วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2552

ฉันเชื่อในการให้


๑๒. ทานจักร ๑๐ ประการ

 

หากเมล็ดพันธุ์แห่งความรักความเมตตาได้เจริญงอกงามขึ้นในจิตใจของเราแล้ว เราจะตระหนักว่าเรารักชีวิต เราต้องการความสุข ชีวิตอื่น สัตว์อื่น ต่างก็รักชีวิต และปรารถนาความสุขเช่นกัน สาระแห่งชีวิตคือ ความรัก ความเมตตา อานุภาพแห่งความเมตตาจะนำมาซึ่งความสุขและความเบิกบานแก่ทุกชีวิต สำหรับเราทุกคน ในฐานะชีวิตหนึ่งในโลกกว้างใหญ่ เราอาจไม่ยิ่งใหญ่พอจะแก้วิกฤตของโลกได้ แต่ด้วยความรัก ความเมตตาที่มีในหัวใจของเรานี้ เราสามารถทำสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นในโลกได้มากมาย

 

ช่วงหนึ่งอาจารย์ได้เคยพิจารณาว่าข้อธรรมะของพระพุทธองค์ข้อไหนจะสามารถแก้ปัญหาของโลกได้ และไม่ขัดแย้งต่อเชื้อชาติ หรือลัทธิศาสนาใดๆ และมองเห็นว่า หลักของศีล ๕ เมตตาธรรมและการให้ทานน่าจะมีความเหมาะสมที่สุด

 

ศีล ๕ เป็นพื้นฐานของสังคมที่ปลอดภัย สงบร่มเย็น เมตตาธรรมและการให้ทานจะทำให้ทุกคนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีความเอื้ออาทรต่อกัน ความคิดดังกล่าวเป็นที่มาของ ทานจักร ซึ่งหมายถึงวงล้อซึ่งมีใจที่มีความเมตตากรุณาเป็นศูนย์กลาง และแสดงออกถึงความเมตตาในจิตใจด้วยการลงมือกระทำความดีอย่างตั้งใจแน่วแน่

 

ความดีนั้นคือ การบำเพ็ญทาน ๑๐ ประการ ได้แก่

 

๑.     ให้ทานด้วย ทรัพย์สินเงินทอง

๒.     ให้ทานด้วย สายตาที่เมตตาปรานี

๓.     ให้ทานด้วย ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส

๔.    ให้ทานด้วย วาจาที่ไพเราะน่าฟัง

๕.    ให้ทานด้วย ให้แรงงานช่วยเหลือผู้อื่น

๖.     ให้ทานด้วย การอนุโมทนายินดีเมื่อผู้อื่นทำดี

๗.    ให้ทานด้วย การให้อาสนะ (ที่นั่ง)

๘.    ให้ทานด้วย การให้ที่พักอันสะดวกสบาย

๙.    ให้ทานด้วย การให้อภัย

๑๐. ให้ทานด้วย การให้ธรรมะ

 

เมื่อวงล้อแห่งทานนี้หมุนเข้าไปที่แห่งใด จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในสังคม จะเกิดพลังแห่งการสร้างสรรค์ พลังที่จะร่วมกันผลักดันสังคมที่ดีงามให้เกิดขึ้น

 

ด้วยการหมุนของวงล้อแห่งทานนี้ ย่อมนำความสุขไปสู่เพื่อนมนุษย์ในสังคมวงกว้าง ยังความสันติสุขให้เกิดขึ้นในโลก

 

ขอให้พวกเราทุกคนจงเชื่อมั่นว่า สันติภาพโลกเริ่มตากพวกเราทุกคนที่นี่และเดี๋ยวนี้ ปลูกฝังจิตสำนึกแห่งรักและเมตตาไว้ในหัวใจ หมุนทานจักรแห่งสันติภาพให้เคลื่อนไปๆ บนพื้นทางที่มั่นคงแล้ว ด้วยศีล เพื่อประโยชน์สุขที่กว้างขวางแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยรักและเมตตาที่ไม่จำกัดขอบเขต ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีประมาณ


หมายเหตุ:


-คัดมาจาก "โชคดี" เล่มใหญ่ (สำนักพิมพ์ DMG Books) โดยพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

-เพิ่งอ่าน "โชคดี" เล่มเล็ก ที่หัวหน้าได้จากร้าน S & P (เขาจะจัดไว้ให้คนเลือกหยิบกลับไปอ่านได้ โดยทิ้งเงินบริจาคไว้ตามศรัทธา-บนสถานีรถไฟฟ้าสยามก็มี อิฉันเคยอ่านเล่มอื่นๆ) มาฝากลูกน้อง ก็ได้มาตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้วแหละ แต่อิฉันเพิ่งอ่านจริงจังเมื่อวันศุกร์ พอดีเสร็จงานแล้วว่างๆ เลยคัดตอนที่จับใจมาเขียนไว้ในเอ็นทรีก่อนหน้านี้ (คำคม#๑๖)

-ตกบ่ายวันเดียวกัน อิฉันก็ไปฟังแภลงข่าวเปิดตัว "โชคดี" เล่มใหญ่ ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ดังกล่าว (เวอร์ชั่นนี้แพงไปหน่อย ตั้ง ๑๕๐ บาท)

-แล้วก็ทำการคัดบทที่จับใจมาแบ่งให้อ่านกันอีก

-หนังสือเล่มเล็กๆ ของพระอาจารย์ ชนิดที่วางอยู่บนสถานีรถไฟฟ้าและร้าน S & P เหมาะมากสำหรับคนเมือง ไกลวัด และเบลอกับภาษาบาลี เพราะพระอาจารย์ท่านเป็นคนญี่ปุ่น ท่านเขียนด้วยภาษาที่ง่ายมากยกตัวอย่างได้อย่าง Practicle และก็ไม่น่าเบื่อเลย

-ได้ยินมาว่าพ่อแม่บางคนอ่านหนังสือของพระอาจารย์ให้ลูกๆ ฟัง จนแม้แต่เด็กสามขวบที่พ่อแม่พาไปนมัสการพระอาจารย์ยังรู้จัก และเรียกชื่อท่านถูกเลย

-พระอาจารย์พูดภาษาไทยเก่ง แต่ก็ไม่เหมือนคนไทยหรอก สำเนียงคงเป็นอะไรที่ฝึกยากที่สุดแล้วมั้ง แต่แค่ไวยากรณ์ของท่านในหนังสือที่ท่านเขียนให้อ่าน อิฉันก็พร้อมจะสดุดีความเพียรพยายามของคนญี่ปุ่นอีกครั้ง

-ตัวจริงท่านมีรัศมีเรืองรองของความเมตตากรุณาแผ่อยู่รอบๆ

-ท่านให้พรปีใหม่จับใจอิฉันมาก ท่านว่า "ให้คิดดี-พูดดี-ทำดี" ให้เมตตา ให้รู้จักขอบคุณ ให้พูดว่าโชคดี

สรุปว่าท่านให้มองโลกในแง่ดี มองหาแง่ดีของปัญหาน่ะ

-ดีจังที่ได้ไป



16 ความคิดเห็น:

  1. ดีใจจัง ม้อยเอาบทนี้มาลง สาธุ สาธุ สาธุ

    ตอบลบ
  2. ชอบเช่นกันค่ะ ขอบคุณนะคะ ^^

    ตอบลบ
  3. สงสัย สงสัย
    หล่อนก็เป็นคนใฝ่ธรรมอยู่ประมาณนึง แต่ไฉนเลย หล่อนจึงเป็นคนดุเดือดเลือดพล่านนัก (หรือเฉพาะแค่ทางวาจา เพราะทางอื่น หล่อนก็ดูใจดีมีเมตตาอยู่ไม่น้อย )
    หล่อนเป็นคนราศีมีน คนราศีนี้ เท่าที่ชั้นรู้จัก ไม่ค่อยมีลักษณะอย่างหล่อน หรือหล่อนเกือบ ๆ จะเป็นคนเมษ

    พูดถึงการให้ ชั้นว่าจะไม่เอ่ยถึง แต่มันนานเกินไปแล้ว ของที่ระลึกจากเสม็ดจากชั้น คนอื่นเขาได้กันตั้งแต่วันจันทร์ที่ 5 แต่จนป่านนี้หล่อนยังไม่ได้เลย...หรือเปล่า ส่วน postcardทั้ง 12 ใบของชั้น นี่ก็เกือบ 2 อาทิตย์แล้ว มันยังไม่โผล่มาให้ใครเห็น...บ้านเพแค่เนี้ยนะ

    ตอบลบ
  4. เข้าใจเลย ... รัศมีเรืองรองแห่งความเมตตา...
    มันเย็นสบายแบบไม่น่าเชื่อ...

    ตอบลบ
  5. เอ่อ...

    don't judge the book by the cover นะยะ
    ถ้าคนเรามันรู้จักกันได้แค่อ่านบล็อกดูรูปในมัลติพลาย
    งั้นการมองตากันมันคงไม่มีความหมายแล้วละหล่อน

    เออ ของที่ระลึกของหล่อนเนี่ย
    ชั้นยังไม่ได้รับแจ้งเลยว่ามันมาถึง
    แต่ไม่แน่มันอาจจะมาถึงแล้ว แต่ดองอยู่ในห้องนิติ
    นึกออกป่ะ เวลาที่นิติทำงาน เราแม่งก็ออกไปทำมาหากินเหมือนกัน
    แล้วเค้าน่ะ สงสัยจะคิดว่าเราจะตรัสรู้ได้เองว่ามีพัสดุส่งมาถึงมั้ง
    (ด่านิติตึกตัวเองให้คนอื่นฟังอีก)

    ตอบลบ
  6. ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้านะหล่อน

    ตอบลบ
  7. ท่านดูเป็นคน (พระ) ที่ดีจริงๆ นะยุ้ย

    ตอบลบ
  8. ม้อยหัดเมตตาอยู่ค่ะ
    เลยจับใจเป็นพิเศษ ^_^

    ตอบลบ
  9. เชื่อ เชื่อ
    เราไม่เคยเจอท่านนะ แต่เคยเจอพระสายปฏิบัติรูปนึง
    ที่มีรัศมีเรืองรองแห่งความเมตตาแบบนี้แหละ

    แค่ท่านเดินผ่านมันก็สงบเย็นบอกไม่ถูกแล้ว

    ตอบลบ
  10. อูย

    เมย์ไม่ถูกกะธรรมะ 55+

    สาธุค่ะ...

    ตอบลบ
  11. วัดท่านสวยน๊ะค่ะ
    เจ๊ไปมาแล้ว อยู่ที่กาญฯ
    สงบมั่กๆ

    ตอบลบ
  12. อยากไปมั่ง
    อยากรู้ว่าท่านจะทำวัดของท่านยังไง

    ตอบลบ
  13. Japaness style ค่ะ สวยๆ
    น้าเทพของแม่ฮาเลเป็นเด็กกาญฯคงได้เคยเห็นน๊ะค่ะ

    ตอบลบ