วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2552

เที่ยวสามแพร่ง




วันเสาร์ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๒

วันเด็ก
มั่วไปเดินเที่ยวสามแพร่งกับเด็กๆ
มีแพร่งภูธร แพร่งนรา แล้วก็แพร่งสรรพศาสตร์

ย่านนี้เมื่อก่อนเป็นวัง
ชุมชนเริ่มตั้งหนาแน่นมาตั้งแต่ ร.๕
เพราะฉะนั้น

ย่านนี้จึงมีผีเยอะ

หุ หุ หุ

(ความรู้น้อยด้อยค่า มีเรื่องเล่าทะเนี้ยเอง)

40 ความคิดเห็น:

  1. น่าจับไปนอนอ่านในสวน

    ตอบลบ
  2. อยู่ตรงไหนอ่ะ
    ไม่เคยสังเกตเห็นเลย

    ตอบลบ
  3. ยืนยันความเป็นตัวตนดีนะเนี่ย

    ตอบลบ
  4. บอกยากฮะ น้าต้น

    อยู่ตรงหัวมุมแพร่งภูธร ตัดกะถนนหน้าศาลเจ้าพ่อเสืออะ
    (ถูกใช่มิพี่ป๊อก?)

    ตอบลบ
  5. ป้ายประกาศสัญญาเช่าตึกอันนี้ อยู่ตรงหัวมุมตึกร้านชิกัจฉา
    ตรงทางออกไปถนนตะนาว (เส้นที่ผ่านหน้าศาลเจ้าพ่อเสือ) นะครับ
    ประธานชุมชนเล่าว่า มันเป็นป้ายหินอ่อน แต่ถูกทาสีทับไปแล้ว ก็เลยมองไม่ค่อยเห็น
    แล้วข้างในแพร่งภูธร ก็จะมีอยู่อีกอันหนึ่ง ที่หน้าอู่วิเชียร ครับ

    ปล.คุณม้อย เปลี่ยนสรรพนามเรียกผมแล้วเรอะ..ฮิฮิฮิ..รู้สึกว่าตัวเองแก่ยังไงชอบกล..

    ตอบลบ
  6. ฮาเลก็ขอเรียก ลุงป๊อก ด้วยคนนะคะ

    หุหุ

    ตอบลบ
  7. อยากไปด้วย แต่เลไม่ยอมไป (ห่วงจับฉลาก)

    น่าสนุกนะ เดินเล่น อากาสหนาว มีคนพาเที่ยวอีกต่ะหาก

    ตอบลบ
  8. ซักผ้าอาทิตย์ละครั้งป่าว?

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณครับ
    ระเอียดดีเลยครับ
    ไว้วันหลังผ่านจะลองไปสังเกตดู

    ตอบลบ
  10. เดี๋ยวถ้าออฟฟิศผมผลิตแผนที่คู่มือเดินเที่ยวออกมาเมื่อไรแล้ว ผมจะส่งไปให้นะครับ
    จะได้มาเดินเที่ยวเองได้
    หรือว่าถ้าอยากมาเร็วกว่านั้น ก็ติดต่อมาได้นะครับ
    เดี๋ยวผมจะพาเดินเที่ยวเอง

    ตอบลบ
  11. อยากให้ลุงป๊อกพาทัวร์ชิมของอาหย่อย-อาหย่อย
    (เนียนมะฮะ?)

    ตอบลบ
  12. เอาขึ้น MTP ด้วยครับ จะดูเป็นตัวอย่าง
    แถวบ้านคุยกันตั้งนาน แต่ไม่มีคนทำซะที

    ตอบลบ
  13. คริคริ ไม่ผิดแน่ ตัวจริงเสียงแท้ ดู รองเท้าก็ใช่

    ตอบลบ
  14. ได้ครับ...นัดมาก็แล้วกัน
    ที่แพร่งภูธร มีร้านอาหารอร่อยหลายร้าน
    หรือที่แพร่งนรา ก็มีร้านขนมเบื้องร้านเดิม
    เอ๊..วันนั้นคุณม้อยได้กลับไปชิมหรือเปล่าครับ?

    ตอบลบ
  15. ครับผม..แต่คงจะอีกสักพักใหญ่ๆ นะครับ
    รอให้เงินโครงการมาก่อน
    ตอนนี้มีไอเดียอยู่เต็มหัวเลย
    อยากจะปรับปรุงเล่มเดิมที่มีอาสาสมัครมาช่วยทำออกมาเมื่อ 10 ปีก่อนน่ะครับ

    ปล.บ้านคุณ korndola อยู่ที่ไหนเหรอครับ?

    ตอบลบ
  16. หน้าทอน เกาะสมุย ครับ

    ซึ่งหน้าทอน ก็เหมือนสามชุก หรือตลาดร้อยปีทั้งหลายในแง่ที่ว่า
    เป็นส่วนของเมืองที่โตก่อน โตตามเศรษฐกิจดั้งเดิมของชุมชน
    พอเมืองเปลี่ยน ภาคอื่นโต (กรณีสมุยคือท่องเที่ยว) การใช้ที่ดินเปลี่ยน
    หน้าทอนที่เคยเป็นเมืองหลักก็ถูกลดบทบาท และไม่สามารถสร้างใหม่ขึ้นมาแทนได้


    ตอบลบ
  17. วันนั้นไม่ได้กินหนมเบื้องดังสูตรดั้งเดิมหรอกค่ะ
    แต่ได้ไปกินหนมเบื้อง complementary ที่บ้านดินสอแทน
    (ยัยเลติดใจอยากกินอีกแต่เขาบอกเขาเอามาให้ชิม ไม่มีขาย-ซะงั้น)
    ไว้วันหลังค่อยกลับไปชิมเนอะ

    ว่าแต่ว่าร้านขนมเบื้องนี่แกเปิดบ่ายๆ สินะคะ

    ตอบลบ
  18. แต่เหมือนไม่ "เก่า" เท่าสามชุกเนอะ

    ตอบลบ
  19. ขึ้นอยู่กับจะนับยังไงว่ะเอ็ง
    ที่ว่าการอำเภอก็ย้ายมานี้ประมาณ 112 ปี
    ศาลเจ้าประมาณ 150 ปี
    สเกลตลาดคงไม่โตเท่าสามชุก หรือ คลองสวน
    แต่เจอชะตากรรมเดียวกัน

    ตอบลบ
  20. ชะตากรรมไรฟะ

    เห็นที่คลองสวนเค้ารีแบรนดิ้งกันเอิกเริก
    (เขียนถูกไหมกรู?)

    ตอบลบ
  21. เมืองเปลี่ยนไงเอ็ง ต้องรีแบรนด์อย่างเอ็งว่า

    ตอบลบ
  22. ทำดีๆ นะโว้ย แผนรีแบรนด์น่ะ
    ทำชั่วๆ เน่าๆ
    เดี๋ยวผีบรรพบุรุษจะตามมาด่า

    ตอบลบ
  23. ข้าทำไม่ได้หรอก
    จะว่าไป ที่เปิดบ้านก็เป็นความพยายามเล็กๆในการรีแบรนด์

    ตอบลบ
  24. ทำยังไงจะรื้อฟื้นคุณค่า และรักษาความเป็นชุมชนแบบเดิมเอาไว้ได้
    ทำยังไงจะไม่โตเร็วเกินไป ไม่เสียเอกลักษณ์ของตัวเอง
    ทำยังไงจะไม่กลายเป็นแบบอัมพวา หรือปาย ที่ได้รับผลกระทบจากการที่มีคนแห่กันเข้ามาเที่ยวเสพบรรยากาศเก่าๆ
    ส่วนสามชุก นี่ ผมมองแล้ว ก็หวาดเสียวอยู่เหมือนกัน
    เรื่องนี้ต้องคิด ต้องคุยกันในชุมชนให้มากๆ ครับ

    ผมเพิ่งไปคุยกับคนที่จังหวัดน่าน เขาก็มองเห็นเรื่องนี้เหมือนกันครับ

    ตอบลบ
  25. เอ...ไม่แน่ใจครับ เดี๋ยวไปดูให้อีกทีหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าจะเปิดทั้งวันนะครับ

    ตอบลบ
  26. เรื่องควบคุมนี่ยาก ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นเจ้าของบ้าน
    เพราะ โดยส่วนมาก คนรุ่นลูกรุ่นหลานก็ไม่อยู่บ้าน ความผูกพันก็คงไม่มาก เหลือแต่คนแก่ๆ

    พอมันคึกคัก
    มูลค่าก็จะสูงขึ้น
    คนใหม่ก็จะเข้ามา ซึ่งคนใหม่มีทั้งกำลังทรัพย์ และกำลังต่างๆ
    เมืองใหม่จะไปทางไหนก็ต้องว่ากันอีกที

    แต่ ผมว่าการรักษาความเป็นชุมชนดั้งเดิม บางทีอาจไม่ใช่คำตอบ
    ถ้าชุมชนดั้งเดิมอยู่ได้จริง ทำไมมันถึงตายหรือเสื่อม ?

    ตอบลบ
  27. กำลังคิดว่าที่ที่ซึ่งเกือบจะรื้อฟื้นบรรยากาศเก่ากลับมาได้แล้วเชียว
    แต่ในที่สุดก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวจนเสียบรรยากาศที่ฟื้นฟูขึ้นมาได้ไปเสียฉิบนั้น
    คงอยู่ทีการจัดการน่ะค่ะ

    แน่นอนว่าการจะหยุดวันเวลาและบรรยากาศไว้ให้ได้แบบเดิมๆ มันก็ต้องลงทุน
    ทีนี้จะลงทุนกันไปทำไม ถ้าเป็นการจ่ายเปล่า? ลงทุนทำแล้วก็ต้องโปรโมทกันเป็นของธรรมดา
    โปรโมทแล้ว คนจากที่อื่น ที่เค้าอยากเห็น อยากสัมผัสเป็นของธรรมดา
    ทีนี้ ถ้าจัดการไม่ดี มันก็จะเสียของเหมือนอย่างที่หลายๆ ที่เป็นมาแล้ว

    ตอบลบ
  28. อาจไม่ใช่การอนุรักษ์ แต่เป็นการส่งช่วงต่อ
    สืบทอด อะไรอย่างนี้

    ตอบลบ
  29. สภาพปัญหาที่คุณเล่ามานี่คล้ายๆ กับที่จังหวัดแพร่ ที่ผมเพิ่งไปเจอมาเลยครับ..
    ก็คือ ลูกหลานวัยทำงานไม่อยู่ เหลือแต่คนแก่กับเด็ก พอคนแก่ตาย ลูกหลานที่ไม่เห็นคุณค่าของบ้านตัวเอง และต้องการแบ่งมรดก ก็ขายบ้านทิ้งซะ บ้านไม้เก่าๆ ก็หายไป จากนั้นถ้าไม่กลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ก็กลายเป็นบ้านหลังใหม่ขึ้นมาแทน คนเก่าๆ หายไป คนรุ่นหลังไม่อยากอยู่ ความเป็นชุมชนก็ค่อยๆ หายไปด้วย

    แต่คิดว่าที่เกาะสมุย น่าจะโดนเรื่องกลุ่มทุนเข้ามารุกรานมากกว่าที่แพร่มากๆ (เห็นคุณสุดารัตน์ เกฯ ก็กว้านซื้อที่ดินเอาไว้ไม่น้อยนี่นา) เพราะฉะนั้น อาการของเกาะสมุย ก็คงจะสาหัสมากกว่า เพราะคงต้องสู้กับกลุ่มทุนด้วย

    เรื่องการรักษาความเป็นชุมชนเนี่ย เราคงรักษาให้เหมือนเดิม 100% ไม่ได้อยู่แล้ว
    อย่างเช่นว่า เราคงไม่สามารถให้คนกลับไปนุ่งโจงกระเบน อะไรอย่างนี้
    แต่คุณค่าอะไรบางอย่างของชุมชนที่มีอยู่ หรือเคยมีอยู่นั้น ถ้ารักษา หรือรื้อฟื้นขึ้นมาได้ แล้วสังคมโดยรวมมันจะดีขึ้น ก็น่าจะลองนะครับ แต่ผมไม่มีคำตอบสูตรสำเร็จให้นะ เพราะแต่ละที่มันไม่เหมือนกัน มันขึ้นอยู่กับคนที่อยู่ในพื้นที่นั่นละครับ

    ที่แพร่งภูธร เรากำลังพูดกันถึงเศรษฐกิจแบบใหม่ ที่ใช้คุณค่าทางประวัติศาสตร์ของชุมชนให้เป็นประโยชน์ โดยที่ไม่ทำลายสังคม แล้วทุกคนอยู่ได้ด้วย แต่เรื่องนี้มันก็ยังไม่ชัดเจนเลย ผมคิดว่าทำงานไปสักพัก คุยกับชาวบ้านมากขึ้น ก็คงได้แนวทางเดินต่อ แต่เดาได้เลยว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ

    ตอบลบ
  30. ที่สมุยต้องแยกเป็นโซนๆครับ แต่โดยรวมก็อย่างที่ว่า คือ ทุนข้างนอกใหญ่มาก
    ทุนท้องถิ่นเดิมจริงๆ เล็กมาก (เทียบไม่ได้กับภูเก็ต ซึ่งทุนท้องถิ่นเป็นนายเหมือง ติดต่อกับ ตปท. มาตั้งนานแล้ว)

    ส่วนหน้าทอน มันก้ำกึ่ง คือ ไม่สามารถโตตามตลาดท่องเที่ยวได้ เพราะไม่มีจุดขายเรื่องนี้ ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้เล็กจนถูกทิ้ง มันเป็นสภาพทีการโตไม่เป็นสัดส่วนเดียวกับสมุยโดยรวมทั้งเกาะ เหมือนอยู่ไปเรื่อยๆ และมักจะถูกดึงเป็นส่วนสนับสนุนการท่องเที่ยวของสมุย

    ผมว่า คือ มันจะโตไปทางไหนเป็นอีกเรื่องที่ต้องคุยกัน เพราะแต่ละคนมีภาพของเมืองในฝันไม่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยที่สุดเมืองน่าจะตอบสนองสิ่งพื้นฐานที่รับประกันว่า คนอยู่อาศัยในเมืองนั้น คนที่ใช้เมืองนั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีนะ

    ซึ่งบางทีมันเปลี่ยนเร็วเกิน แถมใหญ่มากจนเหมือนเมืองจะพังเอา โดยเฉพาะโครงการจากรัฐนั่นแหละตัวดี เหมือนที่ครั้งหนึ่งผู้ว่าเกิดไอเดีย จะถมทะเลหน้าทอน 500 ไร่ เพื่อทำศูนย์ราชการ (คล้ายๆกับที่เชียงใหม่ค้านผังเมืองใหม่ที่จะขยายถนน)

    ตอบลบ
  31. คล้าย ๆ แถวท่าเตียนเลย
    เท่ดีค่ะ

    ตอบลบ