วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

เปิดจดหมายเก่า: โปสการ์ดจากเมืองปาย


อรุณสวัสดิ์ผ่านความหนาวเหน็บ

 

สวัสดีคุณม้อย หวังว่ายังคงไม่ลืมเลือนกันนะ หลังจากที่ฉันมาปายเป็นเวลาหนึ่ง ฉันก็รู้สึกว่าเวลาไม่ได้เป็นโจทย์สำหรับการที่จะทำอะไร ต่างกับชีวิตในเมืองเป็นอย่างมาก วันทุกวันไม่ต่างกันสักนิด ความแตกต่างอาจมีแค่ดวงอาทิตย์ที่ขึ้นต่างมุม เมฆที่ต่างรูปทรง และอนงค์ที่งามนานา (เดาเอาเพราะอ่านไม่ออก)

 

ฉันอยู่ที่นี่จนรู้แทบจะหมดแล้วล่ะว่าอะไรอยู่ที่ไหน ร้านไหนอร่อย ที่ไหนแพง ที่ไหนกวนตรีน พูดถึงกวนตรีนนี่ต้องยกให้ร้านไอติมน่าหมั่นไส้มันมาก นึกว่าของตัวเองเก๋ แถมราคาแพงกว่าไอเบอรี่ซะอีก

 

อีกอย่างหนึ่งที่ฉันรู้สึกทันทีนี่คือ มันคล้ายๆ ข้าวสาร พวกพีพี มีแต่ฝรั่ง แถมร้านค้าร้านข้าวก็เหมือนทำมาเพื่อต้อนรับฝรั่ง ไม่ค่อยเหมาะกับคนไทยอย่างฉันเท่าไรนัก แต่ก็นะ ฝรั่งมันเยอะกว่าก็สมควรทำเพื่อเค้า เมืองปายนี่ฉันว่าเค้าคงคัดคนมาเที่ยวแน่ๆ เพราะแต่ละคนที่มาเที่ยวหน้าตาดีทั้งนั้น แทบจะ 80 เปอร์เซ็นต์ได้ แต่ส่วนมากเค้าจะมากับผัวน่ะสิ

 

วันที่ฉันเขียนนี้ไม่ค่อยหนาวแล้วล่ะ หายใจไม่เป็นไอแล้ว เห็นว่าตอนแรกว่าจะหนาวลง แต่ทำไมดันร้อนขึ้นกว่าเดิม สุดท้ายนี้ฉันหวังว่าแกคงจะยังมีความสุขกับเมืองหลวงที่วุ่นวายนะ

 

ขอบใจที่ทนอ่านจนจบ

 

PoP



(ตราประทับลงวันที่ 8 เดือน 1 ปี 50)

14 ความคิดเห็น:

  1. อยากกลับไปเที่ยวปายแบบคนหน้าตาดีมั่งจัง

    ตอบลบ
  2. อยากไปปายยยยยยยย

    ตอบลบ
  3. ชวนอุดมไปดิวนกร
    จากเชียงใหม่ ไปอีกแป๊บเดียวเอง

    ตอบลบ
  4. อันนี้มันเมื่อไหร่ครับที่เขียนมาอ่ะ กี่ปีมาแล้ว หรือเพิ่งเร็วนี้
    ความเปลี่ยนแปลงมันไปขนาดไหน ผมเพิ่งไปมาแบบแตะๆ หนึ่งคืนเมื่อต้นปีก่อน
    ยังไม่เจอร้านไอติมที่ว่าไว้

    ตอบลบ
  5. ไปนอนปาย ก็เหมือนกะนอนที่บ้าน ไม่รูไปนอนทำไมเหมือนกัน 555
    เห็นด้วยกะร้านไอติม ไม่อร่อยเท่าไร แต่ก็แพงอยู่

    ตอบลบ
  6. เขียนได้ตั้งสี่ย่อหน้า ทำไปได้นะ... ว่าแต่อ่านแล้วสำนวนเหมือนไข่ย้อยแฮะ...

    ตอบลบ
  7. หรือว่า...
    ชั้นคือ ดากานดา!!!

    ตอบลบ
  8. ไปหน้าฝน ต่อหน้าหนาวนะคะน้องนุ่น
    แจ่มค่ะ

    ตอบลบ
  9. เออ งั้นแกหาคนซื้อกล้องใหม่ละกันนะไข่ย้วย

    ตอบลบ