เมื่อคืนเป็นอีกครั้งที่ดิฉันประสบปัญหาในการนอน
คือนอนหลับไม่สนิท ระหว่างนอนเหมือนมีอาการครึ่งฝัน ครึ่งจริง จำได้ลางๆ เหมือนตัวเองตื่นขึ้นคุยกับตัวเองเป็นระยะๆ
แต่เป็นการตื่นโดยไม่ลุก ไม่ลืมตา
เรียกว่าเป็นการนอนที่ไม่ได้หลับลึกลงเหมือนถูกดูดหายไปในหลุมดำเหมือนเช่นการหลับเป็นปกติในทุกๆ คืน
วันนี้ทั้งวัน ดิฉันจึงอยู่ในสภาพซอมบี้ มีอาการอ่อนเพลีย กะปลกกะเปลี้ย ซ้ำยังเบลอๆ เพราะไม่ได้นอนพอกับความต้องการของร่างกายนั่นเอง
เข้านอนดึกมันก็จริงอยู่ (ก่อนนอนระห่ำทำงานฝิ่นเสร็จไป ๒ ชิ้น) แต่เชื่อว่า สาเหตุของอาการนอนหลับไม่สนิทของตัวเองมีอยู่ ๒ ข้อ คือ
กาแฟดำตอน ๕ ทุ่ม และ บทสนทนากับชายผู้ลึกลับที่ดูเหมือนมีความอันตรายเป็นเงา
-๑-
กาแฟดำตอน ๕ ทุ่ม
คาเฟอีนในกาแฟอาจทำให้หลายคนตาสว่างจากการที่คาเฟอีนเข้าไปควบคุมสารอดีโนซีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่สมองหลั่งออกมาเพื่อให้เกิดอาการง่วง แต่สำหรับดิฉัน กาแฟร้อนหอมๆ แก้วเดียวไม่เพียงช่วยให้หายง่วง แต่ยังเพียงพอต่อการปลุกความ ‘คึก’ ให้พร้อมจะทำงาน ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการที่คาเฟอีนเพิ่มระดับการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต ระดับอะดรินาลีน และกรดไขมันอิสระในเลือด ทำให้รู้สึกมีเรี่ยวแรงทำงานเพิ่มขึ้น
น่าเศร้าที่หลังปลดปล่อยพลังงานความคึกให้กับร่างกาย คาเฟอีนจะค้างอยู่ในร่างกายของดิฉันต่อไปอีกราว ๑๒ ชั่วโมง (และจะอยู่ได้นานกว่านี้ หากดิฉันมีครรภ์อายุ ๓ เดือนขึ้นไป หรือใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด) เมื่อหมดฤทธิ์ ดิฉันจะรู้สึกหมดเรี่ยวแรงจนต้องหากาแฟแก้วใหม่มาเติมความกระชุ่มกระชวยและความ ‘คึก’ ให้ร่างกายอีกครั้ง
ปฏิกิริยาที่ร่างกายตอบสนองต่อคาเฟอีน ร่วมกับความพึงพอใจในกลิ่นรสของกาแฟ ย่อมทำให้คนติดรส ติดสัมผัสอย่างดิฉันตกอยู่ในวัฏจักรแห่งการเสพติดเช่นนี้เรื่อยไป จนในที่สุด ก็จะถึงวันที่กลายเป็นซอมบี้อย่างถาวร จากภาวะคาเฟอีนเรื้อรังจนนอนไม่หลับ แต่แทนที่จะผอม กลับอ้วน เพราะเมื่อใดที่นอนไม่พอ วันรุ่งขึ้นระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำลง ทำให้เกิดอาการ ‘โหย’ ตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังเหี่ยว เพราะนอนไม่ทันเวลา growth hormone หลั่ง (ราว ๕ ทุ่ม) แทนที่จะร่างกายจะได้ซ่อม และสร้างเซลล์ผิวในส่วนที่เสียหาย ก็เลยอด ผิวโทรมๆ ที่ไม่มี growth hormone ช่วย ต่อให้ใช้ครีมวิเศษอะไรก็ช่วยชะลอริ้วรอยไม่ได้
นอกจากนี้อาการกระดูกพรุนอาจมาเยือนไวกว่าปกติ เพราะคาเฟอีนที่รับเพิ่มเข้าไปทุกวันช่วยชะล้างแคลเซี่ยมในร่างกาย
เอาเถอะ มันอาจจะไม่ถึงขั้นนั้น ถ้าดิฉันดื่มกาแฟแค่พอน่ารัก คือวันละแก้ว-สองแก้ว และไม่ใช่ในเวลาก่อนนอนเพียง ๒-๓ ชั่วโมงอย่างนี้
-๒-
บทสนทนากับชายผู้ลึกลับที่ดูเหมือนมีความอันตรายเป็นเงา
ชายคนนี้คือส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการจิตตกต่ำสุดเมื่อวันก่อน ก่อนจะต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อส่งงานในคืนก่อน ดิฉันพบเขา เราคุยกันยาวนาน อย่างถูกคอ และออกรส ผ่านโปรแกรม msn แม้จะเพิ่งรู้จักกัน แต่ดิฉันพบว่า เขา และบทสนทนาของเรา ทำให้เคมีบางอย่างในร่างกายของดิฉันเปลี่ยนแปลง
และความแปรปรวนของเคมีในตัวนี้ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทรงพลังยิ่งกว่ากาแฟดำตอน ๕ ทุ่มแก้วนั้นเสียอีก
สงสัยยิ่งนัก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ดิฉันจึงให้กูเกิ้ลช่วยค้นให้
พบประโยคน่าสนใจ จากนักจิตวิทยานาม Jim Pfaus
“You think someone made you feel good, but really is your BRAIN made you feel good” แท้จริงผู้บงการตัวจริงของความรู้สึกพิเศษคือ ‘สมอง’ ของเราเอง หาใช่ ‘ใครคนนั้น’
ว่ากันว่าในสมองของเรามีเซลล์ประสาทในสมองกลุ่มหนึ่ง เรียกว่า ventral tegmental มีหน้าที่สำคัญในการผลิตฮอร์โมนชื่อ โดปามีน (Dopamine)
โดปามีนจะทำงานหนักเมื่อเจ้าของสมองมีอารมณ์พึงพอใจ ยินดี มีความสุข หรือเมื่อได้รับรางวัลตอบแทน เช่น เมื่อแฟนจำวันเกิดได้
จากการทดสองในหนูพบว่า เมื่อทำให้หนูมีความพึงพอใจมากขึ้น ระดับของโดปามีนจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ
โดปามีนจะส่งผลต่ออารมณ์ของเจ้าของสมองให้มีความตื่นตัว กระฉับกระเฉง มีสมาธิ แล้วก็ไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ รอบตัว
....................
โดปามีนที่พรั่งพรูออกมาเพราะบทสนทนาก่อนนอน ทำให้เจ้าของสมองของดิฉันตื่นตัวจนไม่อาจนอนหลับสนิท(แม้จะอยากนอนมากๆ) อย่างนั้นสินะ?
สงสัยจัง ว่าความพึงพอใจ ความยินดี และมีความสุข เช่นนั้น จะเกิดขึ้นในทุกครั้งที่ได้สนทนากับชายลึกลับผู้นี้ไหม
ถ้าใช่ ..เห็นทีจะต้องงดการสนทนาก่อนนอน
เอ๊ะ หรือการเลี่ยงไปเลย จะเป็นการดีกับสุขภาพมากกว่า?
หมายเหตุ โดปามีนมีความสำคัญยิ่งกว่าการกระตุ้นสมองให้รับรู้ถึงความรู้สึกพึงพอใจ เพราะมันเป็นสารสื่อประสาทที่มีความสำคัญยิ่งกับอาการทางสมองหลายๆ อย่าง เช่น พาร์คินสัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ www.bangkokhealth.com
มาแนวไหนเนี่ย....สารคดีมากๆเลย...ต้องกลับไปอ่านบ้านตุ๊กตาเรื่องคำจำกัดความของสารคดี --->กึ่งวรรณกรรมกึ่งวิชาการ ฮิฮิ...
ตอบลบเห็นทีควรจะไปนั่งสวดมนต์ก่อนนอนนะฮ้าสำรวมกายกะจิตให้อยู่ร่วมกันเป็นที่เป็นทางก่อนนอน.. ...หุหุ
มาเยี่ยมมาอ่าน แต่ยังไงเราก็นอนหลับ (ขี้เกียจ)
ตอบลบโหยพี่จุ๊บคะ
ตอบลบออกจะเป็นเรื่องหวานแหว๋ว
มาว่าเป็นวิชาการซะงั้น
นอนไม่หลับ เพราะงานไม่เสร็จ
ตอบลบแถวบ้านเรียก "ฟอล อิน เลิฟ" หว่ะแก อิอิอิ
ตอบลบบ้า
ตอบลบชั้นอาจจะแค่ประสาทก็ได้เว้ย
อ้าว.....
ตอบลบ....ช่วงนี้พี่คงเครียดไป นิ ไม่ค่อยเก๊ทเรื่องวัยรุ่นอ่ะ ฮิฮิ ...
อยากมี moment นี้มั่งจิ๊ง
ไม่รู้ไม่ชี้...แกจะเรียกเป็นอะไรก็แล้วแต่...ประสาทตื่นตัว ประสาทเสีย หรือ...บลา บลา ชั้นก็ยังยืนยันว่าแถวบ้านเรียกว่าฟอล อิน เลิฟ หว่ะ...แต่มันไม่สำคัญว่าจะเรียกว่าอะไรไม่ใช่เหรอ? นานๆทีให้ประสาทมันตื่นตัวแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะแก..อิอิอิ
ตอบลบเวลาเขียนอะไรใส่ tag หน่อยซิครับ จะได้รู้ว่าเรื่องจัดอยู่ในหมวดหมู่ไหน
ตอบลบสาเหตุที่นอนไม่หลับอธิบายง่ายๆ ว่าเป็นเพราะวัย นะ
ถูก คนแก่มักนอนดึก
ตอบลบใจร้ายทั้งคู่
ตอบลบ
ตอบลบเดี๋ยวมาอ่านใหม่ เพราะ พี่ ง่วง นอนแล้ว ละ
พี่บุ๋มกินกาแฟ ก่อนนอน เหมือนเด็ก กินนม ก่อนนอน อะ
หลับปุ๋ย สบายดี อิอิ
ขอโทษนะ
ตอบลบแบบว่า เป็นคนมีระเบียบวินัยต่ำ
แล้วก็..ไม่รู้จะจัดไปทำไม
(ถ้าคนอ่านจะเลือกอ่านเป็นหมวดๆ ไป ก็เสียใจด้วย)
แต่อันที่จริงก็ได้จัดไว้คร่าวๆ นะ
เพื่อนที่อ่านกันเรื่อยๆ น่าจะรู้จากชื่อเรื่อง ว่าเรื่องนี้มันหมวดอะไร
สุดยอด
ตอบลบม้อย แว่บเข้ามาอ่าน ก็พบสาระประโยชน์ทีเดียวกับเรื่องราวชายคนนั้นของแก
ตอบลบต้องลองคุยกับเขาใหม่สิ จะได้ทดสอบสมมติฐาน
จากเพื่อนที่ไม่ค่อยชอบคุยกับคนแปลกหน้า
เออนะ
ตอบลบคืนนี้สเปนเตะซะด้วย
เผื่อคุยแล้วจะตาสว่าง
คิดถึงแกนะป้า วันก่อนป้าตุ่นบ่นอยากกินอาหารเกาหลีแน่ะ
แกน่ะบ้า :>
ตอบลบนึกว่าเพื่อนเปลี่ยนไป
ตอบลบค่อยสบายใจที่รู้ว่ายังเหมือนเดิม
...บ้าเหมือนเดิมว่ะ....55
อะล้อเล่งงงงงง
เออ อ่านไปเริ่มมึน ระหว่าง "คาเฟอีน" กับ "โดปามีน" จนจะผสมเป็นเป็น "ฮอร์โมนตัวใหม่ที่มีกาแฟเป็นตัวกระตุ้นรึเปล่า
ตอบลบอ่านแล้วได้ความว่าคุณม้อยยังอยู่ในช่วงวัยอลวนต่อไป อุ้ย...ดีใจด้วย หุหุ
คืนนี้นอนให้หลับนะ
เห็นด้วยกับพี่ทิพย์
ตอบลบหัวใจยังใช้การได้ดีอยู่ค่ะ ^ ^
ยังไม่อยากหลับเพราะอยากเชียร์สเปนก่อน
ตอบลบสงสัยต้องหาตัวกระตุ้นโดปามัีนแล้วสิ คุณทริป
อิอิ น่ารักดี
ตอบลบในที่สุดก็มีึคนรู้สึกว่าเรื่องนี้น่ารัก
ตอบลบขอบคุณนะจ๊ะ
ต้องเลิกกาแฟ ก่อนนอน ค่ะ
ตอบลบนั่นซีนะคะ
ตอบลบอ่านแล้วได้ความรู้ แทรกความโรแมนติกเล็กๆ น่ารักจริงๆด้วยแหละ
ตอบลบต้องพึ่งยานอนหลับมาหลายปี แต่ชายลึกลับที่ต้องคุยด้วยก่อนนอนก็ทำให้เลิกใช้ยาเหมือนกัน 555
ตอบลบ