วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ความตั้งใจของสาวโสด


ก็แถวนี้ี้มันเหม็นมั่กๆ

แหม๋ๆๆๆๆ ชอบใจจริงๆ

วันแรกของเดือนที่ ๖ พ.ศ. ๒๕๕๑

อยู่ไม่ติดบ้านมาตั้งหลายอาทิตย์ ที่ตั้งใจไว้ว่าจะไปบริจาคโลหิตที่ครบกำหนด ๓ เดือนมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ก็เลยไม่ได้ไปสักที

อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่เป็นอิสระ ที่จริงก็ตั้งใจจะไปตั้งแต่เช้าวาน ก่อนไปเจอปลาที่สวนฯ (แล้วก็ไม่ได้เจอ เพราะปลามันไม่เสร็จธุระ...กะผู้ชายหรือป่าวไม่ทราบได้) แล้วเย็นก็ไปบ้านทะเล แต่ก็ปรากฏว่าไม่ได้ไป เพราะมัวแต่เฝ้าหน้าจอ Coffee Prince ตอนจบ (พระเอกน่ารักจริงๆ) ออกจากบ้านเที่ยงนี่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปบริจาคโลหิตแล้วไปเจอปลาตอนบ่ายสองได้
...ถ้ารู้ว่าปลามันจะเบี้ยว ชั้นน่าจะไปซะตั้งแต่เมื่อวาน ...เออ แต่ถ้าทำงั้นก็จะไม่ได้ช็อปปิ้งสินะ

อ่ะ เอาเป็นว่า เมื่อวานไม่ได้ไป วันนี้ก็ควรจะไป เพราะอาทิตย์หน้าผู้ชายหลายคนจะมาหาตามกำหนดแล้ว ถ้าละเลยไปอีก ชาติหน้าคงต้องเกิดเป็นผู้หญิงอีก โทษฐานที่ไม่มีแรงศรัทธาในการทำบุญทำทานแรงพอ

ไม่อยากเกิดเป็นผู้หญิงด้วยสาเหตุนั้น แต่อยากเกิดเป็นหญิงเพราะอยากเป็นหญิง วันนี้ยังไงก็ต้องไป

แต่เมื่อคืนกลับจากบ้านเลก็เที่ยงคืนแล้วยังริอ่านเปิดคอม เช็คอีเมล์ กว่าจะได้นอนปาเข้าไปตีสอง ก็ยังหวั่นใจว่าเลือดจะลอยจนให้ไม่ได้หรือเปล่า เลยบอกตัวเองว่าให้นอนมากๆ เข้าไว้ เช้านี้เลยตื่นเพราะโทรศัพท์พี่ผึ้ง ตอน ๑๑ โมง :-P

ดันเปิดคอมเช็คอีเมล์จากมัลติพลายอีก ไม่ได้ๆ ชั้นต้องเอารูปทะเลใส่หมวกหมีให้อุดมดูก่อน ก็เสียเวลาไปอีกสองชั่วโมง กว่าจะไปถึงกาชาดก็บ่ายสามยี่สิบ..เค้าปิดบ่ายสามครึ่งน่ะ

เฮ่อ ตรู... เพราะว่าเป็นโสดใช่ไหม ถึงได้ใช้ชีวิตเอื่อยเรื่อยเฉื่อยแฉะอย่างนี้

แต่คิดอีกที ถ้าไม่โสดอาจไม่มีเวลาเอ็นจอยกับชีวิต ไม่มีตามองเห็นรายละเอียดข้างทางที่เดินผ่านอย่างนี้หรอก จริงมะ?



หมายเหตุ
ไปบริจาคโลหิตครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒๕ ปีนึงให้ได้อย่างมาก ๔ ครั้ง แต่ดิฉันให้มามากกว่า ๖ ปีนะ ระยะแรกๆ ให้ไม่สม่ำเสมอ คราวนี้ได้ความรู้ใหม่ ๒-๓ ประการคือ


๑. ก่อนเดินขึ้นชั้น ๒ ไปให้เลือด ควรแวะดื่มน้ำสัก ๒-๓ แก้ว แล้วเลือดจะไหลกระฉูด
รู้เพราะคุณพยาบาลเด็กมาเจาะที่แขนขวา ซึ่งดิฉันรู้มาก่อนแล้วว่าข้างนี้เส้นตีบกว่าข้างซ้าย เลือกมันจะไหลช้ากว่า เธอถามว่า “ปกติเลือดไหลเร็วไหมคะ”
“ค่ะ” พยักหน้า “พุ่งกระฉูดเลยล่ะ”
“แล้วตะกี๊ดื่มน้ำมาก่อนไหมคะ”
“แหะ แหะ ป่าวค่ะ” จริงๆ คุณหมอในห้องวัดความดันก็สั่งมาก่อนแล้วล่ะ “แค่กินน้ำก่อนขึ้นเตียงเลือดก็จะไหลกระฉูดทันทีเลยหรอคะ” ดิฉันสงสัยจริงๆ
น้องพยาบาลยิ้มอารีก่อนตอบ “เลือดก็เป็นน้ำนะคะ ร่างกายดูดซึมน้ำได้เร็วค่ะ”
ดิฉันฟังแล้วก็บอกตัวเองให้จำได้ คราวหน้าจะกินน้ำก่อนขึ้นเตียงให้ได้
น้องพยาบาลสาวกลับมาในนาทีต่อมา ยิ้ม พร้อมส่งน้ำแดงเฮลส์บลูบอยใส่น้ำแข็งพร้อมหลอดดูด ..โอว น้องคนนี้ช่างใจดีจริง ..เลือดเราก็ไม่ได้ไหลช้าผิดชาวบ้านชาวเมือง แค่คุยกันเรื่องดื่มน้ำก่อนให้เลือดเธอถึงกับเดินไปทำน้ำแดงให้เราเลยหรอ
รู้สึกดีกับคุณพยาบาลสภากาชาดขึ้นมานิดนึง
(ก็ยอมรับอ่ะนะ ว่าพยาบาลที่นี่เจาะเลือดเก่ง แม่นเป๊ะ ไม่มีเจ็บ แต่มักจะดุอ่ะ)
เพื่อจะพบว่า อย่าเพิ่งตัดสินอะไรง่ายไป ในนาทีต่อมา


๒. พยาบาลก็คน ดังนั้นอย่าไปคิดว่าเธอจะใจดีกับเราทุกคน
น้องพยาบาลสาวเดินหายไป มีเจ๊พยาบาลเตร่เข้ามาแทน ดิฉันมองเวลา เห็นเลยสามโมงครึ่ง เวลาเลิกงายของเธอแล้ว จึงชวนเธอคุย “ปกติจะเสร็จงานกันกี่โมงคะ”
‘เฉิบ’ เสียงเธอเมินหน้าไปทางอื่น ก่อนชี้นิ้วสั่งผู้บริจาคที่เพิ่งเข้ามาในห้อง “เข้าไปข้างในเลย”
‘ไม่รู้ไปโกรธใครมา ไม่พูดไม่จา ทำหน้าบึ้งตึง’ ดิฉันร้องเพลงนี้ในใจเลย


๓. ในคนน้ำหนักมากกว่า ๕๐ กิโลกรัม ถุงในเลือดจะเป็นขนาด ๔๕๐ ซีซี
...อืมม์ ดิฉันให้เลือดได้เท่าผู้ชายตัวโตๆ เลยล่ะ





54 ความคิดเห็น:

  1. ชีวิตคล้ายๆกันเลยค่า เหอะๆ

    ตอบลบ
  2. รูปนี้เหมือนโดนหมายหัวไงไม่รุ

    ตอบลบ
  3. กทม เค้าเป็นคนทำเหรอ

    ตอบลบ
  4. สงสัยเด็กแถวนั้นไปพ่นไว้ที่กำแพงอ่ะพี่

    ตอบลบ
  5. แถวบ้านเรียก ย้วยยย รอฤกษ์

    ตอบลบ
  6. ...สงสัยต้องยกขันหมากไปขอผู้ชาย
    ไม่งั้นคงต้องย้วยอยู่งี้แหละ

    ตอบลบ
  7. เมื่อไหร่ ประเทศไทย จะให้ความสำคัญกับคนพิการ

    ตอบลบ
  8. หมายหัวว่าจะได้ลงจากคานหรอพี่์?

    เหอ เหอ

    ตอบลบ
  9. ว่าง ๆ ไปเดินข้าวสารกะพี่มะ
    แถวนั้นทาร์เกตเพียบ

    ตอบลบ
  10. จะว่าไป เฮดชอทอันนี้ก็เหมาะกะม้อยนะ
    ฮิฮิ

    ตอบลบ
  11. ไม่พูดแล้วเชียว เหอเหอ

    ตอบลบ
  12. จริงเผินๆเหมือนเครื่องหมาย มือ I love You นะพี่ว่า
    คือชั้นพยายามคิดแบบนางเอกอ่ะ หุหุ

    ตอบลบ
  13. โดนอ่ะ ป้ายน่ารักดี ดูเหม็นๆแบบน่าเอ็นดู

    ตอบลบ
  14. ปิ๋มเคยไปบริจาคเป็นประจำค่ะพี่ม้อย อาหารมื้อหลักที่ต้องกินก่อนไปบริจาคเลือด คือ
    1. สลัดผัก + น้ำบีทรูท (ก่อนนอน)
    2. ต้มเลือดหมูตำลึง+ข้าว+ชาเย็นใส่น้ำผึ้งขวดใหญ่ๆ (ก่อนไปบริจาคเลือด)
    3. น้ำ 1 แก้ว ก่อนวิ่งขึ้นบันไดไปบริจาคเลือด ป้องกันการตื่นเต้นจนความดันต่ำ

    นอนตามที่เค้ากำหนด รับรอง เลือดกระฉูด

    ตอบลบ
  15. " แต่ขอโทษเถอะ มีแต่สโลปบนสะพาน แล้วอีกตรงบันไดขึ้น-ลงน่ะ เค้าจะทำยังไงกันจ๊ะ? "

    อ้าววว เวรกรรม สรุปว่าทำให้ใครใช้เนี่ย

    ตอบลบ
  16. ถ้าพยาบาลถามว่านอนกี่โมง ห้ามตอบว่าหลังเที่ยงคืน เพราะถ้าบอกว่าหลังเที่ยงคืน ไม่ว่าจะนอนกี่ชั่วโมง ก็ไม่ได้เสียเลือดแน่นอน

    ว่าแล้ว ของผมก็ครบกำหนดมาหลายเดือนละ ยังไม่ได้ไปซักที

    ตอบลบ
  17. พี่กินน้ำมะเขือเทศเอาฤกษ์เอาชัยค่ะ

    อ้อๆ มีความรู้ใหม่อีกข้อ คือตอนขึ้นเตียงยังเคี้ยวหมาก (ฝรั่ง) เพลินๆ
    คุณน้องพยาบาลสาวบอกให้คายก่อน เพราะถ้าเดี๋ยวหน้ามืดกลืนไปแล้วอาจติดคอ(ตาย)ได้

    บริจาคเลือดมาตั้งหลายทีมีเรื่องใหม่ให้เรียนรู้ตลอดนะน้องปิ๋ม

    ตอบลบ
  18. เหอ เหอ พี่ก็ลุ้นความดัน+เลือดลอยอยู่

    นอนตั้งตีสองง่ะ

    ปรากฏว่าผ่าน เรานี่มันเกิดมาอึดโดยแท้

    ตอบลบ
  19. ขำอ่ะ...ป้ายเสียดสีดีมากๆ

    ตอบลบ
  20. ถอยหลังจอด เวลามีเรืองจะได้รีบเผ่นทันที 555

    ตอบลบ
  21. 555 ความคิดดีจริงๆ สีโดดเด่น

    ตอบลบ
  22. ยังขาดอยู่ๆๆ เดี๋ยวจะไปเพิ่ม รอก่อนนะ

    ตอบลบ
  23. ขาดตลอดแหละ
    ไม่เคยล้นหรอก

    ตอบลบ
  24. ผมมีพี่พยาบาลคู่ซี้อยู่คนนึงครับ ชื่อ พี่แป๋ว น่ารักนิสัยดี สนิทกัน พี่เค้าจำผมได้ถ้าไปบริจาคตอนที่พี่เข้าเวรอยู่
    ลองไปหาพี่แป๋วดูนะครับ ถ้าเจอฝากทักแกด้วย

    ตอบลบ
  25. บริจาดเสร็จผมจะพลังลดลงกว่าครึ่งครับ เดินมา BTS แทบไม่ไหว ถ้าเจอที่หมาเยี่ยวอาจถึงเป็นลม

    ตอบลบ
  26. คนกรุงเทพจอดรถโดยการถอยจอดนะครับ หนูนา
    ผมมาอยู่เชียงใหม่ ยังไม่ชินเลย คนเชียงใหม่เอาหน้าเข้าตลอด
    พอเราขับและถอยจอด โดนด่าว่าถอยทำไมให้เสียเวลา รีบๆ จอด จะได้ลง

    ตอบลบ
  27. นี่มันริมถนนอังรีฯ วันอาทิตย์
    ที่หนูนาว่าเค้าเตรียมเผ่น พี่ว่าจริง
    เผื่อเสียม้าไง เหอ เหอ

    แอบเข้าใจว่าที่เค้าจอดอย่างนี้เพื่อประหยัดที่จอด จะได้จอดได้มากคันขึ้น (รถไปเชียร์ม้าเป็นพันๆเลยค่ะ)
    แต่หน้ารถจะเกยไปบนถนนกินพื้นที่จราจรเท่าไหร่ ฉันไม่สนหรอกนะ

    ส่วนที่บนตึกเค้าให้จอดหันหน้าเข้าน่ะ
    เพราะว่าเค้ากลัวผนังตึกจะดำเพราะไอเสียน่ะ

    ตอบลบ
  28. มิบังอาจเดาอารมณ์พยาบาลกาชาดรุ่น "พี่" ง่ะอุดม
    ไม่ใคร่เจอใครรุ่นพี่ที่ใจดี ยิ้มแย้ม สักเท่าไหร่
    สงสัยงานจะมาก

    ตอบลบ
  29. อย่าไปสลบใต้ป้ายนี่เข้าละกัน
    เหอ เหอ

    พี่เอง ถ้าไม่ได้น้ำแดงดูดตอนเลือดกำลังไหลก็อาจแป้กได้
    เมื่อวานยังต้องนอนก่อนห้าทุ่มเลย
    ง่วงสุดๆ

    ตอบลบ
  30. พี่แป๋วใจดีจริงๆ คุยสนุก เล่าเรื่องขำระหว่่างเจาะเข็มเข้าเส้น
    ไม่มีวีน เชื่อดิ

    ตอบลบ
  31. ไม่ได้มาคนเดียวน่ะ ....ยังเราทุกคนก็มีเงา ตราบใดที่มีแสง

    ตอบลบ
  32. เขียนไดอะรี่เยอะๆน่ะ ชอบอ่าน (แต่ไม่ได้แปลว่าไปยุ่งของเรื่องชาวบ้านเค้าน่ะ)

    ตอบลบ
  33. ว้าว...คม

    นึกถึงเพลง a shadow of your smile เลย ยูกิจัง

    The shadow of your smile
    When you have gone
    Will color all my dreams
    And light the dawn

    Look into my eyes, my love, and see
    All the lovely things, you are, to me

    ตอบลบ
  34. เค้าก็ช่างคิดเนอะ 5555

    ตอบลบ
  35. ตรงนี้แถวๆ คณะน้องปุ๊กอะจ้ะ

    ตอบลบ
  36. จะเป็นจักรยานหรือวีลแชร์
    เวลาขึ้นน่ะ ขึ้นกะไดเลื่อน (ของบีทีเอส หรือรถใต้ดินได้) แต่อีตอนจะลงด้านรพ.จุฬาน่ะ ต้องลงกระไดนะแกร
    หรือเค้าจะเอาไว้ให้พวกใส่ดรลเลอร์เบลดเล่นวะ?

    ตอบลบ
  37. ถ้าเราจัดแสงดีๆ มันจะมีเงาเปล่า

    ถามจริง ไม่ได้กวน

    หรือว่ามี แต่เรามองไม่เห็นเพราะมีแสงอีกอันมาลบเงา

    ตอบลบ
  38. "เราทุกคนก็มีเงา ตราบใดที่มีแสง"

    มาจากตรงนี้

    ตอบลบ
  39. อ๋อ เข้าใจละ
    ถึงจัดแสง(ให้ไร้เงา)ได้เจ๋งยังไง มันก็ยังมีเงาอยู่ดีแหละเอ็ง
    ไม่มีเงา ก็ไม่มีมิติ
    รูปแบนๆ เอ็งเรียกรูปสวยเหรอวะ?

    ตอบลบ
  40. เข้าใจว่าเค้าคงต้องการให้เป็นจักรยานวิบากแน่เลย...

    ตอบลบ
  41. สร้างสรรค์ดีครับ 555

    ตอบลบ
  42. ขนาดเงาตัวเองยังไม่คุ้น ... แปลกคนจริงๆ

    ตอบลบ
  43. "แค่กินน้ำก่อนขึ้นเตียง"

    “พุ่งกระฉูดเลยล่ะ”

    ตอบลบ