อรุณสวัสดิ์ผ่านความหนาวเหน็บ
สวัสดีคุณม้อย หวังว่ายังคงไม่ลืมเลือนกันนะ หลังจากที่ฉันมาปายเป็นเวลาหนึ่ง ฉันก็รู้สึกว่าเวลาไม่ได้เป็นโจทย์สำหรับการที่จะทำอะไร ต่างกับชีวิตในเมืองเป็นอย่างมาก วันทุกวันไม่ต่างกันสักนิด ความแตกต่างอาจมีแค่ดวงอาทิตย์ที่ขึ้นต่างมุม เมฆที่ต่างรูปทรง และอนงค์ที่งามนานา (เดาเอาเพราะอ่านไม่ออก)
ฉันอยู่ที่นี่จนรู้แทบจะหมดแล้วล่ะว่าอะไรอยู่ที่ไหน ร้านไหนอร่อย ที่ไหนแพง ที่ไหนกวนตรีน พูดถึงกวนตรีนนี่ต้องยกให้ร้านไอติมน่าหมั่นไส้มันมาก นึกว่าของตัวเองเก๋ แถมราคาแพงกว่าไอเบอรี่ซะอีก
อีกอย่างหนึ่งที่ฉันรู้สึกทันทีนี่คือ มันคล้ายๆ ข้าวสาร พวกพีพี มีแต่ฝรั่ง แถมร้านค้าร้านข้าวก็เหมือนทำมาเพื่อต้อนรับฝรั่ง ไม่ค่อยเหมาะกับคนไทยอย่างฉันเท่าไรนัก แต่ก็นะ ฝรั่งมันเยอะกว่าก็สมควรทำเพื่อเค้า เมืองปายนี่ฉันว่าเค้าคงคัดคนมาเที่ยวแน่ๆ เพราะแต่ละคนที่มาเที่ยวหน้าตาดีทั้งนั้น แทบจะ 80 เปอร์เซ็นต์ได้ แต่ส่วนมากเค้าจะมากับผัวน่ะสิ
วันที่ฉันเขียนนี้ไม่ค่อยหนาวแล้วล่ะ หายใจไม่เป็นไอแล้ว เห็นว่าตอนแรกว่าจะหนาวลง แต่ทำไมดันร้อนขึ้นกว่าเดิม สุดท้ายนี้ฉันหวังว่าแกคงจะยังมีความสุขกับเมืองหลวงที่วุ่นวายนะ
ขอบใจที่ทนอ่านจนจบ
PoP
(ตราประทับลงวันที่ 8 เดือน 1 ปี 50)
อยากกลับไปเที่ยวปายแบบคนหน้าตาดีมั่งจัง
ตอบลบอยากไปปายยยยยยยย
ตอบลบชวนอุดมไปดิวนกร
ตอบลบจากเชียงใหม่ ไปอีกแป๊บเดียวเอง
มาดิครับ
ตอบลบอันนี้มันเมื่อไหร่ครับที่เขียนมาอ่ะ กี่ปีมาแล้ว หรือเพิ่งเร็วนี้
ตอบลบความเปลี่ยนแปลงมันไปขนาดไหน ผมเพิ่งไปมาแบบแตะๆ หนึ่งคืนเมื่อต้นปีก่อน
ยังไม่เจอร้านไอติมที่ว่าไว้
ต้นปี 50 จ่ะอุดม
ตอบลบไปนอนปาย ก็เหมือนกะนอนที่บ้าน ไม่รูไปนอนทำไมเหมือนกัน 555
ตอบลบเห็นด้วยกะร้านไอติม ไม่อร่อยเท่าไร แต่ก็แพงอยู่
เขียนได้ตั้งสี่ย่อหน้า ทำไปได้นะ... ว่าแต่อ่านแล้วสำนวนเหมือนไข่ย้อยแฮะ...
ตอบลบอยากไปปายบ้าง T_T
ตอบลบหรือว่า...
ตอบลบชั้นคือ ดากานดา!!!
ไปหน้าฝน ต่อหน้าหนาวนะคะน้องนุ่น
ตอบลบแจ่มค่ะ
ดำกาดำ มากกว่า
ตอบลบเออ งั้นแกหาคนซื้อกล้องใหม่ละกันนะไข่ย้วย
ตอบลบคนเยอะแล้วปายน่ะ
ตอบลบ