Rating: | ★★★★★ |
Category: | Books |
Genre: | Biographies & Memoirs |
Author: | Tucker Max แปลโดย ทรงพล ศุขสุเมฆ |
(เริ่มเรื่องด้วยประโยคที่เป็นความจริง-ตามคำแนะนำของเฮมมิ่งเวย์)
โลกของ Tucker Max เป็นโลกที่ดิฉันไม่เคยได้เฉียดใกล้ เพราะสำหรับตัวเอง ถึงหน้าจะให้ แต่ไม่ใช่นักดื่ม อย่าเพิ่งพูดถึงเตอกีล่า แค่เบียร์กระป๋อง แชมเปญแก้วเดียว หรือสก็อตช์สัก ๕ จิบ ก็เพียงพอจะทำให้สมองเบลอเพราะความสุขล้นจากฤทธิ์แอลกอฮอล์แล้ว ถ้าดื่มมากกว่านั้นความรู้สึกจะล้ำเกินความสุข กลายเป็นความทุกข์เพราะอยากอ้วก
เรียกว่าเป็นคนคออ่อนนั่นเอง
แต่จากเรื่องเล่าของ ทักเกอร์ แม็กซ์ (มีคนตั้งข้อสังเกตว่าไม่น่าใช่เรื่องจริง ควรจะเป็นเรื่องโม้เสียมากกว่า แต่ก็ช่างเหอะ เอามาหารสองแล้วมันก็ยังมากกว่าจะเป็นเรื่องจริงอยู่ดี) ทำให้ดิฉันได้รู้จักโลกสำมะเลเทเมาของผู้ชาย
โลกอีกใบที่เพี้ยนพิลึก ไร้ตรรกะและเหตุผลใดใด แค่ทำไปด้วยความคึกคะนองแห่งวัย
ที่สำคัญ ทำให้ได้รู้ว่าคนเราเมาได้หลายระดับ ตั้งแต่ระดับยิ้มหวาน-คุยสนุก ไปจนระดับสุดยอด คือ ‘เมาระดับ ทักเกอร์ แม็กซ์’ หรือระดับที่พร้อมจะวูบไปเฉยๆ, นอนกับผู้หญิงอัปลักษณ์หรือหมูตอน, เสียโอกาสในการฟันสาวสวยเพราะวูบคาอกไปเสียก่อน, อ้วกแตกอ้วกแตน, หาเรื่องกับคนที่อ่อนแอกว่า, ทำลายข้าวของ, อารมณ์เสียกับสิ่งไม่มีชีวิต แถมด่ามันให้ด้วย, พูดกับทุกคนด้วยคำหยาบ หรืออะไรร้ายๆ โดยไม่มีความยั้งคิด ตื่นขึ้นในสถานที่แปลกตา แถมจำไม่ได้ว่ามาได้ยังไง ฯลฯ
ขำก็ขำ สมเพชก็สมเพชกับความทุเรศของคนเวลาเมา
คนเคยอ่านพันธุ์หมาบ้ามาก่อน (แหะ แหะ.. ดิฉันยังอ่านไม่จบ) จะพบต้นเหตุ และเรื่องเล่าที่ทำมามาซึ่งการดื่ม (และพี้กัญชา) ตัวละครทุกตัวในพันธุ์หมาบ้ามีที่มีชีวิต มีเหตุผล ที่มาที่ไป มีทางออก การอ่านพันธุ์หมาบ้าเลยเป็นการอ่านที่ไม่ได้แค่ความสนุก สะใจ แต่คนอ่านยังได้แรงบันดาลใจ ได้บทเรียน ได้อะไรดีๆ สำหรับชีวิตตัวเอง
ด้วยเหตุนี้ คนหลายคนเลยมีความผูกพันกับพันธุ์หมาบ้าของน้าชาติ (กอบจิตติ) เหมือนหนังสือเล่มนั้นเป็นเพื่อนเก่าที่ไม่เคยลืมกัน และยังคิดถึงเสมอ
เรื่องเล่าของทักเกอร์ไม่น่าจะให้อะไรดีๆ ได้ขนาดนั้น
เพราะมันเป็นแค่บันทึกวีรกรรมห่ามๆ เรื่องชั่วๆ เช่น วิธีสอยหญิงแล้วชิ่งหนีในเช้าวันใหม่ แฉหมดเปลือกสาวนักเที่ยวแบบต่างๆ กับคำหยาบคายและคำพูดร้ายๆ ระคายหูสไตล์อเมริกัน (แปลมาเป็นภาษาไทยเรียบร้อยแล้ว) วิธีกินเหล้าของคนไม่รักชีวิต กลโกงเกมพนัน การรังแก-เอาเปรียบคนที่มีฐานะทางสังคมที่ต่ำกว่า (อย่ามาเถียง discrimination ยังมีอยู่-ทั่วโลกด้วย) แถมยังเล่าถึงการอ้วก, ฉี่ และอึ ได้อย่างไม่กระดากใจ
ถ้าจะอ่านหนังสือเล่มนี้ก็ต้องทำใจ ว่าอย่ามามองหา moral ให้เสียอารมณ์ แค่อ่านขำๆ มันส์ๆ ระหว่างเข้าในห้องน้ำตอนเช้า บนรถไฟฟ้า หรือเรือด่วนเจ้าพระยาก็พอ
ลีลาการเล่าของทักเกอร์ก็ไม่ได้เลอเลิศอะไร การวางพล็อตก็ไม่ได้ซับซ้อนสวิงสวาย อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วรู้สึกไม่ต่างกับการอ่านบล็อกผู้ชายชั่วๆ สักคน การตรวจปรูฟก็ตกๆ หล่นๆ ไม่สมบูรณ์แบบ (ที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ติดอันดับ Bestseller ของ The New York Time ๒ ปีซ้อน อาจจะเป็นเพราะความ ‘ดิบ’ นี่แหละ)
แต่ที่ใจป้ำให้ห้าดาวนั้น เอาเป็นว่าให้ตามดีกรีเรื่องชั่วที่ทักเกอร์เล่าละกัน
หมายเหตุ ๑ โปรดอ่านด้วยใจเป็นธรรม และอย่าซีเรียส การจะนำหนังสือเล่มนี้ไปเทียบพันธุ์หมาบ้า ต้องเข้าใจว่าอันนั้นน้าชาติเขาเขียนส่ง บ.ก. ลลนา อย่างน้อย บ.ก. ต้องสกรีนแล้ว ว่าแบบนี้มีคนอ่าน มิหนำซ้ำยังเขียนโดยนักเขียนที่จะเป็นเจ้าของรางวัลซีไรต์ในเวลาต่อมา แต่ I Hope They Serve Beer in Hell นี่ เป็นการรวมเล่มจากเรื่องเล่าบนเว็บของทักเกอร์ แม็กซ์ หนุ่มอเมริกันนักเทียวที่อายุยังน้อย ต้นกำเนิดจึงต่างกัน
หมายเหตุ ๒ ถ้าอยากลองอ่านเรื่องชั่วของทักเกอร์ แม็กซ์ ดิฉันแนะนำให้ไปยืนอ่านในร้านหนังสือสัก ๒-๓ หน้า ถ้ารู้สึกว่าผ่าน ค่อยรับกลับมาลอง
หมายเหตุ ๓ ดิฉันเองเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง ว่าทักเกอร์ แม็กซ์มีตัวตนจริง ถ้าคุณอยากช่วยพิสูจน์เชิญไปเดินเล่นในเว็บนี้ www.tuckermax.com
์Newyorker อาจจะชอบลีลาการโม้ของคนเขียนที่สมญานามตัวเองว่า "นักสอยหญิง" ด้วยเหตุนั้นเลยทำให้หนังสือเล่มนี้ขายดีในนิวยอร์ค เข้าใจว่าวัฒนะธรรมของเรากับของเขาต่างกัน แต่ยังดีที่มีการแปลเป็นภาษาไทย ไม่งั้นเราไม่รู้กันพอดีว่าสื่อสิ่งพิมพ์เสรีถึงเพียงนี้
ตอบลบหนังสือเล่มนี้เป็นการนำความชั่วของตัวเองมาเปิดเผย และคนเขียนค่อนข้างจะภูมิใจเสียด้วย แต่พออ่านไปแล้วดูเหมือนว่าจะเกินจริงอยู่สักหน่อย เราเคยดูรายการทีวีอเมริกามั๊ยล่ะ พวกอเมริกันนี่จอมแอคติ้งเลยนะครับ แบบว่า "โอ้คาร่า..คุณทำแบบนั้นภายในสองอาทิตย์ได้ยังไง"
"ให้ตายซิทักเกอร์ แมค คุณเป็นนักสอยหญิงที่ฉันอยากมีอะไรด้วยจัง"
หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือเขียนเอามันมากกว่า แต่มันดันบ้าจนขายดีเนื่องจากว่าไม่ใคร่มีใครเอาเรื่องเลวมาเปิดโปง
เราต้องยอมรับว่าปัจจุบันวุฒิภาวะของสังคมนั้นอยู่ในระดับที่จำแนกได้ว่าอะไรคืออะไร ทำให้หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร อ่านเอามัน เท่านั้นเอง
พอเหตุการณ์มันซ้ำๆ (ก็มีแต่เรื่องเมาเหล้ากับฟันหญิง) ก็เลยทำให้เกิดการอ่านข้ามๆ แบบลักไก่ ทำให้ใครบางคนอ่านจบไว ก็มันน่าเบื่อใช่มั๊ยที่จะอ่านเรื่องโม้ที่ซ้ำๆ
และใครบางคนก็อ่านไม่จบ (อีกตามเคย)
ตอบลบเย้! คอมเมนต์แรก
(ขอนอกเรื่อง..... ผมชอบอ๊อตโต้ )
ตอบลบชอบ อ๊อตโต้ เหมือนกัน
ตอบลบHappy Herb
หุ หุ หุ
ตอบลบอ่านพันธุ์หมาบ้าจบเมื่อไหร่เจอกัน
ใครอ่านพันธุ์หมาบ้าจบเกินสามรอบ
ตอบลบคบได้
แล้วถ้าเจ๊เบียบอ่านจบ จะคบไหม?
ตอบลบฮ่าฮ่า