้นั้นได้ เช่นเดียวกับที่ทอมมี่ไม่อาจช่วยชีวิตอิซซี่?

            มิ่ง.. บอกซิ อะไรจะช่วยพาเธอออกมาจากโลกแห่งความเจ็บปวดได้? ต้นไม้แห่งชีวิตในสวนอีเดนช่วยได้ไหม?   

 

            แล้วสวนอีเดนอยู่ไหนกันล่ะ มิ่ง?

            ...เธออยากให้ฉันช่วยหาไหม

 

เพื่อนของเธอ,

ม้อย

 

 

หมายเหตุ

-The Fountain (2006)

-เขียนเรื่อง สกรีนเพลย์ และกำกับโดย Darren Aronofsky

-นำแสดงโดย Hugh Jackman และ Rachel Weisz

 

 

 

 

16 ความคิดเห็น:

  1. โห หนักหน่วง ซาบซึ้ง

    ตอบลบ
  2. ทั้งซึ้งทั้ง อัพเดท สุดๆ
    ความรัก ความผูกพัน เมื่อคนนึงจากไป และเวลาล่วงไปนานแสนนาน
    ความรักและความผูกพันก็จะเลือนลางไป แต่ไม่ได้หายไป

    ตอบลบ
  3. อ่อ ได้ดูนะเรื่องนี้

    ตอบลบ
  4. ไม่กล้าบอกว่ารู้เรื่องนะ แต่มันเป็นหนังสามเรื่องมาเชื่อมกัน

    ตอบลบ
  5. ดูแล้วนึกถึงวลีทางพุทธที่ว่า อกาลิโก (มั้ง) ทำนองว่า ทุกอย่างมันเป็นเช่นนั้น การที่ใครสักคนจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดไปแล้ว จะพยายามกี่ภพชาติก็ไม่อาจเปลี่ยน เหมือนใจคนที่ไม่รักแล้ว ให้พยายามสักเท่าไหร่ก็ป่วยการ

    อ้อ เรื่องนี้ก็คล้ายๆ กับเรื่องที่คุณนำเพลงประกอบมาขึ้นในเอ็นทรี่เหมือนกันนะ

    ตอบลบ
  6. บางทีลึกๆ แล้วเราแค่ไม่ยอมแพ้
    รับไม่ได้ที่จะเป็นคนถูกทิ้งน่ะ

    อย่างใน Fountain เนี่ย
    ก็เพราะพี่พระเอกเค้าก็ไม่เหมือนกัน

    แหม๋ดีใจจัง ยังมีคนมาอ่านบล็อกเก่าๆ ที่แสนพิเศษบล็อกนี้

    ตอบลบ
  7. แวะเวียนเข้ามาตามกาลและเวลาเหมาะสมครับคุณม้อย

    ว่าแต่มีใครเคยบอกว่าคุณหน้าเหมือนเฟย์ หว่อง มั้ย?

    ตอบลบ
  8. เหอ เหอ
    ไม่เคยค่ะ

    แฟนเฟย์ หว่อง รู้เข้ามีกรี๊ดนะเนี่ย

    ตอบลบ
  9. นึกว่าคุณเองที่กรี๊ด เพลง Eye on me ล่ะ? ชอบมั้ยชอบมั้ย?

    ตอบลบ
  10. ดีฮะ ฟังแล้วหลับฝันหวาน
    ^_^

    ตอบลบ
  11. ตะแรกคิดว่าเหมือนเฟย์ หว่อง ในชุงกิง
    T-T

    ตอบลบ
  12. แล้วหล่อนคือใคร?
    เอารูปมาดูหน่อยซิ

    ตอบลบ
  13. คุณเป็นใครกันแน่ สันติบาลหรอยะ?

    ตอบลบ