Rating: | ★★★★★ |
Category: | Movies |
Genre: | Drama |
อิฉันเองก็เป็น เป็นเอามากเทียวในตอนดูครั้งแรกที่ลิโด้ และเชื่อว่าบัดดี้ที่ดูหนังเรื่องนี้ด้วยกันนั้นก็คงไม่ได้รู้สึกต่างจากกันมาก คือคงจะถึงแก่สลดกับความแก่ขึ้นมาโดยฉับพลันทันใด
ก็พอแก่แล้วหามันอะไรดีไม่ได้เลยสักอย่าง ไม่ว่าจะแก่แบบมีลูกผัว หรือแก่แบบไม่มีใครเลย เพราะเอาเข้าจริง เพื่อนกะผัวก็แก่พอๆ กะเรา ลูก-ถ้ามี มันก็ไม่ได้มานั่งแก่กะเรา ครั้นจะหวังให้มันมานั่งปรนนิบัติพัดวี คอยดูแลอยู่เป็นเพื่อนเรา ก็คงเป็นเรื่องไกลเกินหวัง ก็นึกสิ ตอนนี้เรายังมีความฝัน ความอยาก ความทะเยอทะยานอีกเพียบ ที่อยากจะทำ อยากสำรวจโลกหรอ อยากมีผัวหรอ หรือว่าอยากมั่ว อย่างเมาจนคลานเป็นหมา อยากนอนกับผู้หญิงทีละสองคน อยากได้ดิบได้ดีทางการงาน อยากรวย อยากได้รับการยอมรับ หรือว่าอยากเรียนหนังสือสูงๆ อยากทำตามอุดมการณ์ ฯลฯ นอกจากความฝันแล้วไหนจะหน้าที่อีก รู้ไหม เพื่อนเราบางคนน่ะ นอกจากต้องหาเงินเลี้ยงลูกแล้ว บางทีก็ยังต้องเลี้ยงผัวด้วย
คนเป็นลูก ในเวลาที่มันยังมีเรี่ยวแรง มันก็จำเป็นจะต้องเอาเรี่ยวแรงไปจัดการกับชีวิต หน้าที่ และความฝันของมันเป็นไพรออริตี้แรก-ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ฉะนั้น ก็จงปลง และเตรียมใจรับความแก่เสียตั้งแต่บัดนี้เถิด
หนังเรื่องนี้ชื่อ Venus (๒๐๐๖) และแม้เรื่องราวในหนังจะเหมือนการบอกเล่าถึงพิธีกรรมก่อนลาโลกของชายแก่อายุกว่าเจ็ดสิบ (มอรีซ-Peter O’Toole) แต่ในเนื้อหนังไม่ได้พร่ำถึงแต่ความเก่า ชรา ความเสื่อม ความอึดอัด อืดอาด เชื่องช้า น่ารำคาญ (แหม๋..เขาเข้าใจคัดบรรยากาศชวนหดหู่นี้ในลอนดอนนะ)เพราะว่าในความไม่น่าอภิรมย์ สลดหดเศร้านั้นยังมีแสงเรืองรอง เจิดจ้าของวัยสาวสะพรั่งของวีนัสมาประดับบรรยากาศเปื่อยๆ ให้คนแก่ได้ชุ่มชื่นหัวใจบ้าง (อือ...ในบางมุม ลอนดอนก็มีแสงสวยๆ เหมือนกัน)
วีนัสคือเทพีแห่งความรัก มีรูปโฉมงดงามหยั่งที่เรารู้ๆ กัน แต่โปรดอย่าคิดว่า วีนัส หรือชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้คือเจสซี่ (Jodie Whittaker) จะเป็นสาวสวยเจ้าของรูปโฉมแสนพิสุทธิ์ไม่ผิดกับเทพีวีนัส เปล่าเลย วีนัสเป็นแค่เด็กบ้านนอกที่ถูกตาแก่ไม้ใกล้ฝั่งเรียก (ยกย่อง?) ว่า วีนัส ในโลกของเธอแล้ว เธอไม่ได้เป็นอะไรที่ดีไปกว่า "ส่วนเกิน" ของชีวิตแม่ เป็นผลผลิตของปัญหาสังคมแถวๆ นั้น (แถวๆ ไหนก็มีคล้ายๆ กันแหละฮะ พี่น้อง) นอกจากหน้าตาธรรมด้า-ธรรมดา วีนัสยังเป็นเด็กที่แม่ไม่รัก ไม่อบรม ไม่มีมารยาท ไม่มีความเป็นผู้ดี ไม่ได้เรียนหนังสือ จึงไม่แปลกที่จะทะเยอทะยานแบบโง่ๆ ไม่ใฝ่ไปในทางที่ดี (ก็ไม่ถึงกับนิสัยไม่ดีหรอก) และด้วยความที่เธอขาดรัก เธอก็เลยแสวงหารักจนน่าสงสาร
ยัยวีนัสถูกแม่ถีบให้มาอยู่กะตาในลอนดอน ด้วยเหตุว่าอยู่บ้านด้วยกันหล่อนไม่มีงานทำ ต้องเกาะแม่กินสถานเดียว ตาของวีนัสเป็นเพื่อนแก่ก๊วนเดียวกับลุงมอรีซ ลุงเลยมีโอกาสได้เจอยัยบ้านนอกคนนี้ ซึ่งตอนเจอกัน ก็ไม่เชิงว่ายัยเด็กนี่จะทำให้ลุงกลายเป็นเฒ่าหัวงู หรือโคแก่อยากเคี้ยวหญ้าอ่อนขึ้นมาอย่างฉับพลันหรอก (ต่อมลูกหมากของแกคงไม่เอื้ออำนวยช่วยแกเคี้ยวหญ้าอ่อนแล้วล่ะ) แต่มันเหมือนแกได้เจออะไรที่แบบว่า inspire ให้แก่มีชีวิตต่อไปอย่างกระชุ่มกระชวยอะ
ลุงมอรีซเมื่อหนุ่มๆ หล่ออย่างร้าย ก็แกเป็นนักแสดงอาชีพ ถึงกะเคยได้รับบทนำในแฮมเล็ตเชียว เชื่อว่าแกคงเป็นเสือผู้หญิงสุดๆ น่าจะเป็นประเภท “ต้องได้เอา ถ้าอยากจะเอา” แกเคยทิ้งเมียตอนกำลังอุ้มลูกอ่อน แถมลูกที่โตกว่าอีก ๒ คนยังไม่มีใครถึง ๖ ขวบเลยไปอยู่กับผู้หญิงใหม่ด้วยซ้ำ เอากะแกสิ (แต่ในหนังแกกลับไปดูแลเมียนะ-สภาพโทรมไม่ต่างกันเท่าไหร่เล้ย.. อนิจจัง อนิจจา ชีวิตคนแก่)
จริงๆ แล้วอิฉันไม่อาจเข้าใจได้หรอกว่าทำไมวีนัสถึงกระตุ้นลุงได้ขนาดนั้น เลยมั่วสรุปว่าคงเป็นไปตามสัญชาตญาณสัตว์เพศผู้ที่จมูกยังพอรับฟีโรโมนสาวสดได้อยู่ ความรู้สึกซู่ซ่า กระฉับกระเฉงที่เกิดขึ้นจากการกระตุ้นเนี่ย มันก็ดี ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้แกได้หน่อยนึง พร้อมๆ กันนั้นก็ช่วยให้แก Remind ถึงช่วงชีวิตที่ยังรุ่งโรจน์ เข้ากันพอดีกับจังหวะที่แกเชื่อว่าอีกไม่นานก็จะไปแล้ว
แกพยายามจะขอจับผม จับมือ ขอดม ขอหอมของแกอยู่เรื่อยๆ (เหมือนฉีดยากระตุ้นหัวใจเลยนะ อิฉันว่า)
วีนัสเป็นแค่เด็กบ้านนอก ไม่ใช่เด็กไซด์ไลน์ที่มาพร้อมกับความช่ำชองในการหลอกผู้ชาย (แก่) แรกๆ ก็รังเกียจคนแก่คนนี้น่าดู ทั้งเพราะแก่จนงุ่มง่าม แล้วก็เพราะความหัวงู แต่ก็อย่างที่บอก ด้วยความซื่อ ด้วยความเป็นเด็กขาดรัก เมื่อได้รับความรัก ความเมตตา เอ็นดู ได้รับน้ำใสใจจริงที่สัมผัสได้จริงๆ จากคนแก่ ความหยาบกระด้างในใจก็ดูจะอ่อนนุ่มขึ้นทีละหน่อย
เด็กมันเฟื่อง อยากเป็นนางแบบ (-___-) ลุงมอรีซเอง ด้วยความลามก (นิดนึง) อยากเห็นเรือนร่างใหม่สดของสาวน้อยเป็นทุน จึงช่วยหางานให้นางแบบนู้ดให้พวกนักเรียนศิลปะให้ เด็กนี่ตอนแรกก็รังเกียจ ด้วยความหยิ่ง ประกาศว่าไม่มีทางจะได้เห็นนมเห็นจิ๋มฉันหรอก แรกๆ เลยยอมเปิดแต่ลาดไหล่กับขา (เชอะ อีตอนหล่อนใส่มินิสเกิร์ต ชั้นว่าผู้ชายมันเห็นไปถึงไหนๆ แล้วล่ะย่ะ) จนเสร็จงาน ลุงพาเข้ามิวเซียม ไม่ได้พาไปดูรูปวีนัสหรอก (อันนั้นมันอยู่ไหนไม่รู้) แต่พาไปดูงานคลาสสิกรูปนู้ด (ก็เป็นนู้ดแค่แผ่นหลังของผู้หญิง เห็นแค่ส่วนก้นกะสะโพกอะนะ)
“สำหรับผู้ชายส่วนใหญ่ เรือนร่างของสตรีคือสิ่งที่สวยงามที่สุดที่พวกเขาจะได้เห็น” ลุงเพ้อออกมา ยัยวีนัสฟังแล้วก็ เพ้อตาม ถามว่า “แล้วสิ่งที่สวยที่สุดที่ผู้หญิงจะได้เห็นล่ะ?”
“Her first child.” ลุงตอบพร้อมรอยยิ้ม
เด็กนั่นได้ยินแล้วทำหน้าเหยเก แล้วก็เดินหนีไปซะงั้น (ตอนแรกอิฉันไม่เข้าใจหรอก นึกว่าอีนี่มันโง่ ฟังลุงพูดไม่เข้าใจ ดูต่อไปถึงได้เข้าใจว่า อ่อ อันที่จริงเราเองแหละที่โง่) ตอนหลังถึงมารู้ว่า ชีเคยมีแฟนคนนึง ตอนแรกก็ดูจะรักจะตามใจชีดี แต่พอท้องเท่านั้นแหละ ทิ้งเลย กระทั่งแม่บังเกิดเกล้า (ที่เคยบอกชีว่าถ้าชีไม่เกิดมา ชีวิตแม่ก็คงดีกว่านี้) ก็บังคับให้ไปทำแท้ง เท่านั้นแหละ อิฉันเห็นใจยัยวีนัสขึ้นมาทันที
ชีวิตนึงกำลังรุ่งโรจน์ แต่อีกชีวิตนึงกำลังจะแตกดับ หนังทำให้เราร้าวราญใจกับความเป็นจริงข้อนี้ ซึ่งก็คือสัจธรรมที่ไม่อาจปฏิเสธได้ นอกจากนี้ หนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ ได้บีบคั้นจิตใจอิฉันด้วยการพูดถึง "ความรัก"
อะไรคือความรักที่แท้ ที่เราควรแสวงหา อะไรที่สถานที่ที่เหมาะ ที่เราความจะอยู่ในสถานการณ์หนึ่ง อะไรคือสิ่งที่เราความภูมิใจจะทำ คำตอบที่ถูกที่ควรมันเกิดขึ้นต่อเมื่อเราได้รับการเติมรักจนเต็มใจเสียก่อน ไม่อย่างนั้น หัวสมองจะกลวง คิดอะไรไม่ออก
ถึงหนังจบลงด้วยการจากไปของลุง แต่นั่นไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้อิฉันร้องไห้อย่างยากจะหยุดในรอบแรกที่ดูในโรง (ก็ร้องจนป้าอ้อยต้องนั่งเป็นเพื่อนจนเอนด์ไตเติลเกือบจบน่ะ) ตอนนั้นพยายามทำความเข้าใจกับตัวเอง โดยสรุปว่าสงสัยเพราะชีวิตของวีนัสมันทิ่มแทงใจดำ อาจเป็นได้ว่าตอนนั้นยังคิดถึงหนุ่มใหญ่ที่เพิ่งหักใจให้เลิกหลังจากคบอยู่ ๖ ปีได้ไม่นาน
อีกใจนึงไม่อยากเชื่อว่าน้ำตาไหลเพราะคิดถึง (+เป็นห่วง) ผู้ชายคนนั้นซะทั้งหมด เพราะจำได้ว่าเขื่อนน้ำตาแตกตอนเพลง Put Your Records On ขึ้น
สงสัยอิฉันจะร้องให้เพราะจุกใจกับเด็กขาดรัก ที่ไม่เคยรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองมาก่อน จนมาวันนึงก็ยิ้มได้อย่างสดใส และรู้ว่าตัวเองจะเดินไปไหน จะทำอะไรต่อไป เพราะอิ่มฟูจากความรักที่เพิ่งได้รับ หยั่งยายวีนัสมากกว่า
ดูซ้ำอีกทีเมื่อวานก็รู้สึกอย่างนี้
หมายเหตุ:
• Venus กำกับโดย Roger Michell
• เขียนบทโดย Hanif Kureishi
• Peter O’Toole ตัวจริงไม่ได้แก่ขนาดนั้น (หวังว่า) ยังมีผลงานเป็นระยะๆ ล่าสุดเห็นใน Troy แกเล่นเป็นพ่อพี่แบรดหรือไงเนี่ย สง่าเชีย-ไม่เคยดูหนังดราม่าของแกมาก่อน เรื่องนี้แกเล่นดีจริง
• คิดถึงป้าอ้อยจัง
• ป้าขา วันนั้นเห็นน้องร้องไห้เยอะขนาดนั้น ป้าคิดไงหรอ?
• Put Your Records On แต่งเนื้อ/ทำนองโดย Corinne Bailey Rae เป็นเพลงโปรดของอิฉัน
ตอบลบPut Your Records On - Corinne Bailey Rae
ชั้นซื้อแผ่นมา แล้วดันดูไม่จบ หนังมันซับนรก พยายามจะดูแบบไม่ซับ ก็เลยไปไม่ตลอดรอดฝั่ง เดี๋ยวชั้นจะกลับมาอ่านนะ
ตอบลบดีจัง น่าดุ
ตอบลบไม่ได้ยินเพลง
ตอบลบเด๋วกลับไปฟังที่บ้านอีกที
อ่านน้องม้อยรีวิว แล้วทำให้อยากดูหนังเรื่องนี้จัง
ตอบลบเดี๋ยวไปหามาดู เรื่องรักกับคนแก่ คุณพี่ประสบการณ์โชกโชน ;)
อิอิ
ตอบลบ